พบผลลัพธ์ทั้งหมด 168 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้จากการละเมิดด้วยการมอบกระบือ และการละเมิดสิทธิยึดถือครอบครอง
กระบือของจำเลยขวิดกระบือโจทก์ขาหักพิการ ใช้งานไม่ได้โจทก์จำเลยตกลงกันโดยจำเลยเอากระบือเมียให้แก่โจทก์ 1 ตัวเป็นค่าเสียหายการที่จำเลยมอบกระบือเมีย 1 ตัวแก่โจทก์นี้ ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้อันเกิดจากการละเมิดให้โจทก์ เป็นการปฏิบัติต่อกันเลยคั่นที่จะถือว่าทำสัญญาประณีประนอมยอมความต่อกันไปแล้ว จึงไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ใช้ได้ ฉะนั้นเมื่อจำเลยกลับไปเอากระบือนั้นมาเสียจากการยึดถือครอบครองของโจทก์ ก็นับว่าจำเลยได้ทำละเมิดสิทธิยึดถือครอบครองของโจทก์ขึ้นอีก โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยให้คืนกระบือนั้นหรือใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้ตามสัญญาแบ่งปันมรดก: เงื่อนไขสัญญาและการขาดอายุความ
การตีความสัญญาแบ่งปันมรดก ที่ผู้จัดการมรดกทำไว้ให้กับทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้ตามสัญญาแบ่งปันมรดก โดยไม่มีเงื่อนไข และผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญา
การตีความสัญญาแบ่งปันมรดก ที่ผู้จัดการมรดกทำไว้ให้กับทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องต้องไม่ขัดแย้งกับฟ้องเดิม หากขัดแย้งถือเป็นการเลิกฟ้องเดิมแล้วฟ้องใหม่ ศาลไม่ควรอนุญาต
เดิมโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทุจริตแสดงตัวเป็นโจทก์ขอรับโอนมฤดกที่ดินแล้วโอนขายให้จำเลยขอให้เพิกถอนการรับโอนมฤดกและการซื้อขาย ภายหลังขอเพิ่มเติมฟ้องว่าจำเลยทำสัญญายอมความ โดยจำเลยยอมโอนคืนที่พิพาทให้โจทก์ ๆ ชำระเงินที่ผู้อื่นเป็นลูกหนี้ จำเลยให้จำเลย 200 บาท เมื่อจำเลยโอนกรรมสิทธิที่ดินรายนี้ให้โจทก์แล้ว จึงขอให้ศาลพิพากษาตามสัญญายอมความนี้ถือว่าเป็นคนละลักษณะกับฟ้องเดิมคำขอบังคับก็ขัดกันเท่ากับขอเลิก ฟ้องเดิมแล้วเอาใหม่ไม่ใช่เพิ่มเติมฟ้องกรณีต้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 179 วรรคท้ายซึ่งบัญญัติห้ามไว้ไม่ให้กระทำศาลชอบที่จะยกเสียตาม ม. 180 โจทก์จะได้ไปฟ้องเป็นคดีใหม่
ทำสัญญาปรานีประนอมยอมความกันไว้โดยลงชื่อรับผิดไว้แก่เขาแต่ฝ่ายเดียวแล้ว ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเขาย่อมฟ้องให้รับผิดตามสัญญาที่ตนลงลายมือชื่อไว้ได้ โดยไม่เป็นปัญหาว่าเขาได้ตั้งตัวแทนให้ทำสัญญากับจำเลยหรือไม่ ซึ่งต่อมาเขาได้รับรองสัญญานั้นแล้วด้วย
ศาลชั้นต้นชอบที่ที่จะสั่งคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ถ้าศาลชั้นต้นไม่สั่งแต่ในชั้น
ทำสัญญาปรานีประนอมยอมความกันไว้โดยลงชื่อรับผิดไว้แก่เขาแต่ฝ่ายเดียวแล้ว ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเขาย่อมฟ้องให้รับผิดตามสัญญาที่ตนลงลายมือชื่อไว้ได้ โดยไม่เป็นปัญหาว่าเขาได้ตั้งตัวแทนให้ทำสัญญากับจำเลยหรือไม่ ซึ่งต่อมาเขาได้รับรองสัญญานั้นแล้วด้วย
ศาลชั้นต้นชอบที่ที่จะสั่งคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ถ้าศาลชั้นต้นไม่สั่งแต่ในชั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616-617/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปราณีประนอมที่ไม่ผูกมัดบุคคลที่สาม สิทธิบังคับคดีไม่ระงับ
ผู้ให้เช่ากับผู้ให้เช่าช่วงเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องขับไล่จำเลยศาลพิพากษาให้ขับไล่แล้ว ต่อมาผู้ให้เช่าช่วงไปทำสัญญายอมให้จำเลยเช่าต่อไป โดยได้รับสินจ้างและให้ถอนคดีที่จำเลยฟ้องผู้ให้เช่ากับผู้ให้เช่าช่วงนั้นถือว่าเป็นสัญญาปราณีประนอมเมื่อผู้ให้เช่ามิได้รู้เห็นด้วยก็ไม่ผูกมัดผู้ให้เช่าฯ จึงร้องขอบังคับคดีได้
(บันทึกความจำ สัญญาเช่าระหว่างนายเกตุกับกรมการศาสนา ห้ามผู้เช่าให้เช่าช่วงและห้ามไม่ให้ปลูกสิ่งสร้างสิ่งใดสอาด)
(บันทึกความจำ สัญญาเช่าระหว่างนายเกตุกับกรมการศาสนา ห้ามผู้เช่าให้เช่าช่วงและห้ามไม่ให้ปลูกสิ่งสร้างสิ่งใดสอาด)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความสัญญาสิ้นสุด สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเกิดหลังการยอมความจึงไม่มีผล
ผู้เช่าถูกผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่แล้วทำยอมความออกจากที่เช่าแม้ผู้เช่าจะยื่นคำแถลงสงวนสิทธิ์เรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาไว้ก็มาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ เพราะเป็นคำแถลงฝ่ายเดียว ผู้ให้เช่าไม่ได้ตกลงด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปรานีประนอมยอมความย่อมยกเลิกสัญญาเดิม การฟ้องเรียกค่าเสียหายจึงไม่สำเร็จ แม้มีการสงวนสิทธิ์ไว้แต่ฝ่ายเดียว
ผู้เช่าถูกผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่แล้วทำยอมความออกจากที่เช่า แม้ผู้เช่าจะยื่นคำแถลงสงวนสิทธิ์เรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาไว้ ก็มาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ เพราะเป็นคำแถลงฝ่ายเดียว ผู้ให้เช่าไม่ได้ตกลงด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 347/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่เกิดจากข้อตกลงหลังสัญญาขายฝากหมดอายุ ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
สัญญาซึ่งไม่มีข้อความอันเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทย่อมไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
เมื่อพ้นกำหนดไถ่ถอนการขายฝากแล้ว คู่สัญญามาทำสัญญากันว่าผู้ขายยอมโอนที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อยอมให้ผู้ขายซื้อคืนได้เมื่อผู้ขายมาฟ้องขอซื้อคืนผู้ซื้อต่อสู้ว่าผู้ขายผิดสัญญาดังนี้ ศาลบังคับให้ผู้ขายชนะคดี โดยถือว่าเป็นคำมั่นจะซื้อขาย
เมื่อพ้นกำหนดไถ่ถอนการขายฝากแล้ว คู่สัญญามาทำสัญญากันว่าผู้ขายยอมโอนที่ให้เป็นสิทธิแก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อยอมให้ผู้ขายซื้อคืนได้เมื่อผู้ขายมาฟ้องขอซื้อคืนผู้ซื้อต่อสู้ว่าผู้ขายผิดสัญญาดังนี้ ศาลบังคับให้ผู้ขายชนะคดี โดยถือว่าเป็นคำมั่นจะซื้อขาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงหลังคำพิพากษา: ผลผูกพันและสิทธิในการดีกา
โจทจำเลยตกลงกันยอมปติบัติตามคำพิพากสาสาลอุธรน์แล้วยื่นคำแถลงไห้สาลซาบว่า ไม่ติดไจดีกาต่อไปสาลสั่งอนุญาตแล้ว เช่นนี้ถือได้ว่าเปนการตกลงที่ชอบแล้วด้วยกดหมาย และเปนการผูกพันโจท ๆ หมดสิทธิไนการดีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และการสละสิทธิในการฎีกา
โจทก์จำเลยตกลงกันยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นคำแถลงให้ศาลทราบว่า ไม่ติดใจฎีกาต่อไป ศาลสั่งอนุญาตแล้ว เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการตกลงที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการผูกพันโจทก์โจทก์หมดสิทธิในการฎีกา