คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 214

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 67 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอม และการยกเหตุถูกหลอกลวงในชั้นฎีกา
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใดๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม: สิทธิโจทก์บังคับคดีจากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุเฉพาะทรัพย์จำนอง และจำเลยมิได้อุทธรณ์
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนองที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วจำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใด ๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.138

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เดิมยังผูกพันกองมรดก แม้มีการรับรองหนี้ แต่ผู้รับรองไม่ชำระ
เจ้าหนี้ของผู้ตาย ฟ้องเรียกเงินกู้ที่ผู้ตายกู้ไว้จากผู้ซึ่งอ้างตนว่า เป็นทายาทของผู้ตาย แล้วประนีประนอมยอมความ กันในศาล โดยผู้อ้างว่าเป็นทายาทนั้น จะรับใช้เงินกู้ และดอกเบี้ยให้ ศาลจึงพิพากษาตามยอมครั้นครบกำหนดไม่ ชำระ เจ้าหนี้จึงนำยึดที่ดินของกองมรดก บุตรของผู้ตายซึ่งเป็นทายาทที่แท้จริง จึงขัดทรัพย์จนศาลสั่งถอนการยึด คดีถึงที่สุดแล้วเจ้าหนี้จึงมาฟ้องบุตรของผู้ตาย ผู้เป็นทายาทที่แท้จริงเรียกเงินกู้จำนวนเดิมนั้นอีกได้ เพราะหากผู้ ตายกู้เงินเขาไว้จริง หนี้นั้นก็ยังไม่ระงับ คงผูกพันกองมรดกอยู่./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้กู้ยืมของผู้ตายยังผูกพันกองมรดก แม้มีผู้รับรองหนี้ แต่ไม่เคยชำระหนี้จริง
เจ้าหนี้ของผู้ตาย ฟ้องเรียกเงินกู้ที่ผู้ตายกู้ไว้จากผู้ซึ่งอ้างตนว่า เป็นทายาทของผู้ตาย แล้วประนีประนอมยอมความกันในศาล โดยผู้อ้างว่าเป็นทายาทนั้น จะรับใช้ซึ่งเงินกู้ และดอกเบี้ยให้ ศาลจึงพิพากษาตามยอมครั้นครบกำหนดไม่ชำระ เจ้าหนี้จึงนำยึดที่ดินของกองมรดก
บุตรของผู้ตายซึ่งเป็นทายาทที่แท้จริง จึงขัดทรัพย์จนศาลสั่งถอนการยึด คดีถึงที่สุดแล้ว เจ้าหนี้จึงมาฟ้องบุตรของผู้ตาย ผู้เป็นทายาทที่แท้จริงเรียกเงินกู้จำนวนเดิมนั้นอีกได้ เพราะหากผู้ตายกู้เงินเขาไว้จริง หนี้นั้นก็ยังไม่ระงับ คงผูกพันกองมรดกอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในหนี้จากการรับมรดก/ถือหุ้นแทน: จำเลยไม่ผูกพันหนี้หากไม่ใช่ผู้รับมรดก/ผู้ถือหุ้นโดยชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในหนี้เงินกู้ที่สามีจำเลยกู้เงินโจทก์ไว้ในฐานะที่จำเลยเป็นภริยาผู้รับมรดกของสามี หรือในฐานะที่สามีลงชื่อจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นในบริการอันหนึ่งแทนสามี เมื่อทางพิจารณาฟังว่าจำเลยไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จำเลยจึงไม่ใช่ผู้รับมรดกของผู้ตาย ฉะนั้นย่อมไม่มีความผูกพันอันใดจะต้องรับใช้หนี้ของผู้ตายตามฟ้อง แม้จำเลยจะรับทรัพย์สินของผู้ตายไว้ก็ตาม โดยนัยเดียวกัน แม้จำเลยจะมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนผู้ตาย ก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดในหนี้รายนี้ดุจกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดที่ดินหลังทำยอมโอนกรรมสิทธิ์แต่ยังไม่ได้โอนจริง เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
จำเลยทำยอมต่อศาล ยอมโอนที่ดินแปลงหนึ่งของจำเลยให้ผู้ร้องภายใน 7 วัน นับแต่วันทำยอมในระหว่างนั้น โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงิน ตามสัญญากู้ จำเลยก็ทำยอมใช้เงินแก่โจทก์แล้วไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานที่ดินที่จำเลยทำยอมแก่ผู้ร้องดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องจึงมาขัดทรัพย์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ขณะนำยึด จำเลยยังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิในที่พิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะยึดที่ดินรายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบการรับโอนกรรมสิทธิที่ดินหลังมีคำพิพากษาต่อสิทธิในสัญญาจำนอง สิทธิในสัญญาจำนองผูกพันเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาถึงสัญญาจำนอง: สิทธิจำนองผูกพันระหว่างจำเลย โจทก์ไม่อาจอุทธรณ์เพิกถอนสัญญาจำนองได้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์เรือโดยไม่จดทะเบียน และการยึดทรัพย์ของบุคคลที่ไม่ใช่ศัตรูต่อสหประชาชาติ
เจ้าหนี้ได้รับมอบเรือในการตีใช้หนี้ค่าส่งอาหาร แล้วจำเลยยึดเรือนั้นไป เจ้าหนี้จึงฟ้องเรียกเรือคืน แม้ในฟ้องจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องอาหารที่ได้ส่งให้ลูกหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะข้อนี้เป็นแต่มูลเหตุที่ได้เรือมา ไม่ใช่ข้อประเด็นโดยตรง
กองทัพยี่ปุ่นลูกหนี้มอบเรือซึ่งยังไม่เคยมีทะเบียนตีใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการโอน อย่างน้อยเจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ครอบครองดีกว่าคนอื่น รวมทั้ง ก.ท.ส.ที่เข้ายึดเรืออันนับว่าเป็นผู้ใช้สิทธิ์ของกองทัพยี่ปุ่นซึ่งไม่มีสิทธิ์จะเอาเรือนั้นกลับคืนจากโจทก์
โจทก์เป็นจีนฮกเกี้ยนไม่ใช่บุคคลที่เป็นสัตรูต่อสหประชาชาติ โจทก์ได้รับเรือใช้หนี้จากกองทัพยี่ปุ่นก่อนยี่ปุ่นแพ้สงคราม เรือนั้นย่อมพ้นสภาพเรือใช้ในการสงคราม
ก.ท.ส.มีอำนาจแต่เฉพาะในทรัพย์สินของสัตรูต่อสหประชาชาติ เมื่อ ก.ท.ส.ทำตามอำนาจและหน้าที่ แต่ทำผิดไปโดยไปยึดทรัพย์ของโจทก์ที่ไม่ใช่สัตรูต่อสหประชาชาติโดยไม่มีอำนาจ ก.ท.ส.ก็ต้องคืนเรือนั้นเมื่อคืนไม่ได้โดยไม่ข้อแก้ตัวก็ต้องใช้ราคา
ศาลพิาพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือจำเลยจะอ้างว่าจำเลยมีสิทธิ์ใช้เงินแต่เฉพาะที่หักจากเงินของสัตรูต่อสหประชาชาติ จำเลยไม่มีเงินของตนเอง ดังนี้การที่จำเลยจะมีสินทรัพย์ใช้ให้ได้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเรือที่ได้มาจากการตีใช้หนี้: สิทธิครอบครองดีกว่าสิทธิของ ก.ท.ส. ที่ยึดทรัพย์ผิด
เจ้าหนี้ได้รับมอบเรือในการตีใช้หนี้ค่าส่งอาหาร แล้วจำเลยยึดเรือนั้นไป เจ้าหนี้จึงฟ้องเรียกเรือคืน แม้ในฟ้องจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องอาหารที่ได้ส่งให้ลูกหนี้ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะข้อนี้เป็นแต่มูลเหตุที่ได้เรือมา ไม่ใช่ข้อประเด็นโดยตรง
กองทัพญี่ปุ่นลูกหนี้มอบเรือซึ่งยังไม่เคยมีทะเบียนตีใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนการโอน อย่างน้อยเจ้าหนี้ก็มีสิทธิครอบครองดีกว่าคนอื่นรวมทั้ง ก.ท.ส. ที่เข้ายึดเรืออันนับว่าเป็นผู้ใช้สิทธิ์ของกองทัพญี่ปุ่นซึ่งไม่มีสิทธิจะเอาเรือนั้นกลับคืนจากโจทก์
โจทก์เป็นจีนฮกเกี้ยนไม่ใช่บุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ โจทก์ได้รับเรือตีใช้หนี้จากกองทัพญี่ปุ่นก่อนญี่ปุ่นแพ้สงคราม เรือนั้นย่อมพ้นสภาพเรือที่ใช้ในการสงคราม
ก.ท.ส.มีอำนาจแต่เฉพาะในทรัพย์สินของศัตรูต่อสหประชาชาติ เมื่อก.ท.ส.ทำตามอำนาจและหน้าที่ แต่ทำผิดไปโดยไปยึดทรัพย์ของโจทก์ที่ไม่ใช่ศัตรูต่อสหประชาชาติโดยไม่มีอำนาจ ก.ท.ส.ก็ต้องคืนเรือนั้นเมื่อคืนไม่ได้โดยไม่มีข้อแก้ตัวก็ต้องใช้ราคา
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือจำเลยจะอ้างว่าจำเลยมีสิทธิใช้เงินแต่เฉพาะที่หักจากเงินของศัตรูต่อสหประชาชาติ จำเลยไม่มีเงินของตนเองดังนี้ การที่จำเลยจะมีสินทรัพย์ใช้ให้ได้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาเรือได้
of 7