คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 69

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 81 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749-750/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีป่าไม้และการขาดลายมือชื่อผู้เรียงฟ้องส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยให้วางโทษทั้งจำคุกและปรับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเพียงเล็กน้อยในข้อให้ลดโทษฐานปราณีตาม กฎหมายอาญา มาตรา 59 และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำขอให้ลงโทษของโจทก์ โจทก์มิได้อ้าง พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 69,73 คงอ้างมาแต่ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2494 มาตรา16,17 เช่นนี้ถือได้แล้วว่าฟ้องโจทก์ได้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำของจำเลยนั้นเป็นความผิดและความใน พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 69,73 ได้ถูกยกเลิกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 16,17 แล้ว เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์สืบสมศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยได้แม้ศาลจะอ้าง มาตรา 69 และ 73 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นบทลงโทษด้วยก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้ไม่จึงถือว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) และการที่ศาลลงโทษจำเลยก็ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาแล้ว
ปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เพราะไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะมิได้หยิบยกขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แต่จำเลยย่อมหยิบยกขึ้นโต้เถียงในชั้นศาลฎีกาได้เสมอ
ปรากฏว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงจริงจึงถือว่าไม่เป็นฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(7) ศาลต้องยกฟ้องเสียโดยไม่จำต้องพิจารณาถึงปัญหาอื่นอีก
จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้แล้วแต่จำเลยต้องถูกขังเกินกำหนดเวลาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกและปรับมา ศาลควรต้องหักเวลาที่ต้องขังเกินกำหนดโดยคิดเป็นเงินวันละ1 บาท คืนให้จำเลยนั้นกรณีเป็นเรื่องบังคับตามคำพิพากษาเมื่อยังไม่ปรากฏว่าศาลล่างได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไรย่อมถือว่ายังไม่มีปัญหามาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้หวงห้ามโดยมิได้ประทับตรารอยค่าภาคหลวง ต้องเป็นไม้ที่ยังไม่ได้แปรรูป
ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยมีไม้หวงห้ามโดยมิได้มีตรารอยค่าภาคหลวงประทับไว้ในความครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 69 ซึ่งได้แก้ไขใหม่โดย พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3)2494 มาตรา 16 แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลก็ลงโทษจำเลยตามขอไม่ได้เพราะบทมาตราดังกล่าวเป็นเรื่องมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ของผู้ครอบครองไม้หวงห้าม: การซื้อโดยสุจริตต้องพิสูจน์แหล่งที่มาที่ชอบด้วยกฎหมาย
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 69 บัญญัติเป็นพิเศษให้ผู้ครอบครองไม้ประเภทหวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับ อันมีรูปลักษณะซึ่งเห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นไม้ป่านั้น เป็นผู้นำสืบพิศูจน์หักล้างความผิด คือสืบว่าตนได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยต่อสู้ว่าซื้อไม้ดังกล่าวไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำเมื่อสืบฟังได้แต่เพียงว่าซื้อ ไม้นั้นไว้จากผู้มีชื่อ ส่วนการที่ได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำนั้นสืบฟังไม่ได้ ดังนี้ จำเลยยังไม่พ้นผิดคงต้องมีความผิดตามมาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ที่มาของไม้หวงห้าม: ผู้ครอบครองต้องพิสูจน์ที่มาโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ซื้อมาจากผู้อ้างมีใบเหยียบย่ำ
พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 บัญญัติเป็นพิเศษให้ผู้ครอบครองไม้ประเภทหวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับ อันมีรูปลักษณะซึ่งเห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นไม้ป่านั้น เป็นผู้นำสืบพิสูจน์หักล้างความผิดคือสืบว่าตนได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยต่อสู้ว่า ซื้อไม้ดังกล่าวไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้ตัดไม้นั้นมาจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำ เมื่อสืบฟังได้แต่เพียงว่า ซื้อไม้นั้นไว้จากผู้มีชื่อ ส่วนการที่ได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำนั้นสืบฟังไม่ได้ดังนี้ จำเลยยังไม่พ้นผิด คงต้องมีความผิดตามมาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตทำไม้ก่อนมีกฎหมายหวงห้าม การเพิกถอนคำสั่ง และการมีไม้ไว้ในครอบครองโดยชอบ
จำเลยได้รับคำสั่งของอำเพอไห้นำไม้ซึ่งตัดไว้ก่อนพระราชกริสดีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ส. 2485 อันมีจำนวนไม่เกิน 200 ต้น มาขายไห้แก่โรงเลื่อยทางราชการติดต่อกันเรื่องมาดั่งนี้ แม้จำเลยจะนำเคลื่อนที่พายหลังเมื่อมีพระราชกริสดีกากำหนดไม้หวงห้ามแล้ว ก็ไม่มีความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้หวงห้ามก่อน พ.ร.ฎ. 2485: การเคลื่อนย้ายไม้ที่ได้รับคำสั่งก่อนมีกฎหมาย ไม่อาจถือเป็นความผิด
จำเลยได้รับคำสั่งของอำเภอให้นำไม้ซึ่งตัดไว้ก่อนพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2485 อันมีจำนวนไม่เกิน 200 ต้น มาขายให้แก่โรงเลื่อยของทางราชการติดต่อกันเรื่อยมาดังนี้ แม้จำเลยจะนำเคลื่อนที่ภายหลังเมื่อมีพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามแล้ว ก็ไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถากไม้เพื่อทำลายดวงตรา ไม่ถือเป็นการแปรรูปไม้ หากยังเป็นไม้ซุงท่อน
ไม้สักที่ตัดหัวท้ายและถากผิวไม้รอบๆ ท่อนอย่างธรรมดาเพื่อทำลายดวงตรา การถากไม้ไปเช่นนั้น ไม่ทำให้เนื้อไม้เสื่อมเสีย และไม่ทำให้ไม้เสื่อมราคา ยังถือไม่ได้ว่าได้มีการแปรรูปแล้ว เพราะยังเป็นไม้ซุงไม้ท่อนอยู่
of 9