พบผลลัพธ์ทั้งหมด 679 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายควบคุมข้าว: ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค และ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว และหลักการพิจารณาคดีอาญา
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 กับ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีอาญาอัตราโทษสูง แม้รับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนพอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริง
คดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริง เมื่อศาลฟังพยานโจทก์ได้ความว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันเกินแก่เหตุศาลย่อมลงโทษเท่าที่จำเลยได้กระทำผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันลักทรัพย์: การกระทำที่ถือเป็นตัวการ
พฤตติการณ์ที่ถือว่า เป็นตัวการฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 295,54, จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตนา 321 ,59 จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมคิดลักทรัพย์: ตัวการร่วมกระทำผิดจากการแบ่งของที่ได้จากการลักทรัพย์
จำเลยได้ไปที่ร้านเจ้าทรัพย์ในวันเกิดเหตุหลายครั้งโดยมีพวกไปด้วยและต่อมาในคืนเกิดเหตุพวกของจำเลยเข้าทำการลักทรัพย์ในร้าน จำเลยคอยข้างนอกเพราะเกรงว่าเจ้าทรัพย์ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจะจำหน้าได้เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วแบ่งกันจำเลยได้รับส่วนแบ่ง พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยได้สมคบร่วมคิดและร่วมมือกระทำความผิดกับพรรคพวกต้องเป็นตัวการลักทรัพย์รายนี้ด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพภายหลังต่อสู้คดีเดิม: ศาลไม่วินิจฉัยประเด็นอำนาจสอบสวนเดิม
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์แม้จะไม่ปรากฏข้อความว่าให้ยืนยก แก้หรือกลับแต่ปรากฏข้อความว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่าพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั่นเอง ย่อมถูกต้องตามมาตรา 214 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อสู้ว่าผู้ทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบาและแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น
เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็นปัญหาที่ศาลจะต้องยกขึ้นวินิจฉัยต่อไป
การที่จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับทั้งหลายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วยตามมาตรา 16 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ และต่อสู้ว่าผู้ทำการสอบสวนทำการสอบสวนโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ต่อมาจำเลยกลับให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ขอให้ลงโทษจำเลยแต่ในสถานเบาและแยกพิพากษาคดีส่วนตัวของจำเลยให้เสร็จสิ้นไปนั้น
เป็นการแสดงว่าจำเลยไม่ติดใจต่อสู้คดี ตามคำให้การฉบับแรกนั้นแล้ว ฉะนั้นข้อต่อสู้ของจำเลยชั้นเดิมที่ว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่เป็นปัญหาที่ศาลจะต้องยกขึ้นวินิจฉัยต่อไป
การที่จะฟังว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในการนี้อาจต้องพิจารณาถึงข้อบังคับทั้งหลายซึ่งว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของตำรวจเป็นข้อประกอบด้วยตามมาตรา 16 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพยานของโจทก์ในคดีอาญา: การพิสูจน์ความผิดฐานทำให้แหล่งน้ำสาธารณะเสียหาย
ความผิดฐานทำให้ที่ขังน้ำสำหรับสาธารณชนใช้สอยโสโครกเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คงรับแต่ว่าได้วิดปลาจริง โจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความสมฟ้องว่าจำเลยทำให้ที่ขังน้ำสำหรับสาธารณชนใช้สอยขุ่นข้นโสโครก โจทก์ไม่นำสืบสมฟ้อง จำเลยก็ยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน หากไม่นำสืบต้องยกฟ้อง
คดีอาญา จำเลยให้การว่าได้กระทำเพื่อป้องกันตัว โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่นำสืบ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบพยานหลักฐานอื่น ศาลลงโทษได้ แม้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
จำเลยรับสารภาพต่อศาลว่าฆ่าผู้ตายจริงและโจทก์มีพยาน 1 ปากว่าจำเลยกลับมาถึงบ้านก็บอกพยานว่าแทงผู้ตายตาย มีปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าจำเลยรับว่าแทงผู้ตายตายและมีแพทย์ผู้ชันสูตรศพว่าผู้ตายตายเพราะแผลถูกแทง ดังนี้ เป็นพยานประกอบคำรับ พอลงโทษตามมาตรา 249 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การประกาศกฎหมายป่าไม้: จำเป็นต้องแสดงการคัดลอกประกาศ ณ ที่สาธารณะเพื่อใช้ในการดำเนินคดี
ในคดีที่ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484โจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องให้ปรากฏด้วยว่าได้มีการคัดสำเนาพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่ง พระราชบัญญัติ นี้ไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ทำการกำนัน หรือที่สาธารณสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องแล้วถ้าในฟ้องมิได้กล่าวไว้ทั้งตามท้องสำนวนก็ไม่ได้ความตามที่ พระราชกฤษฎีกากำหนดไว้ แม้จำเลยรับสารภาพ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 423/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบพยานแวดล้อมเพียงพอ ศาลลงโทษจำเลยได้ แม้พยานไม่หนักแน่น
ในคดีที่จำเลยรับสารภาพแต่เพราะเป็นคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงถึง 10 ปี ศาลจึงต้องฟังพยานโจทก์ต่อไปจนกว่าจะเป็นที่พอใจว่าจำเลยกระทำผิดจริงนั้นพยานที่ศาลจะต้องฟังนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถึงขนาดที่จะใช้ลงโทษได้อย่างในคดีที่จำเลยปฏิเสธเพียงแต่มีเหตุผลแวดล้อมให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามความจริง ไม่มีเหตุผลสงสัยว่าจะรับแทนผู้อื่นแล้วก็พอฟังลงโทษจำเลยได้ เพราะมีคำรับของจำเลยเป็นหลักอยู่แล้ว.
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุรา ต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้น เมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตาย ตายศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตาย ตายดังคำรับสารภาพได้.
โจทก์มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายและผู้อื่นเกิดทุ่มเถียงกันในวงเสพสุรา ต่อมาในเวลาใกล้ชิดกันนั้น มีผู้พบศพผู้ตายในวงเสพสุรานั้น เมื่อจำเลยรับสารภาพโดยดีว่าได้เป็นผู้ทำร้ายผู้ตาย ตายศาลฟังว่าจำเลยทำร้ายผู้ตาย ตายดังคำรับสารภาพได้.