คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 296

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาด: การพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมและระยะเวลาการขายทรัพย์เพื่อชำระหนี้
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ เมื่อได้ปรึกษา ป. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี และวางทรัพย์ภูมิภาคแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีถามผู้เข้าสู้ราคา ว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ตาม ที่ ป. แนะนำปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึง อนุมัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคา3,500,000 บาท การดำเนินการขายทอดตลาด เช่นนี้ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำต่อเนื่องตาม ระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่และ ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด หาใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถอนทรัพย์ จากการขายทอดตลาดโดยปริยายไม่จึงเป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้เป็นเวลา เกือบ3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11 และราคา ที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคย กำหนดว่าควรขายได้เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบที่จะอนุมัติให้ ขายได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของราคาและระยะเวลาในการขาย รวมถึงดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ได้ปรึกษาป.รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 3 แล้วป.เห็นว่า เพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุดจึงให้ ช.ออกมาถามว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ ปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึงอนุมัติให้ ช.เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคาดังกล่าว ถือได้ว่า ช.ได้กระทำต่อเนื่องตามระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่เป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดี มิได้เพียงแต่แจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่าราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้สูงสุดนั้นต่ำไปเท่านั้น หากแต่ได้ถามผู้สู้ราคาซึ่งอยู่ในขณะนั้นประมาณ 20 คนว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนออีกหรือไม่ และดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปจนในที่สุดได้เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งได้เพิ่มราคาสูงสุดเป็น 3,500,000 บาท การที่ช.ผู้ทอดตลาดแจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่า ราคานั้นต่ำไปจะมีใครให้ราคาสูงกว่านี้อีกหรือไม่ จึงยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด มิใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถนนทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยปริยาย การขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อนำเงินที่ขายได้มาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีข้อที่จะต้องพิจารณาว่าสมควรจะอนุมัติให้ขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่อยู่ 2 ประการ ประการแรกราคาทรัพย์ที่แท้จริงประมาณเท่าใด ประการที่สอง สมควรจะขายได้แล้วหรือไม่ปรากฏว่าตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้ เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11และราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้ อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคยกำหนดว่าควรขายได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงสมควรอนุมัติขายได้แล้ว การปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6539/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม แม้เจ้าหนี้จะผ่อนผันการชำระหนี้ก็ยังคงมีอยู่
จำเลยที่ 1 ที่ 4 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ยอมชำระเงินให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 โดยผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน เดือนละ 20,000 บาทศาลพิพากษาตามยอม ผู้ร้องเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว ศาลออกคำบังคับให้จำเลยที่ 1 ที่ 4 ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 4 ไม่ชำระหนี้ให้ตรงตามระยะเวลาเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ที่ 1 ที่ 2 มีสิทธิบังคับคดีได้ทันที การที่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ยังไม่บังคับคดีและรับชำระหนี้ต่อมาเป็นเพียงการผ่อนผันให้เท่านั้น ไม่ใช่การสละสิทธิในการบังคับคดีหรือสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 154 วรรคสอง โจทก์ที่ 1 ที่ 2 จะบังคับคดีเมื่อใดก็ได้ตามสิทธิที่มีอยู่ตามกฎหมายและเมื่อต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 4 ไม่ชำระหนี้งวดที่ 13 และ 14 โจทก์ที่ 1 ที่ 2 จึงขอบังคับคดี การที่ศาลออกหมายบังคับคดีจึงชอบด้วยกฎหมาย แม้ภายหลังผู้ร้องจะชำระหนี้งวดที่ 13 และ 14 โจทก์ที่ 1 ที่ 2 รับไว้ ก็เป็นสิทธิของโจทก์ที่ 1ที่ 2 ผู้เป็นเจ้าหนี้จะรับชำระหนี้ ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและไม่ทำให้หมายบังคับคดีกลับเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่มีเหตุที่ศาลจะเพิกถอนหมายบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6438/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้สู้ราคาที่ถูกตัดสิทธิโดยไม่ชอบในการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนระเบียบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นผู้เข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดที่ดินของเจ้าพนักงานบังคับคดี การขายทอดตลาดไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและไม่สุจริต เท่ากับผู้ร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลภายนอกที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ที่ดินซึ่งขายทอดตลาดนั้น และมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทได้ ตามมาตรา 296 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6438/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบุคคลภายนอกคัดค้านการขายทอดตลาดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นผู้เข้าสู้ราคาในการขายทอดตลาดที่ดินของเจ้าพนักงานบังคับคดี การขายทอดตลาดไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและไม่สุจริต เท่ากับผู้ร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายผู้ร้องจึงเป็นบุคคลภายนอกที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ที่ดินซึ่งขายทอดตลาดนั้น และมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินพิพาทได้ ตามมาตรา 296วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6067/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาด: ศาลมีดุลพินิจไม่จำต้องไต่สวนเสมอไป หากข้ออ้างไม่สมเหตุผล
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทไปแล้ว จำเลยมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขาย โดยมิได้กล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง แต่อย่างใดเพียงแต่อ้างว่าราคาที่ขายทอดตลาดต่ำกว่าความเป็นจริง ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ต้องไต่สวนก่อนได้ บทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคท้าย มิได้บังคับให้ศาลต้องไต่สวนเสียก่อนมีคำสั่งทุกเรื่องไป การจะไต่สวนคำร้องหรือไม่ย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาล เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อทอดตลาดไปแล้ว โดยที่จำเลยมิได้ขอให้ศาลงดการบังคับไว้ก่อนตามป.วิ.พ. มาตรา 292 จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนหนังสือที่อนุญาตให้ผู้ซื้อทรัพย์รับโอน หรือทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์ที่ประมูลซื้อทอดตลาดไว้ระหว่างอุทธรณ์ได้ ซึ่งแม้ต่อมาศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดในภายหลัง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหาย เพราะผู้ซื้อทรัพย์และผู้รับโอนทรัพย์ต่อมาก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์อยู่ดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดี และการฟ้องร้องเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดี ศาลมีดุลพินิจอนุญาต/ไม่อนุญาตถอนฟ้องได้ และการบังคับคดีต้องดำเนินการในคดีเดิม
การที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาลโดยพิจารณาจากความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์และผลได้ผลเสียของคู่ความทุกฝ่าย โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท ทั้งยื่นคำร้องขอให้ห้ามจำเลยและเจ้าพนักงานที่ดินทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทซึ่งศาลชั้นต้นได้ไต่สวนคำร้องดังกล่าวจนเสร็จแล้ว โจทก์ จึงขอถอนฟ้องโดยให้เหตุผลว่าประสงค์จะยื่นฟ้องจำเลยใหม่ ดังนั้น หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องแล้วโจทก์อาจฟ้องจำเลยใหม่และ ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเช่นเดียวกันกับ คดีนี้อีกซึ่งอาจทำให้จำเลยเสียหายเมื่อเป็นเช่นนี้จึงควร ดำเนินการพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้ โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นของศาลชั้นต้นฟ้องขอให้บังคับจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าวปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ กับขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ในคดีดังกล่าว เป็นฟ้องที่มีคำขอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษา ของศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าวซึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 กำหนดให้ว่ากล่าวกันในคดีเดิม โจทก์ต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ในคดีเดิมดังกล่าว จะทำเป็นคำฟ้องมายื่นต่อศาลเป็นคดีใหม่หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องคดี และการฟ้องคดีเกี่ยวกับการบังคับคดีต้องยื่นเป็นคำร้อง ไม่ใช่ฟ้องคดีใหม่
การที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ มาตรา 175 วรรคสองแห่งป.วิ.พ. กำหนดให้เป็นดุลพินิจของศาลโดยพิจารณาจากความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์และผลได้ผลเสียของคู่ความทุกฝ่าย ปรากฏว่านอกจากฟ้องคดีนี้แล้วโจทก์ยังยื่นคำร้องขอให้ห้ามจำเลยและเจ้าพนักงานที่ดินทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทและศาลได้ไต่สวนคำร้องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องโดยให้เหตุผลว่าประสงค์ที่ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ใหม่จึงอาจทำให้จำเลยที่ 1 เสียหายศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องชอบแล้ว โจทก์เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีแพ่งรวมสองสำนวนเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความกับขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ในคดีดังกล่าว จึงเป็นการฟ้องคดีที่มีคำขอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีทั้งสอง ดังนั้น โจทก์ต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องในคดีดังกล่าว จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5968/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องมีเหตุเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย การอ้างราคาต่ำไม่เพียงพอ
การที่ศาลจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้นั้น จะต้องปรากฎว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ป.วิ.พ.เมื่อคำร้องของจำเลยทั้งสามที่ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดกล่าวอ้างแต่เพียงว่า การขายทอดตลาดดังกล่าวขายในราคาต่ำไป มิได้อ้างเหตุว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีดังกล่าวแต่ประการใด กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 จำเลยทั้งสามจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด และศาลชั้นต้นมีอำนาจงดไต่สวนและมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสามได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5828/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้และบังคับจำนอง จำเลยไม่ชำระหนี้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่จำนองเพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินร้องขัดทรัพย์และต่อมาโจทก์กับผู้ร้องได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอม โดยผู้ร้องยอมชำระเงินให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย หากผิดนัดยอมให้โจทก์บังคับยึดทรัพย์ที่จำนองในคดีนี้ได้ ต่อมาผู้ร้องผิดสัญญา การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองซึ่งยึดไว้ในคดีเดิม โดยโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์ตามที่ตกลงไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย.
of 64