คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 354

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 168 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของคนต่างด้าว, อายุความค่าสิทธิประดิษฐ์, การบอกเลิกสัญญา, และการเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ
การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ช.ซึ่งเป็นคนต่างด้าวมีอำนาจดำเนินคดีแก่จำเลย หาใช่เป็นการมอบอำนาจให้ประกอบธุรกิจบริการ โดยการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนการค้าไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2515 ข้อ 4 และตามบัญชี ก.ท้ายประกาศ หมวด 3(5)
ค่าสิทธิประดิษฐ์ในการให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ฝึกสอนวิธีการประดิษฐ์กระเบื้องซีรามิคตามสัญญา ซึ่งมีการตกลงจ่ายเป็นงวด ๆ โดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย นั้น ไม่เข้าลักษณะการเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) (7) จึงมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 164
หนังสือของจำเลยตอบหนังสือของโจทก์ที่ถามความเห็นเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญาว่าจำเลยตกลงใจไม่ต่อสัญญาความช่วยเหลือทางเทคนิคกับโจทก์และโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์ตกลงตามที่จำเลยตัดสินใจ ดังนี้ หนังสือของจำเลยดังกล่าวไม่ใช่หนังสือบอกเลิกสัญญากับโจทก์ แต่เป็นหนังสือที่มีลักษณะเป็นการสนองตอบตามที่โจทก์ขอความเห็นหรือหารือล่วงหน้าก่อนครบกำหนดต่ออายุสัญญาว่า จะมีการต่ออายุสัญญาต่อไปหรือไม่โจทก์กลับมีหนังสืออันมีข้อความในลักษณะเป็นการตกลงตามที่จำเลยสนองตอบข้อหารือของโจทก์นั้น จึงเท่ากับตกลงที่จะไม่ต่ออายุสัญญากันด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย จำเลยมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด
สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความว่า ข้อขัดแย้งหรือข้อเรียกร้องใดซึ่งเกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับสัญญานี้หรือการประพฤติปฏิบัติผิดสัญญานี้ คู่สัญญาจะทำความตกลงกันด้วยสันติวิธี ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้จะต้องชี้ขาดโดยอนุญาโตตุลาการ ดังนี้ สัญญามิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องตั้งอนุญาโตตุลาการให้ชี้ขาดข้อพิพาทเสียก่อน จึงจะฟ้องได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้เสนอให้มีการตั้งอนุญาโตตุลาการ โจทก์จึงฟ้องคดีได้โดยไม่ต้องเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณาก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต่ออายุ: การสนองรับคำเสนอของผู้ให้เช่าทำให้เกิดสัญญาเช่าใหม่ได้ แม้ไม่มีสัญญาฉบับใหม่
สัญญาเช่าตึกแถวพิพาทข้อ 10 กำหนดว่า 'เมื่อครบกำหนดอายุสัญญา และผู้เช่าประสงค์จะเช่าต่อไป ผู้เช่าจะได้เสนอขอต่อสัญญาเช่าต่อผู้ให้เช่าภายในกำหนด 60 วัน หากมิได้ขอต่อสัญญาภายในกำหนดนี้ให้ถือว่าผู้เช่าสละสิทธิการเช่า ........' และมีหมายเหตุต่อท้ายสัญญาดังกล่าวว่า 'สัญญานี้มีอายุ 15 ปี ต่ออายุสัญญา 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง ทุกครั้งที่ต่ออายุสัญญาผู้เช่าต้องนำเงินมาบำรุงวัดเป็นจำนวน 6,000 บาท 'ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดจำเลยผู้เช่าได้มีหนังสือแสดงความจำนงขอเช่าต่อโจทก์ที่ 1 ผู้ให้เช่าภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เท่ากับผู้เช่าสนองรับคำเสนอของผู้ให้เช่าแล้วถือได้ว่าสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและวิธีการที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิมโดยไม่จำต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก จำเลยอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อมา จึงไม่เป็นละเมิด
การที่จำเลยผู้เช่าขอให้บังคับผู้เช่าช่วงส่งมอบตึกแถวพิพาทแก่จำเลยเพื่อเข้าครอบครองใช้สิทธิตามสัญญาเช่าอันเป็นสิทธิของจำเลยที่จะกระทำได้ตามคำพิพากษาของศาลนั้น ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 2 ซึ่งอ้างว่าได้เช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์ที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต่ออายุ: การสนองรับคำเสนอภายในกำหนดระยะเวลาทำให้สัญญาเช่าเกิดผลใหม่
สัญญาเช่าตึกแถวพิพาทข้อ 10 กำหนดว่า 'เมื่อครบกำหนดอายุสัญญา และผู้เช่าประสงค์จะเช่าต่อไป ผู้เช่าจะได้เสนอขอต่อสัญญาเช่าต่อผู้ให้เช่าภายในกำหนด 60 วัน หากมิได้ขอต่อสัญญาภายในกำหนดนี้ให้ถือว่าผู้เช่าสละสิทธิการเช่า ........' และมีหมายเหตุต่อท้ายสัญญาดังกล่าวว่า 'สัญญานี้มีอายุ 15 ปี ต่ออายุสัญญา 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง ทุกครั้งที่ต่ออายุสัญญาผู้เช่าต้องนำเงินมาบำรุงวัดเป็นจำนวน 6,000 บาท 'ดังนี้ เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดจำเลยผู้เช่าได้มีหนังสือแสดงความจำนงขอเช่าต่อโจทก์ที่ 1 ผู้ให้เช่าภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา เท่ากับผู้เช่าสนองรับคำเสนอของผู้ให้เช่าแล้วถือได้ว่าสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและวิธีการที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิมโดยไม่จำต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก จำเลยอยู่ในตึกแถวพิพาทต่อมา จึงไม่เป็นละเมิด
การที่จำเลยผู้เช่าขอให้บังคับผู้เช่าช่วงส่งมอบตึกแถวพิพาทแก่จำเลยเพื่อเข้าครอบครองใช้สิทธิตามสัญญาเช่าอันเป็นสิทธิของจำเลยที่จะกระทำได้ตามคำพิพากษาของศาลนั้น ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 2 ซึ่งอ้างว่าได้เช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์ที่ 1.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอซื้อขายที่ดินที่มีเงื่อนเวลาและราคา หากไม่สนองตอบตามกำหนด สัญญาซื้อขายไม่ผูกพัน
โจทก์มีหนังสือแสดงความจำนงจะซื้อที่ดินและสอบถามราคาที่ดินด้วยว่า จำเลยมีความประสงค์จะขายที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าในราคาตารางวาละเท่าใด เพื่อโจทก์จะได้เตรียมเงินไว้ซื้อให้ถูกต้อง หนังสือตอบของจำเลยมีความว่าหากโจทก์ประสงค์จะซื้อที่ดินให้ไปทำความตกลงกับจำเลยให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และแจ้งไปด้วยว่า จำเลยจะขายในราคาตารางวาละ 1,300 บาท หากพ้นกำหนดเวลาแล้ว จำเลยจะถือว่าโจทก์สละสิทธิ์ที่จะซื้อที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ไม่สนองตอบภายในเวลาที่จำเลยกำหนด จึงไม่ผูกพันจำเลยที่จะขายที่ดินให้โจทก์อีกต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อเสนอขายที่ดินที่มีเงื่อนเวลาและราคา การไม่สนองตอบภายในเวลาไม่ผูกพันจำเลย
โจทก์มีหนังสือแสดงความจำนงจะซื้อที่ดินและสอบถามราคาที่ดินด้วยว่าจำเลยมีความประสงค์จะขายที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าในราคาตารางวาละเท่าใดเพื่อโจทก์จะได้เตรียมเงินไว้ซื้อให้ถูกต้องหนังสือตอบของจำเลยมีความว่าหากโจทก์ประสงค์จะซื้อที่ดินให้ไปทำความตกลงกับจำเลยให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด15วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือและแจ้งไปด้วยว่าจำเลยจะขายในราคาตารางวาละ1,300บาทหากพ้นกำหนดเวลาแล้วจำเลยจะถือว่าโจทก์สละสิทธิ์ที่จะซื้อที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ไม่สนองตอบภายในเวลาที่จำเลยกำหนดจึงไม่ผูกพันจำเลยที่จะขายที่ดินให้โจทก์อีกต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมาต้องทำเป็นหนังสือ การเสนอราคารับเหมายังไม่ถือเป็นสัญญาผูกพัน
จำเลยเสนอราคารับเหมาก่อสร้าง และกำหนดเวลาให้โจทก์สนองรับในใบสืบราคาของโจทก์ ต่อมาได้ลดราคาลงอีกและขยายเวลาตอบสนองรับให้โจทก์ แม้โจทก์ตอบสนองรับก็ยังไม่มีสัญญาต่อกัน โจทก์จึงต้องแจ้งให้จำเลยไปทำสัญญากับโจทก์การที่จำเลยไม่ไปทำหนังสือสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับโจทก์จึงไม่เป็นเหตุให้โจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือให้คำมั่นซื้อคืนที่ดิน: กำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญ แม้มีคำสั่งห้ามโอนชั่วคราวก็ไม่สะดุด
หนังสือให้คำมั่นของโจทก์ที่ให้ไว้แก่จำเลยระบุไว้โดยชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยต้องยื่นคำเสนอว่าจะซื้อที่พิพาทคืนภายในกำหนดเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2515 การที่จำเลยเพิ่งเสนอว่าจะซื้อที่พิพาทคืนเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2522. จึงล่วงเลยกำหนดระยะเวลาตามคำมั่นเสียแล้ว คำเสนอขอซื้อของจำเลยจึงไร้ผล
การที่ศาลชั้นต้นในคดีอื่นมีคำสั่งห้ามโอนที่พิพาทเป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น มิได้เป็นข้อห้ามหรือขัดข้องแก่การที่จำเลยจะยื่นคำเสนอขอซื้อที่พิพาทคืน เพราะการเสนอขอซื้อเป็นคนละขั้นตอนกับการจำหน่ายจ่ายโอน คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวจึงไม่มีผลให้ระยะเวลาตามคำมั่นต้องสะดุดหยุดลง
ข้อฎีกาที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกพันตามหนังสือให้คำมั่นซื้อขายที่ดิน: กำหนดระยะเวลาและผลของการไม่ปฏิบัติตาม
หนังสือให้คำมั่นของโจทก์ที่ให้ไว้แก่จำเลยระบุไว้โดยชัดแจ้งแล้วว่า จำเลยต้องยื่นคำเสนอว่าจะซื้อที่พิพาทคืนภายในกำหนดเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2515 การที่จำเลยเพิ่งเสนอว่าจะซื้อที่พิพาทคืนเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2522. จึงล่วงเลยกำหนดระยะเวลาตามคำมั่นเสียแล้ว คำเสนอขอซื้อของจำเลยจึงไร้ผล
การที่ศาลชั้นต้นในคดีอื่นมีคำสั่งห้ามโอนที่พิพาทเป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น มิได้เป็นข้อห้ามหรือขัดข้องแก่การที่จำเลยจะยื่นคำเสนอขอซื้อที่พิพาทคืน เพราะการเสนอขอซื้อเป็นคนละขั้นตอนกับการจำหน่ายจ่ายโอน คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวจึงไม่มีผลให้ระยะเวลาตามคำมั่นต้องสะดุดหยุดลง
ข้อฎีกาที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมาต้องทำเป็นหนังสือ: ผลของการตกลงให้ทำสัญญาอีกชั้นหนึ่ง
จำเลยทำคำเสนอจะทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารต่อโจทก์โดยเสนอราคาค่าก่อสร้างหลังละ 500,000 บาท โจทก์ตกลงและมีหนังสือแจ้งให้จำเลยมาทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับเจ้าหน้าที่ แต่จำเลยกลับปฏิเสธและแจ้งแก่โจทก์ขอระงับการทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง โจทก์จึงว่าจ้างผู้รับเหมารายอื่นก่อสร้างอาคารดังกล่าวในราคาสูงขึ้นกว่าเดิม ดังนี้เป็นกรณีที่โจทก์ตกลงจะจ้างเหมาจำเลยก่อสร้างตามคำเสนอของจำเลย โดยให้จำเลยไปทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอีกชั้นหนึ่งจึงจะมีผลให้ผูกพันกันได้ ต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 366 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อยังมิได้กระทำสัญญาเป็นหนังสือต่อกัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะอาศัยเพียงข้อเสนอของจำเลยและการสนองรับของโจทก์ให้เป็นข้อสัญญาจ้างเหมาที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมาต้องทำเป็นหนังสือ: ผลของการตกลงทำสัญญาอีกชั้นหนึ่ง
จำเลยทำคำเสนอจะทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารต่อโจทก์ โดยเสนอราคาค่าก่อสร้างหลังละ 500,000 บาท โจทก์ตกลงและมีหนังสือแจ้งให้จำเลยมาทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับเจ้าหน้าที่ แต่จำเลยกลับปฏิเสธและแจ้งแก่โจทก์ขอระงับการทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง โจทก์จึงว่าจ้างผู้รับเหมารายอื่นก่อสร้างอาคารดังกล่าวในราคาสูงขึ้นกว่าเดิม ดังนี้เป็นกรณีที่โจทก์ตกลงจะจ้างเหมาจำเลยก่อสร้างตามคำเสนอของจำเลย โดยให้จำเลยไปทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอีกชั้นหนึ่งจึงจะมีผลให้ผูกพันกันได้ ต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 366 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อยังมิได้กระทำสัญญาเป็นหนังสือต่อกัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะอาศัยเพียงข้อเสนอของจำเลยและการสนองรับของโจทก์ให้เป็นข้อสัญญาจ้างเหมาที่จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
of 17