พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,721 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นคนละกรรม แม้ครอบครองพร้อมกัน
เดิมกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน ต่อมาได้มีการแก้ไขโดยบัญญัติแยกไว้คนละมาตรา เป็นคนละฐานความผิด จึงเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้เป็นคนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501-503/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท ปลอมเอกสารหลอกลวงประกันชีวิต ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายที่หนักที่สุด
จำเลยปลอมใบสมัครสมาชิกประเภทสวัสดิการสงเคราะห์หนังสือรับรองวันมรณะ สำเนาใบมรณะ สำเนาทะเบียนบ้านและใช้เอกสารปลอมเหล่านั้น ก็โดยมีเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการหลอกลวงบริษัทประกันชีวิต เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จำเลยปลอมไปจนถึงวันที่ใช้เอกสารปลอมฉบับสุดท้ายเพื่อรับเงินจากบริษัท ไม่ว่าจะใช้เอกสารปลอมพร้อมกันครั้งเดียวหรือใช้คนละครั้ง จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรม การครอบครองอาวุธปืนและพยายามลักลอบออกนอกราชอาณาจักร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ใช่ต่างกรรมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดหลายกระทงเกี่ยวกับอาวุธปืนและศุลกากร: การพิจารณาความผิดต่างกรรมหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3792/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียวแต่หลายบท: ห้ามฟ้องซ้ำในความผิดที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว
ความผิดในคดีก่อนกับความผิดในคดีนี้เป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบทเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงและโกงเจ้าหนี้และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงไปแล้ว ถือได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์จะนำความผิดเดียวกันนั้นมาฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3792/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน ฟ้องซ้ำไม่ได้: ศาลยกฟ้องฐานปลอมเอกสาร หลังเคยตัดสินลงโทษฐานฉ้อโกงแล้ว
ความผิดในคดีก่อนกับความผิดในคดีนี้เป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบทเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงและโกงเจ้าหนี้และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงไปแล้ว ถือได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์จะนำความผิดเดียวกันนั้นมาฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3531/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกักตุนสินค้าควบคุมและมีสินค้าเกินปริมาณที่กำหนด ผู้กระทำผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย
ความผิดฐานกักตุนสินค้าควบคุม.ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ.2522เป็นเรื่องมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่กำหนดไว้ในประกาศของคณะกรรมการตามมาตรา 24 (14)จำเลยมีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมไว้เกินกำหนด จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 30, 45 ด้วยแต่เป็นการกระทำผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กำหนดโดยไม่ขออนุญาตตามมาตรา 24 (14), 43
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3531/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกักตุนสินค้าควบคุม: จำเลยมีสินค้าเกินปริมาณที่ประกาศและไม่ขออนุญาต
ความผิดฐานกักตุนสินค้าควบคุม.ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ.2522เป็นเรื่องมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่กำหนดไว้ในประกาศของคณะกรรมการตามมาตรา 24(14)จำเลยมีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมไว้เกินกำหนด จำเลยจึงมีความผิดตามมาตรา 30,45 ด้วยแต่เป็นการกระทำผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กำหนดโดยไม่ขออนุญาตตามมาตรา 24(14),43
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษและริบของกลางในความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนัก และริบได้เฉพาะตามบทที่ใช้ลงโทษ
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบทคือผิดตามพระราชบัญญัติการประมงและพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดแต่โจทก์มิได้ขอหรืออ้างบทมาตราเกี่ยวกับการให้ริบของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เท่ากับโจทก์ไม่ประสงค์ให้ริบของกลางในความผิดนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติแล้ว ก็จะริบของกลางตามพระราชบัญญัติการประมงซึ่งมิได้ใช้เป็นบทลงโทษจำเลยด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษกรรมเดียวผิดหลายบทและการริบของกลางที่ศาลสั่งได้เฉพาะในบทที่ใช้ลงโทษ
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบทคือผิดตามพระราชบัญญัติการประมงและพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่โจทก์มิได้ขอหรืออ้างบทมาตราเกี่ยวกับการให้ริบของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เท่ากับโจทก์ไม่ประสงค์ให้ริบของกลางในความผิดนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติแล้ว ก็จะริบของกลางตามพระราชบัญญัติการประมงซึ่งมิได้ใช้เป็นบทลงโทษจำเลยด้วยไม่ได้