คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 172

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 375 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการผ่อนชำระหนี้ แม้จำเลยอ้างเพียงยอมรับหนี้เพื่อบรรเทาโทษทางอาญา
คำให้การของจำเลยเป็นเรื่องต่อสู้ว่า จำเลยมิได้รับสภาพหนี้ซึ่งไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น การที่จำเลยอุทธรณ์ว่าหนี้ค่าจ้างทำฟิล์มโปร่งแสงโฆษณาระงับด้วยการแปลงหนี้ใหม่มาเป็นมูลหนี้ตามเช็คนั้น จึงเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้เป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยจึงยกขึ้นมาอุทธรณ์ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคแรก จำเลยรับว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ค่าจ้างทำฟิล์มโปร่งแสงโฆษณาให้โจทก์ เมื่อเช็คเรียกเก็บเงินไม่ได้และโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา จำเลยก็รับสารภาพและตกลงผ่อนชำระหนี้ให้ดังนี้ จึงเป็นการชำระหนี้ค่าจ้างบางส่วนให้โจทก์ ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172เดิม (มาตรา 193/14 ใหม่) เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากจำเลยงดการผ่อนชำระหนี้ ยังไม่เกิน 2 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้ซื้อของเชื่อและการรับสภาพหนี้ ฟ้องขาดอายุความเมื่อนับจากหนังสือรับสภาพหนี้เกิน 2 ปี
การรับสภาพหนี้มีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลงและเริ่มนับอายุความใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้เดิม เมื่อมูลหนี้เดิมของโจทก์เป็นเรื่องการซื้อของเชื่อจึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) เดิม โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดตามหนังสือรับสภาพหนี้แล้ว ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2948/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกชำระหนี้แทนลูกหนี้: สัญญาผูกพันใช้บังคับได้หากทำด้วยความสมัครใจ
ข. ขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย เจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับ ข. และทำบันทึกตกลงทางแพ่งไว้ว่า จำเลยขอรับชดใช้ในมูลละเมิดทั้งหมดและรับชดใช้ซ่อมรถยนต์โจทก์ให้อยู่ในสภาพเดิม ถือว่าในขณะทำบันทึก ข. มีหนี้ต้องชำระแก่โจทก์การที่จำเลยยอมทำบันทึกดังกล่าว เป็นกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกขอเข้ามาชำระหนี้แทน ข. ลูกหนี้ แม้บันทึกดังกล่าวจะไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ แต่เป็นสัญญาประเภทหนึ่ง เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นการขืนใจลูกหนี้และไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์ใช้บังคับได้ และมีผลผูกพันจำเลยให้ต้องรับผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้มีผลผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อ ศาลลดดอกเบี้ยเบี้ยปรับได้
จำเลยตกลงทำหนังสือรับสภาพหนี้ยินยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาผูกพันตามนั้น จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าเสียหายให้โจทก์ตามหนังสือรับสภาพหนี้ ส่วนดอกเบี้ยที่กำหนดตามหนังสือรับสภาพหนี้ถือเป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้า ศาลมีอำนาจลดได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 383.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้โดยตัวแทน และผลต่ออายุความ การกระทำของตัวแทนผูกพันลูกหนี้
การรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172 จะต้องกระทำโดยลูกหนี้แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยลงลายมือชื่อรับสินค้าแทนจำเลยที่ 1 และเคยพูดขอผัดผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2มอบหลังคาไฟเบอร์กระบะรถชำระหนี้ให้โจทก์เป็นการกระทำ โดยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่า จำเลย ที่2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยาย จึงเป็นการรับ สภาพหนี้ที่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ในวันที่จำเลยที่ 1รับสภาพหนี้และเริ่มนับใหม่ตั้งแต่เวลาเมื่อเหตุ ที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นสิ้นสุด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้โดยตัวแทนโดยปริยาย และผลต่ออายุความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง จำเลยที่ 2เคยลงลายมือชื่อรับสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อมาจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1และเคยพูดขอผัดผ่อนชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2มอบหลังคาไฟเบอร์กระบะรถชำระหนี้ให้โจทก์ เป็นการกระทำโดยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยาย จึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพัน จำเลยที่ 1 ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้โดยตัวแทน: การชำระหนี้ด้วยการมอบทรัพย์สินทำให้หนี้เกิดผลผูกพันและอายุความสะดุดหยุดลง
การรับสภาพหนี้ แม้ต้องกระทำโดยลูกหนี้ แต่ลูกหนี้อาจ ตั้ง ตัวแทนให้ชำระหนี้แทนได้ ตัวแทนของจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้โจทก์ จึงเป็นการรับสภาพหนี้ที่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ทำให้อายุความ สะดุดหยุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสินค้าเกิน 500 บาท หนังสือรับสภาพหนี้ และการเชิดตัวแทนทางกฎหมายทำให้เกิดผลผูกพันและอายุความสะดุดหยุด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซื้อเครื่องกำจัดน้ำเสียกับพลาสติกมีเดีย จากโจทก์ โจทก์ส่งมอบสินค้าครบถ้วนแต่จำเลยที่ 1ชำระค่าสินค้าไม่ครบ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าสินค้าที่ยังค้างชำระพร้อมดอกเบี้ย โจทก์แนบสำเนาใบส่งของและสำเนาหนังสือแจ้งยอดเงินค้างชำระไว้ท้ายคำฟ้องปรากฏรายการสินค้าที่โจทก์ส่งให้จำเลยที่ 1 และราคาสินค้าทั้งหมด รวมทั้งรายการชำระเงินค่าสินค้าของจำเลยที่ 1 ซึ่งเมื่อหักกลบลบกันแล้วเหลือยอดเงินค้างชำระตามที่โจทก์ฟ้อง เช่นนี้ คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 ส่วนมีการซื้อขายกี่ครั้งครั้งละเท่าใด เป็นเงินเท่าใด ชำระแล้วเมื่อใด ค้างชำระการซื้อขายครั้งใด เท่าใด เป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม การซื้อขายมีราคาเกินกว่า 500 บาท โดยมิได้ทำสัญญาหรือทำหลักฐานเป็นหนังสือหรือวางประจำไว้ แต่มีการทำหนังสือรับสภาพหนี้กันไว้ โจทก์ส่งมอบสินค้าให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ชำระราคาบ้างแล้วถือว่าการซื้อขายรายนี้มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับคดีได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 456 จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล มีผู้เป็นหุ้นส่วน3 คน การที่จำเลยที่ 1 มอบให้ ส. หุ้นส่วนคนหนึ่งเสนอประมูลราคาก่อสร้างงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่นลงชื่อเป็นคู่สัญญาแทนจำเลยที่ 1 และเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างตามสัญญา พนักงานของโจทก์ติดต่อกับ ส. ขายสินค้าให้จำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ส่งสินค้าให้จำเลยที่ 1 ก็ชำระค่าสินค้าให้โจทก์บางส่วน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1เชิด ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 821เมื่อ ส. ลงลายมือชื่อรับรองรายการส่งสินค้าพร้อมราคาและรายการชำระเงินค่าสินค้าบางส่วนซึ่งเมื่อหักกลบลบกันแล้วปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ยังเป็นหนี้โจทก์ดังนี้เอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าจ้างก่อสร้าง เริ่มนับจากวันส่งมอบงาน ไม่ใช่วันทำงานเสร็จ
การที่โจทก์และจำเลยที่ 1 ตกลงต่ออายุสัญญาก่อสร้างออกไปทำให้ระยะเวลาที่ต่อออกไปนั้นครบกำหนดก่อนวันที่โจทก์ส่งมอบงานงวดสุดท้าย ดังนั้น แม้ว่าการต่ออายุสัญญาดังกล่าวจะทำให้อายุของสัญญายืดออกไป แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการนับอายุความที่จะทำให้อายุความสะดุดหยุดลงและเริ่มนับอายุความใหม่ เพราะสิทธิเรียกร้องสินจ้างในการก่อสร้างนั้นต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีการส่งมอบงานกัน มิใช่นับตั้งแต่วันที่ทำงานเสร็จ เงินค่าปรับที่โจทก์ได้รับคืนไปจากจำเลยที่ 1 เกิดจากจำเลยที่ 1 หักค่าจ้างไว้เป็นค่าปรับเนื่องมาจากสัญญาจ้างก่อสร้างกำหนดเบี้ยปรับไว้ เมื่อโจทก์ผิดสัญญาส่งมอบงานล่าช้าจึงถูกจำเลยที่ 1 ปรับ ต่อมาภายหลังโจทก์ขอต่ออายุสัญญาอีกแต่ไม่ได้รับการต่อให้ คงได้รับเงินส่วนลดค่าปรับตามมติคณะรัฐมนตรีคืนเท่านั้น การคืนค่าปรับให้ ซึ่งจำเลยไม่มีหน้าที่และไม่ใช่การชำระค่าจ้างโจทก์ตามสัญญา จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ของจำเลยที่ 1 อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลงโจทก์มาฟ้องเรียกเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างและเงินค่าจ้างขุดคูน้ำโดยอ้างว่าคณะกรรมการควบคุมงานของจำเลยที่ 1 ได้สั่งให้โจทก์ขุดเพิ่มขึ้นจากงานตามสัญญาจ้างในวันที่ 29 มิถุนายน 2526เป็นเวลาเกิน 2 ปี นับแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2524 ซึ่งเป็นวันที่มีการส่งและมอบงานกัน จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสิทธิเรียกร้องค่าจ้างก่อสร้าง: เริ่มนับจากวันส่งมอบงาน ไม่ใช่ทำงานเสร็จ การต่ออายุสัญญาก่อนส่งมอบงานไม่กระทบอายุความ
จำเลยที่ 1 ต่ออายุสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างให้แก่โจทก์ ระยะเวลาที่ต่ออายุสัญญาครบกำหนดก่อนวันที่โจทก์ส่งมอบงานงวดสุดท้าย การต่ออายุสัญญาดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการนับอายุความ เพราะสิทธิเรียกร้องสินจ้างในการก่อสร้างนั้นต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีการส่งมอบงาน หาใช่นับตั้งแต่วันที่ทำงานเสร็จไม่
เงินค่าปรับที่โจทก์ได้รับคืนไปจากจำเลยที่ 1 นั้น เกิดจากจำเลยที่ 1 หักค่าจ้างไว้เป็นค่าปรับเนื่องจากโจทก์ผิดสัญญาส่งมอบงานล่าช้า ต่อมาโจทก์ขอต่ออายุสัญญาอีกแต่ไม่ได้รับการต่อให้ คงได้รับเงินส่วนลดค่าปรับตามมติคณะรัฐมนตรี การคืนค่าปรับให้ซึ่งจำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่และไม่ใช่การชำระค่าจ้างตามสัญญา ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ของจำเลยที่ 1 อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าจ้างเป็นเวลาเกิน 2 ปีนับแต่วันที่มีการส่งและรับมอบงานกัน คดีจึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 165 (1)
of 38