คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 296

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1920/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ราคาขายทอดตลาดต่ำกว่าวงเงินจำนองและราคาประเมิน ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและชอบที่จะยกเลิกได้
ในการขายทอดตลาดโดยปลอดจำนองนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีควรตั้งราคาขายขั้นต่ำเท่ากับวงเงินจำนองพร้อมค่าอุปกรณ์ ถ้าจะขายราคาต่ำกว่านั้นควรให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำนองยินยอมหรือมีเหตุผลพิเศษเพื่อประโยชน์ของคู่ความ เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองให้ผู้ซื้อทรัพย์ ไปในราคาเพียง 205,000 บาท ต่ำกว่าวงเงินจำนองเมื่อ 5 ปีก่อน ถึง45,000 บาท ทั้งที่เพิ่งเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรก และไม่ ปรากฏเหตุผลพิเศษที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องรีบด่วนขายไปใน ราคานี้ และได้ความต่อมาว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาด ใหม่มีผู้ซื้อได้โดยให้ราคาสูงสุดถึง 360,000 บาท ซึ่งสูงกว่า การ ขายทอดตลาดครั้งพิพาทถึง 155,000 บาท ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดให้ผู้ซื้อทรัพย์ไปนั้น ต่ำ เกิน ไปมาก ไม่ใช่ราคาที่พอสมควร ส่อให้เห็นวี่แวว อันไม่สุจริต ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดฝ่าฝืนบทบัญญัติ ว่าด้วย การ บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง โจทก์จึงชอบ ที่จะขอให้ยกเลิกเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการบังคับคดีหลังเสร็จสิ้นกระบวนการ ผู้จัดการมรดกต้องยื่นคัดค้านก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังว่าผู้จัดการมรดกของจำเลยไม่ได้รับการแจ้งการยึดและประกาศขายทอดตลาดที่พิพาทอันเป็นบังคับคดีฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 306 ก็ตาม แต่เมื่อผู้จัดการมรดกของจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดเข้ามาภายหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จสิ้นลงแล้ว จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการบังคับคดีได้ ตามมาตรา 296 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ราคาเหมาะสมและดุลพินิจเจ้าพนักงานบังคับคดี
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดโดยมิได้โต้แย้งว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ใช้ดุลพินิจในการขายโดยไม่สุจริตอย่างไร กรณีจึงต้องถือว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดทรัพย์ให้แก่ผู้ประมูลราคาสูงสุดโดยเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรแล้ว จำเลยจะรื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดโดยอ้างว่าเป็นการขายในราคาต่ำหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5242/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลอนุญาตขายตามขั้นตอนถูกต้อง แม้ไม่มีการนับหนึ่งถึงสามก่อนเคาะไม้
การขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาททุกครั้ง เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าประมูลสู้ราคาทราบก่อนขายทอดตลาดว่าเมื่อมีผู้ให้ราคาสูงสุดแล้วจะนับหนึ่งถึงสามก่อนเคาะไม้ตกลงขายแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีใช้วิธีเสนอให้ศาลชั้นต้นเป็นผู้อนุญาตให้ขาย เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายจึงตกลงขายให้ หากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตก็จะประกาศขายทอดตลาดใหม่ ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทรัพย์สินพิพาทให้แก่โจทก์ผู้ให้ราคาสูงสุดแล้ว การขายทอดตลาดย่อมบริบูรณ์ ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาท เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา เมื่อมีผู้ให้ราคาสูงสุดก็ได้รายงานศาลเพื่อให้พิจารณาว่า สมควรขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่ เมื่อไม่มีพฤติการณ์ส่อให้ศาลเห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์ที่ขายทอดตลาดรายนี้ เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อจึงมีคำสั่งอนุญาตขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุด ถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์แล้ว จำเลยที่ 2 จะมาขอให้ยกเลิกการขายและขายทอดตลาดใหม่ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4989/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการประนีประนอมในการขายทอดตลาด: ผลของการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข และการจำหน่ายคำร้อง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแก่ผู้ซื้อ โดยไม่งดการขายทอดตลาดไว้รอพิจารณาคำขอประนอมหนี้ตามคำขอของจำเลย จำเลยยื่นคำร้องว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าจำเลยประวิงคดี ขอให้ยกคำร้องของจำเลยระหว่างการพิจารณาของศาล ผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาด จำเลยและ ส. ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงกันว่า ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงวางเงิน 100,000 บาท ให้ผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาดรับไปเป็นค่าเสียหาย เพื่อจะได้ไม่คัดค้านที่จะมีการขายทอดตลาดใหม่ มิใช่เป็นการตกลงว่าผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาดสละสิทธิในที่ประมูลซื้อได้ในครั้งก่อน เพราะการที่ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงจะเข้าประมูลซื้อที่ดินพิพาทครั้งใหม่ในราคาไม่ต่ำกว่า 18,000,000 บาทนั้น จะต้องจัดหาธนาคารมาค้ำประกันจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อเป็นประกันค่าเสียหายแก่กองทรัพย์สินหากผู้ซื้อรายใหม่เข้าสู้ราคาต่ำกว่า 18,000,000 บาท ซึ่งเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ผู้ซื้อรายใหม่ต้องปฏิบัติก่อน เมื่อผู้ซื้อรายใหม่ไม่สามารถหาธนาคารมาค้ำประกันได้ จึงเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงศาลต้องจำหน่ายคำร้องของจำเลยตามสัญญาที่ตกลงไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4989/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงการประมูลและการผิดสัญญา: ผลของการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการค้ำประกัน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแก่ผู้ซื้อ โดยไม่งดการขายทอดตลาดไว้รอพิจารณาคำขอประนอมหนี้ตามคำขอของจำเลย จำเลยยื่นคำร้องว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าจำเลยประวิงคดี ขอให้ยกคำร้องของจำเลยระหว่างการพิจารณาของศาล ผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาด จำเลยและ ส.ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงกันว่า ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงวางเงิน 100,000 บาทให้ผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาดรับไปเป็นค่าเสียหาย เพื่อจะได้ไม่คัดค้านที่จะมีการขายทอดตลาดใหม่ มิใช่เป็นการตกลงว่าผู้ซื้อที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาดสละสิทธิในที่ประมูลซื้อได้ในครั้งก่อน เพราะการที่ผู้ซื้อรายใหม่ตกลงจะเข้าประมูลซื้อที่ดินพิพาทครั้งใหม่ในราคาไม่ต่ำกว่า 18,000,000 บาทนั้น จะต้องจัดหาธนาคารมาค้ำประกันจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อเป็นประกันค่าเสียหายแก่กองทรัพย์สินหากผู้ซื้อรายใหม่เข้าสู้ราคาต่ำกว่า 18,000,000 บาท ซึ่งเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ผู้ซื้อรายใหม่ต้องปฏิบัติก่อน เมื่อผู้ซื้อรายใหม่ไม่สามารถหาธนาคารมาค้ำประกันได้ จึงเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงศาลต้องจำหน่ายคำร้องของจำเลยตามสัญญาที่ตกลงไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4703/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการโดยมิชอบและราคาต่ำเกินควร
ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท ผู้คัดค้านประมูลให้ราคาสูงสุดเป็นเงินจำนวน550,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทำการขายทอดตลาดได้นับสองและยุติการขายชั่วคราวเนื่องจากผู้แทนผู้ร้องคัดค้านว่าราคาต่ำไปและได้ทำบันทึกเสนอผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการกองได้เรียกผู้แทนผู้ร้องและผู้คัดค้านเข้าไปพบในห้องทำงานให้ผู้คัดค้านเพิ่มราคา ผู้คัดค้านเพิ่มราคาอีก 100,000 บาทเป็น 650,000 บาท เกินกว่าที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาไว้ ผู้อำนวยการกองจึงอนุมัติให้ขายทรัพย์แก่ผู้คัดค้าน หลังจากนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทำการขายทอดตลาดออกจากห้องมาที่บริเวณขายทอดตลาดแสดงการตกลงด้วยการนับสามและเคาะไม้ขายทรัพย์พิพาทแก่ผู้คัดค้าน โดยมิได้เปิดโอกาสให้ผู้สู้ราคาอื่นประมูลราคาด้วยความยุติธรรมทุกฝ่าย ราคาสูงสุดที่ผู้คัดค้านประมูลได้โดยวิธีปกปิดบุคคลอื่นนั้นเป็นราคาที่ต่ำมาก เป็นการกระทำโดยรวบรัด และไม่มีบทกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติเช่นนั้นได้ การขายทอดตลาดไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรามาตรา 509 ถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4703/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแทรกแซงและปิดโอกาสให้สู้ราคา
ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท ผู้คัดค้านประมูลให้ราคาสูงสุดเป็นเงินจำนวน 550,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทำการขายทอดตลาดได้นับสองและยุติการขายชั่วคราวเนื่องจากผู้แทนผู้ร้องคัดค้านว่าราคาต่ำไปและได้ทำบันทึกเสนอผู้อำนวยการกองผู้อำนวยการกองได้เรียกผู้แทนผู้ร้องและผู้คัดค้านเข้าไปพบในห้องทำงานให้ผู้คัดค้านเพิ่มราคา ผู้คัดค้านเพิ่มราคาอีก100,000 บาท เป็น 650,000 บาท เกินกว่าที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาไว้ ผู้อำนวยการกองจึงอนุมัติให้ขายทรัพย์แก่ผู้คัดค้านหลังจากนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทำการขายทอดตลาดออกจากห้องมาที่บริเวณขายทอดตลาดแสดงการตกลงด้วยการนับสามและเคาะไม้ขายทรัพย์พิพาทแก่ผู้คัดค้าน โดยมิได้เปิดโอกาสให้ผู้สู้ราคาอื่นประมูลราคาด้วยความยุติธรรมทุกฝ่าย ราคาสูงสุดที่ผู้คัดค้านประมูลได้โดยวิธีปกปิดบุคคลอื่นนั้นเป็นราคาที่ต่ำมาก เป็นการกระทำโดยรวบรัด และไม่มีบทกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติเช่นนั้นได้ การขายทอดตลาดไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 ถือไม่ได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดโดยชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4529/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิคัดค้านการบังคับคดี: ผู้ไม่มีส่วนได้เสียในคดีกันส่วน ไม่มีสิทธิคัดค้านการขายทอดตลาด
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอกันส่วนทรัพย์ที่ยึดอ้างว่า ทรัพย์เป็นของผู้ร้องและสามี คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์โดยมิได้แจ้งคำสั่งศาลและวันขายทอดตลาดให้ผู้ร้องทราบ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกคำร้องในคดีร้องขอกันส่วน ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ไม่มีสิทธิร้องคัดค้านการขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ทรัพย์สินไม่ตรงกับที่ยึด เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการไม่ชอบ
โจทก์นำยึดที่ดินและตึกแถวอ้างว่าตึกแถวปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าตึกแถวมิได้ปลูกอยู่บนที่ดิน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นติดกันไปจึงเป็นการไม่ชอบเมื่อผู้ร้องซึ่งซื้อทรัพย์ในการขายทอดตลาดไม่อ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 ศาลย่อมมีอำนาจออกคำสั่งยกเลิกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะนั้นเสียได้ก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้นลง โจทก์ทั้งสองและผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ และการที่ศาลชั้นต้นได้ทำการตรวจสอบฟังคำแถลงของผู้ร้องและโจทก์ทั้งสองแล้วเห็นว่ามีการผิดพลาด ย่อมถือได้ว่าได้มีการไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้วทั้งจำเลยทั้งสองก็มิได้คัดค้านว่าคำร้องไม่เป็นความจริงเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยไม่ชอบศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งยกเลิกการบังคับคดีนั้นเสียได้
of 64