พบผลลัพธ์ทั้งหมด 375 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้หลังการเสียชีวิตของผู้ทำสัญญาเดิม และการเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากผู้ซื้อไม่สุจริต
มารดาทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขา โดยได้รับเงินค่าที่ดินนั้นไว้บางส่วน และส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้ว ครั้นมารดาถึงแก่กรรม บุตรผู้เป็นทายาทได้ไปขอรับเงินค่าที่ดินนั้นเพิ่มเติมจากผู้ซื้อ และรับว่าจะปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้ที่มีเงื่อนไขขายที่ดิน สิทธิของโจทก์จำกัดเมื่อพ้นกำหนดสัญญา
สัญญากู้เงินกันมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ครอบครองทำกินต่างดอกเบี้ย และตามสัญญามีเงื่อนไขด้วยว่าถ้าผู้กู้ประสงค์จะขายที่ดินที่ประกันนั้นแก่ผู้ให้กู้ภายในกำหนด 6 ปี ผู้ให้กู้ยินยอมรับซื้อเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ถ้าพ้นกำหนด 6 ปี แล้ว ผู้กู้ต้องชำระหนี้เงินกู้ให้ผู้ให้กู้จนครบถ้วน หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีการตกลงกันใหม่ ดังนี้เมื่อพ้นกำหนด 6 ปี แล้ว ผู้กู้ไม่ประสงค์จะขายที่ดิน แต่เลือกเอาทางชำระหนี้เงินกู้ได้ ผู้ให้กู้จะฟ้องขอให้ผู้กู้ขายที่ดินให้ตนเหมือนสัญญาจะซื้อขายธรรมดา ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้จากหนังสือรับรองและหลักฐานการชำระหนี้บางส่วน
จำเลยทำหนังสือรับรองไว้มีใจความว่า จำเลยได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลและโจทก์เป็นผู้ทำการผ่าตัด ค่าผ่าตัดนั้นตามบิลของโจทก์เป็นจำนวน 6500 แฟรงค์ และในวันที่ 29พฤษภาคม 2489 จำเลยได้ใช้หนี้แก่โจทก์ไปแล้ว 650แฟรงค์ ดังนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้รับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการขัดอายุความ: หนังสือรับรองยืนยันการชำระหนี้บางส่วน
จำเลยทำหนังสือรับรองไว้มีใจความว่า จำเลยได้รักษาตัวที่โรงพยาบาลและโจทก์เป็นผู้ทำการผ่าตัด ค่าผ่าตัดนั้นตามบิลของโจทก์เป็นจำนวน 6500 แฟรงค์ และในวันที่ 29 พฤษภาคม 2489 จำเลยได้ใช้หนี้แก่โจทก์ไปแล้ว 650 แฟรงค์ ดังนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้รับสภาพหนี้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 172 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงแบ่งมรดกยังไม่สมบูรณ์ อายุความไม่สะดุด
ผู้รับมรดกคนหนึ่งพูดถามผู้รับมรดกซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ว่าเมื่อไรจะแบ่งมรดกผู้ครอบครองทรัพย์มรดกตอบว่าเอาไว้เผาศพผู้ตายเสียก่อน ดังนี้ย่อมไม่ใช่เป็นการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว คงเป็นแต่เพียงพูดกันเรื่องจะแบ่งมรดกเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพูดคุยเรื่องแบ่งมรดกยังไม่ถือเป็นการตกลงหรือรับสภาพหนี้ ทำให้ไม่เกิดผลทางกฎหมายและอายุความไม่หยุดนิ่ง
ผูรับมรดกคนหนึ่งพูดถามผู้รับมรดกซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ว่า เมื่อไรจะแบ่งมรดกผู้ครอบครองทรัพย์มรดกตอบว่าเอาไว้เผาศพผู้ตายเสียก่อน ดังนี้ ย่อมไม่ใช่เป็นการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว คงเป็นแต่เพียงพูดกันเรื่องจะแบ่งมรดกเท่ารนั้น ใช่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172 แห่ง ป.ม.แพ่งฯ อันจะทำให้อายุความสดุดหยุดลง
(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอาศัยโดยผลของการเปรียบเทียบ - เจตนาให้มีสิทธิอยู่ตลอดชีวิต แม้มิได้จดทะเบียน
โจทก์ จำเลยตกลงกันตามคำเปรียบเทียบของคณะกรรมการอำเภอ ซึ่งมีความว่า "ให้จำเลยอยู่ในที่(พิพาท)นี้เรื่อยไป แต่จะยกที่ดินให้ใครไม่ได้ ส่วนพืชผลก็อาศัยแบ่งกันเก็บเงินไป" ดังนี้ ย่อมแสดงให้เห็นเจตนาของคู่ความว่า ให้จำเลยมีสิทธิอาศัยอยู่ในที่พิพาทเรื่อยไปจนตลอดชีวิตนั่นเอง และการยอมให้อาศัยเช่นนี้ แม้มิได้จดทะเบียน ก็ใช้ยันกันเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยวาจาและการสะดุดหยุดอายุความตาม ป.ม.แพ่ง มาตรา 172
การรับสภาพหนี้นั้น ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 172 ตอนท้ายก็แสดงอยู่ชัดว่า ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบแคลงสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้น ก็ได้จึงหาจำเป็นต้องทำเป็นหนังสือเสมอไปไม่
บิดาทำสัญญาขายเรือนให้เขา ครั้นต่อมาบิดาตายตนเป็นผู้รับมรดก และยอมรับจะโอนเรือนให้เขาตามสัญญาซื้อขายโดยวาจา และยังได้ยินยอมให้เขาครอบครองเรือนนั้นตั้งแต่บิดาตายตลอดมา ดังนี้ เรียกได้ว่าบุตรยอมรับสภาพต่อผู้ซื้อซึ่งเป็นเจ้าหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 172
บิดาทำสัญญาขายเรือนให้เขา ครั้นต่อมาบิดาตายตนเป็นผู้รับมรดก และยอมรับจะโอนเรือนให้เขาตามสัญญาซื้อขายโดยวาจา และยังได้ยินยอมให้เขาครอบครองเรือนนั้นตั้งแต่บิดาตายตลอดมา ดังนี้ เรียกได้ว่าบุตรยอมรับสภาพต่อผู้ซื้อซึ่งเป็นเจ้าหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยการแสดงเจตนาชัดเจน และผลต่ออายุความ
การรับสภาพหนี้นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา172 ตอนท้ายก็แสดงอยู่ชัดว่า ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบแคลงสงสัย ตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้น ก็ได้ จึงหาจำเป็นต้องทำเป็นหนังสือเสมอไปไม่
บิดาทำสัญญาขายเรือนให้เขา ครั้นต่อมาบิดาตายตนเป็นผู้รับมรดกและยอมรับจะโอนเรือนให้เขาตามสัญญาซื้อขายโดยวาจา และยังได้ยินยอมให้เขาครอบครองเรือนนั้นตั้งแต่บิดาตายตลอดมา ดังนี้ เรียกได้ว่าบุตรยอมรับสภาพต่อผู้ซื้อ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
บิดาทำสัญญาขายเรือนให้เขา ครั้นต่อมาบิดาตายตนเป็นผู้รับมรดกและยอมรับจะโอนเรือนให้เขาตามสัญญาซื้อขายโดยวาจา และยังได้ยินยอมให้เขาครอบครองเรือนนั้นตั้งแต่บิดาตายตลอดมา ดังนี้ เรียกได้ว่าบุตรยอมรับสภาพต่อผู้ซื้อ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาเช่า: การรับสภาพหนี้และการนับอายุความใหม่
การฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกี่ยวแก่สัญญาเช่านั้นจะต้องฟ้องภายในกำหนด 6 เดือน และแม้จะมีการรับสภาพหนี้กันซึ่งทำให้อายุความสดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ก็ตามแต่เมื่อเริ่มนับใหม่ตามมาตรา 181 ก็ต้องถืออายุความเดิมเป็นแต่ตั้งต้นนับใหม่