คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 176

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความข้อกำหนดในฟ้องและประกาศท้ายฟ้องเพื่อกำหนดความผิดฐานใช้เครื่องมือประมงที่ห้าม
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยใช้เครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาดตามประกาศท้ายฟ้อง แต่เมื่อปรากฎว่าตามประกาศท้ายฟ้องนั้นมิได้มีกำหนดห้ามเครื่องมือที่อ้างนั้น ว่าเป็นเครื่องมือที่ห้ามเด็ดขาด ดังนี้แม้จำเลยจะรับสารภาพตามฟ้อง ก็จะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานใช้เครื่องมือที่ห้ามโดยเด็ดขาดไม่ได้ เพราะต้องถือประกาศท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องด้วยจำเลยจึงคงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประมง 2490 มาตรา 18-62 ไม่ใช่ผิดตามมาตรา 32-65 ฉะนั้นการริบเครื่องมือของกลางจึงอยู่ในดุลยพินิจของศาลตามมาตรา 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมการพนัน: โจทก์พอใจในส่วนที่จำเลยรับ จึงไม่นำสืบพยานเพิ่มเติม ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยสมคบกันลักลอบเล่นการพะนันไฮโล และขลุกขลิกพะนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การพะนัน เมื่อจำเลยรับว่า เล่นการพะนันไฮโลอย่างเดียวโจทก์พอใจเท่าที่จำเลยรับ จึงไม่นำสืบพยานเช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงเท่าที่จำเลยรับนั้นได้และฟ้องเช่นนี้ถือว่าไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการฟ้องคดีอาญา: ศาลลงโทษตามที่จำเลยรับได้ แม้โจทก์ไม่นำสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยสมคบกันลักลอบเล่นการพนันไฮโลและขลุกขลิกพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติการพนัน เมื่อจำเลยรับว่า เล่นการพนันไฮโลอย่างเดียวโจทก์พอใจเท่าที่จำเลยรับ จึงไม่นำสืบพยานเช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงเท่าที่จำเลยรับนั้นได้และฟ้องเช่นนี้ถือว่าไม่ใช่ฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน: การขู่เข็ญขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 119,120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า "จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย " แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันขู่เข็ญขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา119, 120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า 'จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย' แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการฆ่าและการลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้มีชื่อตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ใช้มีดลอบแทงผู้มีชื่อตายจริง ไม่ได้ให้การว่าจำเลยได้ฆ่าผู้มีชื่อตายด้วยเจตนาดังนี้ เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้มีชื่อนั้นศาลก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 251 ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า – ฆ่าโดยไม่เจตนา – การพิจารณาจากพฤติการณ์ – การพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้มีชื่อตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ใช้มีดลอบแทงผู้มีชื่อตายจริงไม่ได้ให้การว่าจำเลยได้ฆ่าผู้มีชื่อตายด้วยเจตนา ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้มีชื่อนั้นศาลก็ย่อมมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251 ฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพเรื่องราคาฝิ่น: ไม่ต้องสืบพยานยืนยัน หากจำเลยไม่โต้แย้ง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำฝิ่นผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร โดยได้ระบุถึงจำนวนฝิ่นและราคาฝิ่น ทั้งยังบรรยายถึงราคาฝิ่นรัฐบาลในท้องที่ตามวันเวลาเกิดเหตุเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการเรื่องราคาฝิ่นตามฟ้องก็มิได้คัดค้านแต่ประการใด ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้รับตลอดถึงราคาฝิ่นแล้ว แม้คดีมีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี โจทก์ต้องสืบพยานให้เป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงก็ตาม เมื่อโจทก์นำพยานมาสืบว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริงตามฟ้องแล้วแม้จะไม่ได้สืบเรื่องราคาฝิ่นอีกก็ตามและโดยเหตุที่ราคาฝิ่นเป็นเพียงคำนวณค่าปรับ หาใช่เป็นธาตุฐานแห่งความผิดเมื่อจำเลยให้การรับอยู่แล้วตามฟ้องจึงเป็นการเพียงพอฟังได้ว่าฝิ่นมีราคาจริงดังฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการพิสูจน์ราคาฝิ่นในคดีอาญา การรับสารภาพเพียงพอต่อการคำนวณค่าปรับ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยนำฝิ่นผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร โดยได้ระบุถึงจำนวนฝิ่นและราคาฝิ่น ทั้งยังบรรยายถึงราคาฝิ่นรัฐบาลในท้องที่ตามวันเวลาเกิดเหตุ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการเรื่องราคาฝิ่นตามฟ้องก็มิได้คัดค้านแต่ประการใด ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้รับตลอดถึงราคาฝิ่นแล้ว แม้คดีมีอัตรโทษจำคุกถึง 10 ปี โจทก์ต้องสืบพยานให้เป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงก็ตามเมื่อโจทก์นำพยานมาสืบว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริงตามฟ้องแล้วแม้จะไม่ได้สืบเรื่องราคาฝิ่นอีกก็ตาม และโดยเหตุที่ราคาฝิ่นเป็นเพียงคำนวณค่าปรับ หาใช่เป็นธาตุฐานแห่งความผิด เมื่อจำเลยให้การรับอยู่แล้วตามฟ้องจึงเป็นการเพียงพอฟังได้ว่าฝิ่นมีราคาจริงดังฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอแก้ฟ้องคดีอาญาต้องมีเหตุอันควร ศาลไม่อนุญาตแก้ฟ้องหากไม่มีเหตุผลรองรับ
เดิมโจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์ จำเลยให้การรับแต่เพียงรับของโจร โจทก์จึงมายื่นคำร้องขอแก้ฟ้องเป็นว่า จำเลยรับของโจรโดยมิได้แสดงว่า "มีเหตุอันสมควร" ที่โจทก์จะขอแก้ฟ้องแต่ประการใดเลย ดังนี้ เป็นการไม่ชอบด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 163 จึงไม่มีทางที่ศาลจะพิจารณาอนุญาตได้ จึงต้อถือว่าคดีเป็นอันไม่มีข้อหาว่าจำเลยรับของโจรจะพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้ และข้อหาฐานลักทรัพย์ตามคำฟ้องเดิมโจทก์ก็สละเสียแล้ว ไม่มีทางจะลงโทษจำเลยได้เช่นเดียวกัน
of 68