พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,721 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำชำเราเด็กอายุ 8 ปี แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แต่จากอาการบาดเจ็บและพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่ามีการล่วงล้ำทางเพศเกิดขึ้น
จำเลยถอดกางเกงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 8 ปี ออก เอาของลับของจำเลยใส่ของลับของผู้เสียหายจนเข้าไปแล้ว แม้ไม่ปรากฏชัดว่าของลับของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายได้มากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่แพทย์ตรวจมีความเห็นว่า แคมเล็กช้ำบวมถลอกเป็นแผลมีเลือดออกต้องมีวัตถุไม่มีคมถูผ่าน และพอตกกลางคืนผู้เสียหายเจ็บที่ของลับมากจนถึงร้องไห้ ดังนี้ แสดงว่าของลับจำเลยได้ผ่านของลับของผู้เสียหายเข้าไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำอนาจารและเป็นความผิดสำเร็จฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้จำหน่ายกับฐานจำหน่าย แม้เป็นเฮโรอีนชุดเดียวกัน ก็ถือเป็นสองกรรมต่างกัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และยังคงลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีน 30 หลอดไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอดอีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนจำนวน 1 หลอดที่จำเลยจำหน่ายไป จะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกับเฮโรอีน 30 หลอด ที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเป็นสองกระทงความผิด(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1198/2519)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีน 30 หลอดไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอดอีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนจำนวน 1 หลอดที่จำเลยจำหน่ายไป จะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกับเฮโรอีน 30 หลอด ที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเป็นสองกระทงความผิด(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1198/2519)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์: การรวมกระทงความผิด
จำเลยและพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธ พยายามปล้นโคของส.และผ.ผู้ตาย เมื่อผ.ขัดขวางจำเลยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผ. จนถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดหลายบท ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ยิงผู้ตายพร้อมกัน
จำเลยมีเจตนาจะฆ่านาง พ.นางย. เพราะมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน จำเลยยิงนาง พ.กับนางย.ขณะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเดียวกันมา แม้จะฟังว่าจำเลยยิงนาง พ.กับนางย.2-3 นัดก็ตาม ก็เป็นการยิงเพื่อเจตนาฆ่านาง พ.นางย. ให้ตายในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้เจตนาเดียวกัน: พรากผู้เยาว์ + พาไปเพื่ออนาจาร
การกระทำครั้งเดียวคราวเดียว แม้จะมีเจตนาอย่างเดียวกัน แต่ประสงค์ให้เกิดผลเป็นความผิดหลายฐาน ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยพานางสาว บ.ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ.ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
การที่จำเลยพานางสาว บ.ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ.ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1464/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน: พรากผู้เยาว์และการพาไปเพื่อการอนาจาร แม้เกิดจากการกระทำครั้งเดียว
การกระทำครั้งเดียวคราวเดียว แม้จะมีเจตนาอย่างเดียวกันแต่ประสงค์ให้เกิดผลเป็นความผิดหลายฐาน ย่อมเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
การที่จำเลยพานางสาว บ. ไปเพื่อการอนาจาร ถือได้ว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้แล้ว และการที่จำเลยพรากนางสาว บ. ผู้เยาว์ไปเสียจากบิดามารดา จำเลยก็มีเจตนากระทำความผิดให้เกิดเป็นกรรมในความผิดฐานนี้อีกฐานหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หาใช่กรรมเดียวไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยการหลอกลวงชักพาผู้อื่นเพื่อค้าประเวณีและความรับผิดชอบของตัวการร่วม
ว.เป็นคนไปพูดหลอกลวงผู้เสียหายว่า จะพาไปทำงานด้วยกันกับนางสาว พ. พี่สาวที่กรุงเทพฯ เมื่อผู้เสียหายตกลงไปตามคำหลอกลวงแล้ว ว.ก็พาผู้เสียหายไปที่บ้านจำเลย และในวันเดียวกันนั้นเองจำเลยและ ว. กับพวก ก็พาผู้เสียหายไปค้าประเวณีที่กรุงเทพฯ โดยไม่ต้องมีการตกลงนัดหมายอะไรกันอีก พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่า จำเลยกระทำไปโดยจำเลยและ ว.กับพวกได้คบคิดกันมาก่อนว่าจะล่อหรือชักพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นโดยใช้อุบายหลอกลวง โดยกำหนดหน้าที่ให้ ว.ไปใช้อุบายหลอกลวง ล่อหรือชักพาผู้เสียหายตามที่ได้คบคิดกันไว้นั้น เมื่อได้ตัวผู้เสียหายมาแล้ว จำเลยและ ว.กับพวกก็พาไปบังคับให้ค้าประเวณี จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคแรก และมาตรา 283 วรรคสอง มาตรา 83 แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันฉ้อโกงและค้ามนุษย์โดยใช้อุบายหลอกลวงเพื่อบังคับค้าประเวณี
ว. เป็นคนไปพูดหลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานด้วยกันกับนางสาว พ. พี่สาวที่กรุงเทพฯ เมื่อผู้เสียหายตกลงไปตามคำหลอกลวงแล้วว. ก็พาผู้เสียหายไปที่บ้านจำเลย และในวันเดียวกันนั้นเองจำเลยและ ว.กับพวกก็พาผู้เสียหายไปค้าประเวณีที่กรุงเทพฯ โดยไม่ต้องมีการตกลงนัดหมายอะไรกันอีก พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยจำเลยและ ว. กับพวกได้คบคิดกันมาก่อนว่าจะล่อหรือชักพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นโดยใช้อุบายหลอกลวง โดยกำหนดหน้าที่ให้ ว. ไปใช้อุบายหลอกลวง ล่อหรือชักพาผู้เสียหายตามที่ได้คบคิดกันไว้นั้น เมื่อได้ตัวผู้เสียหายมาแล้วจำเลยและ ว. กับพวกก็พาไปบังคับให้ค้าประเวณี จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคแรก และมาตรา 283 วรรคสอง มาตรา 83 แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายต่อเนื่องกับการบุกรุก: ไม่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยมีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย เมื่อ ส.เปิดประตูห้องออกมา จำเลยยังลงบันไดไปเอามีดที่อยู่ข้างล่าง แล้วจึงใช้มีดนั้นแทง ส.แทนที่จะแทงทันที่ที่เปิดประตู ก็ยังถือไม่ได้ว่าการบุกรุกนั้นเป็นคนละตอนกับการทำร้ายร่างกาย เพราะได้กระทำโดยกระชั้นชิดติดต่อกันโดยมีเจตนาเพื่อจะทำร้ายร่างกาย จึงมิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายต่อเนื่องกับการบุกรุก: ไม่ถือเป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยมีเจตนาจะทำร้ายร่างกายเมื่อ ส. เปิดประตูห้องออกมา จำเลยยังลงบันไดไปเอามีดที่อยู่ข้างล่าง แล้วจึงใช้มีดนั้นแทง ส. แทนที่จะแทงทันทีที่เปิดประตู ก็ยังถือไม่ได้ว่าการบุกรุกนั้นเป็นคนละตอนกับการทำร้ายร่างกาย เพราะ ได้กระทำโดยกระชั้นชิดติดต่อกันโดยมีเจตนาเพื่อจะทำร้ายร่างกาย จึงมิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน