พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2788/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์จากการขายทอดตลาด: แม้มีคดีเพิกถอน แต่กรรมสิทธิ์ยังสมบูรณ์จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง
โจทก์ซื้อที่ดินและตึกแถวจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีทั้งได้จดทะเบียนการได้มาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยสมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 และมาตรา 1330 แม้ต่อมา ก.ได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ก็เป็นเรื่องการเพิกถอนการขายทอดตลาด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 อีกส่วนหนึ่ง หาใช่เรื่องการขายทอดตลาดตกเป็นโมฆะไม่ เมื่อศาลยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาด โจทก์ย่อมเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยสมบูรณ์ จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้อยู่อาศัยในที่ดินและตึกแถวพิพาทโดยไม่มีสิทธิให้ออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2310/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการแจ้งผู้รับจำนอง การยกเลิกการขายทอดตลาดเมื่อบังคับคดีเสร็จสิ้น
ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองทรัพย์สินที่ขายทอดตลาด โดยจดทะเบียนไว้ในลำดับที่ 2 ย่อมเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้นซึ่งทราบได้ตามทะเบียน ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้ผู้ร้องทราบถึงคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาด และวันขายทอดตลาดด้วย
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาด จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ผู้ร้องจึงอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้ตามมาตรา 296 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แต่เมื่อปรากฏว่าในวันขายทอดตลาดได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองทั้งหมด ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อได้และได้ชำระราคาครบถ้วน ได้มีการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจโอนทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และโจทก์ก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดไปทั้งหมดแล้วดังนี้ ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลง การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาด จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ผู้ร้องจึงอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้ตามมาตรา 296 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แต่เมื่อปรากฏว่าในวันขายทอดตลาดได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองทั้งหมด ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อได้และได้ชำระราคาครบถ้วน ได้มีการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจโอนทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และโจทก์ก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดไปทั้งหมดแล้วดังนี้ ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลง การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2310/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการแจ้งเจ้าหนี้จำนอง การยื่นคำร้องหลังการบังคับคดีเสร็จสิ้น
ผู้ร้องเป็นผู้รับจำนองทรัพย์สินที่ขายทอดตลาด โดยจดทะเบียนไว้ในลำดับที่ 2 ย่อมเป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินนั้นซึ่งทราบได้ตามทะเบียนซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้ผู้ร้องทราบถึงคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาดด้วย
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาด จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ผู้ร้องจึงอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้ตามมาตรา 296 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แต่เมื่อปรากฏว่าในวันขายทอดตลาดได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองทั้งหมด ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อได้และได้ชำระราคาครบถ้วน ได้มีการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจโอนทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และโจทก์ก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดไปทั้งหมดแล้วดังนี้ ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลง การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ไปโดยมิได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาด จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และถือได้ว่าผู้ร้องเป็นบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น ผู้ร้องจึงอาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งยกเลิกการขายทอดตลาดได้ตามมาตรา 296 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
แต่เมื่อปรากฏว่าในวันขายทอดตลาดได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองทั้งหมด ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ซื้อได้และได้ชำระราคาครบถ้วน ได้มีการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจโอนทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อ และโจทก์ก็ได้รับชำระหนี้จากเงินสุทธิที่ได้จากการขายทอดตลาดไปทั้งหมดแล้วดังนี้ ถือได้ว่าการบังคับคดีได้เสร็จลง การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิที่จะขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลในการที่จะ บังคับคดีเท่านั้น ไม่อาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ แต่อย่างใด เมื่อศาลสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ต้องปฏิบัติการไปตามนั้น ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาล
อำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีเป็นของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเพียงเจ้าพนักงานของศาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น ไม่อาจเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้แต่อย่างใด เมื่อศาลสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดี ก็ต้องปฏิบัติการไปตามนั้น ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาประนีประนอม แม้ไม่ได้ระบุชัดก็รวมถึงส่วนควบของที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่า จำเลยยอมขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะไม่ได้ระบุว่า ขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ตาม ก็ต้องหมายรวมถึงสิ่งปลูกสร้างด้วย เพราะสิ่งปลูกสร้างคือบ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดินย่อมตกติดไปกับที่ดิน และโจทก์ฟ้องคดีนี้ก็เพื่อขอบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ทำกันไว้ อันแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ที่จะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่า การขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้น แปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดี โดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความสนส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลุกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับไปตามนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่า การขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้น แปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดี โดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความสนส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลุกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับไปตามนั้น โจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2953/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความซื้อขายที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง แม้ไม่มีระบุชัดเจน ย่อมตกติดไปกับที่ดิน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลว่าจำเลยยอมขายที่ดินพิพาทให้โจทก์แม้ในสัญญาประนีประนอมยอมความจะไม่ได้ระบุว่าขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ตามก็ต้องหมายรวมถึงสิ่งปลูกสร้างด้วยเพราะสิ่งปลูกสร้างคือบ้านพิพาทเป็นส่วนควบของที่ดินย่อมตกติดไปกับที่ดินและโจทก์ฟ้องคดีนี้ก็เพื่อขอบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ทำกันไว้อันแสดงให้เห็นเจตนาของโจทก์ที่จะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่าการขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้นแปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดีโดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับคดีไปตามนั้นโจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้
การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลอธิบายคำพิพากษาตามยอมว่าการขายที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินด้วยนั้นแปลได้ว่าเป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอให้บังคับคดีโดยแปลว่าสัญญาประนีประนอมยอมความในส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินที่ตกลงซื้อขายได้มุ่งหมายถึงสิ่งปลูกสร้างในที่ดินนั้นด้วยแล้วบังคับคดีไปตามนั้นโจทก์มีสิทธิที่จะขอบังคับให้จำเลยโอนบ้านพิพาทแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนคำสั่งศาลที่เกินกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัด ช. ได้ขอให้ศาลจังหวัด ช. อายัดเงินค่าจ้างที่จำเลยที่ 1 จะได้รับ ศาลจังหวัด ช. อายัดเงินดังกล่าวและขอให้ศาลแพ่งบังคับคดีแทน ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกฟ้องล้มละลายคดีนี้ที่ศาลแพ่งและถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ศาลแพ่งได้มีคำสั่งตามคำขอของโจทก์ให้ส่งเงินของจำเลยที่ 1 ลูกหนี้ที่อายัดไว้ตามหมายอายัดของศาลจังหวัด ช. ซึ่งยังอยู่ที่กองบังคับคดีแพ่งไปรวมไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีนี้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2516 วันที่ 14 ตุลาคม 2517 ผู้ร้องได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัด ช. ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ที่สั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่งเงินที่อายัดมาไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ผลที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษายกคำร้องดังกล่าวของผู้ร้องโดยวินิจฉัยว่า ผู้ร้องจะต้องมายื่นคำร้องต่อศาลแพ่งจึงจะชอบ (ฎีกาที่ 532/2520) ผู้ร้องได้ฟังคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวในวันที่ 15 สิงหาคม 2520 ต่อมาวันที่ 6 กันยายน 2520 ผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งสั่งเพิกถอนคำสั่งของศาลแพ่งฉบับลงวันที่ 29 ตุลาคม 2516 อ้างว่าสั่งไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ เป็นกรณีที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบเกินกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง แล้วผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของศาลแพ่งฉบับดังกล่าวนั้นได้ ชอบที่จะยกคำร้องของผู้ร้องเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 493/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดที่สมบูรณ์เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาแล้วว่าราคาสมควร ผู้ซื้อได้สิทธิโดยชอบ
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดได้พิจารณาเห็นว่ามีผู้ให้ราคาสมควร และได้เคาะไม้ตกลงขายแล้ว การขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 ผู้ซื้อทอดตลาดได้สิทธินั้นโดยชอบตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นคัดค้านได้ ดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 จำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอให้ขายทอดตลาดใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2631/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากเลยกำหนดจะไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงแต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้น แม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นเจ้าของและผู้ครอบครองที่ดินที่มีการบังคับขายทอดตลาดก็ตาม เมื่อโจทก์มิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง ทั้งไม่เคยใช้สิทธิร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ด้วย โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนได้