พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา: การโต้แย้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย, คำสั่งระหว่างพิจารณา, ผู้เสียหาย
โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยหักเงินจากบัญชีของโจทก์ในฐานะจำเลยเป็นตัวแทนของธนาคาร ทั้งที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์และหักเงินจากบัญชีของโจทก์โดยธนาคารไม่ทราบเรื่อง และอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย โดยโจทก์อ้างว่าโจทก์ต้องสูญเสียเงิน และฝ่ายได้รับความเสียหายโดยไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัยอุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวเป็นการโต้เถียงว่าศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนและวินิจฉัยข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาในคดีอาญาไม่จำต้องโต้แย้งไว้ก่อน แม้โจทก์มิได้โต้แย้งไว้ก่อนก็ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ ทั้งโจทก์อุทธรณ์ด้วยว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์มิใช่ผู้เสียหายนั้นไม่ถูกต้อง ถือได้ว่าโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาด้วยแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการวินิจฉัยอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายในคดีอาญา และการพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิด
โจทก์อุทธรณ์โต้เถียง ว่า ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงผิดไปจากพยานหลักฐานในสำนวนและวินิจฉัยข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาในคดีอาญาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196นั้น ไม่จำต้องโต้แย้งไว้ก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา แม้โจทก์มิได้โต้แย้งไว้ก่อนก็มีสิทธิอุทธรณ์ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงและให้ใช้ราคาทรัพย์จำเลยให้การปฏิเสธ การที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่สืบตัวโจทก์จบคำซักถามทนายโจทก์แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์มิใช่ผู้เสียหายในคดีส่วนอาญาและไม่เสื่อมสิทธิเรียกร้องที่มีต่อธนาคาร จึงไม่มีอำนาจฟ้องทั้งในคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่ง ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำสืบมายังไม่อาจรับฟังได้เป็นยุติ เช่นนี้ ชอบที่ศาลสูงจะย้อนสำนวนกลับไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2229/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีอาญาที่เพิกถอนการแก้ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ได้จนกว่าจะมีคำพิพากษา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย ตามป.วิ.อ. มาตรา 196 อุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ในระหว่างพิจารณาจึงต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2229/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งเพิกถอนการแก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ก่อนมีคำพิพากษา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2229/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ไม่อุทธรณ์ได้จนกว่ามีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอฟังผลคดีอื่น และจำหน่ายคดีชั่วคราว ไม่เป็นคำสั่งที่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงไม่อุทธรณ์ได้
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รอฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลคดีถึงที่สุดในคดีอื่น คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ส่วนการที่ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีชั่วคราว เมื่อคดีอื่นที่รอฟังผลนั้นถึงที่สุดเมื่อใด ให้โจทก์แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบเพื่อจะได้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการจำหน่ายคดีที่ไม่ให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวอีกเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 391/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอฟังผลคดีอื่นและจำหน่ายคดีชั่วคราว ไม่เป็นคำสั่งที่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงไม่อุทธรณ์ได้
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รอฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลคดีถึงที่สุดในคดีอื่น คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ส่วนการที่ศาลชั้นต้นได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีชั่วคราว เมื่อคดีอื่นที่รอฟังผลนั้นถึงที่สุดเมื่อใด ให้โจทก์แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบเพื่อจะได้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนี้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวอีกเช่นกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเรื่องฉ้อโกง, ข้อเท็จจริงยุติ, ไม่มีประโยชน์ต่อคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกงเพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คงรับเฉพาะฎีกาโจทก์เกี่ยวกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับฎีกาในความผิดฐานฉ้อโกง ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดฐานฉ้อโกงตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่จะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากข้อเท็จจริงยุติแล้วตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกงเพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คงรับเฉพาะฎีกาโจทก์เกี่ยวกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับฎีกาในความผิดฐานฉ้อโกง ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดฐานฉ้อโกงตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่จะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และการไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานฉ้อโกง เพราะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คงรับเฉพาะฎีกาโจทก์เกี่ยวกับคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ชอบ โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นที่ไม่ยอมรับฎีกาในความผิดฐานฉ้อโกงข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2ไม่ได้กระทำผิดฐานฉ้อโกงตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่มีประโยชน์แก่คดีที่จะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ต่อไป