พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,099 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้เรื่องเอกสารสัญญากู้ยืมเงินเป็นเอกสารปลอม ผู้กู้มีสิทธิสืบพยานได้
จำเลยยอมรับว่าได้ลงชื่อไว้ในช่องผู้กู้ตามสัญญากู้ยืมเงินที่ทำไว้กับโจทก์ แต่ต่อสู้ว่าขณะที่ลงชื่อยังไม่ได้มีการกรอกข้อความใด ๆ ลงไป แล้วโจทก์ไปกรอกจำนวนเงินเพิ่มเติมภายหลังซึ่งสูงกว่าที่จำเลยกู้ยืมไปจากโจทก์ ดังนี้ เท่ากับจำเลยต่อสู้ว่าสัญญากู้ยืมเงินเป็นเอกสารปลอม จำเลยจึงนำพยานบุคคลมาสืบตามข้อต่อสู้ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงิน: การรับเงินไม่ครบตามสัญญาไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ และการขาดนัดต่อสู้คดีทำให้ศาลเชื่อถือพยานหลักฐานของโจทก์
แม้สัญญากู้เงินจะระบุไว้ว่า ผู้กู้ได้รับเงินกู้จากผู้ให้กู้ถูกต้องครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญาก็ตาม แต่ก็เป็นสิทธิของผู้กู้ที่จะไม่รับเงินไปทั้งหมดในวันนั้นก็ได้ สัญญากู้เงินดังกล่าวก็ยังคงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน โจทก์นำสืบถึงจำนวนหนี้ที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระต่อโจทก์จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 5 ในฐานผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ก็มิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ไม่ถูกต้องอย่างไรและจำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้แก่โจทก์ไปแล้วเพียงใด และในชั้นพิจารณาคงมีแต่จำเลยที่ 2 เบิกความลอย ๆ ว่าไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์เท่าใด และไม่ทราบว่านางสาวพรรณีพยานโจทก์นำเงินที่เบิกตามเอกสารหมาย ป.ล.2 และ ป.ล.3 ชำระหนี้ให้แก่โจทก์หรือยังโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ถามค้านนางสาวพรรณีพยานโจทก์ไว้แต่อย่างใดจึงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นเหตุให้ยอดหนี้ลดลงไปหรือไม่จำนวนใด ต้องรับฟังตามข้อนำสืบของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4173/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการต่อสู้ในคดีนอกคำให้การ และการฟ้องซ้ำที่มิได้มีประเด็นข้อเท็จจริงเดียวกัน
ปัญหาว่า ว.กรรมการบริษัทโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายความหรือไม่ จำเลยที่ 3 มิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การฎีกาของจำเลยที่ 3 ในส่วนนี้จึงเป็นเรื่องนอกประเด็นนอกเหนือจากคำให้การ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในเรื่องเดียวกันครั้งหนึ่งแล้วแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานไม่พอรับฟังว่า ว.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทโจทก์เป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ในคดีดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้คดีก่อนศาลจะสืบพยานในประเด็นแห่งคดีจนเสร็จการพิจารณาแล้ว แต่ศาลก็พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุพยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับอำนาจฟ้องยังไม่พอรับฟังโดยยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี ทั้งปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องในคดีก่อนกับคดีนี้ก็ต่างกัน การที่โจทก์มาฟ้องใหม่ในเรื่องเดียวกันนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4069/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นนอกคำให้การและประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดไว้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากไม่ได้รับการฎีกาคัดค้าน
จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า จำเลยมิได้กู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องและมิได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้ สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอมจึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใด ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นว่า จำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใดไว้ การที่ศาลอุทธรณ์ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ แต่โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และผลคดีเป็นประโยชน์แก่จำเลยมากแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3614/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ปลอมเป็นเหตุให้ขาดอายุความฟ้อง และจำเลยมีสิทธิโต้แย้งการเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร
กู้เงินเพียง 30,000 บาท โดยผู้กู้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้ซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความ แล้วโจทก์มากรอกข้อความเป็นว่ากู้จำนวน90,000 บาท ในภายหลังโดยผู้กู้มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญากู้จึงเป็นเอกสารปลอม โจทก์ไม่อาจใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมมาฟ้องบังคับคดี จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้คดีไว้ว่าสัญญากู้เป็นเอกสารปลอมจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคสอง ส่วนการนำสืบว่ารับเงินจากโจทก์จำนวน 28,200 บาทเป็นการอ้างเหตุผลประกอบว่าสัญญากู้ที่มีข้อความว่ากู้ 90,000 บาทเป็นเอกสารปลอมไม่ใช่เรื่องนำสืบเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือสัญญากู้ยืมเงินที่ลงลายมือชื่อไม่ตรงตามตำแหน่งผู้กู้ ยังคงเป็นหลักฐานการกู้ยืมได้
เมื่อจำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง การที่จำเลยที่ 2ซึ่งในสัญญาตอนต้นระบุว่าเป็นผู้กู้ลงลายมือชื่อในช่องพยานและจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้โดยไม่มีชื่อเป็นผู้กู้ในตอนต้นของสัญญา หาทำให้เอกสารดังกล่าวไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคแรกไม่ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดตามข้อความในเอกสารดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3262/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือสัญญาที่ไม่สมบูรณ์แบบ ยังใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ หากมีเจตนาและมีการกู้ยืมจริง
จำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินโจทก์ไปจริง การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งในสัญญาตอนต้นระบุว่าเป็นผู้กู้ลงลายมือชื่อในช่องพยาน และจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้โดยไม่มีชื่อเป็นผู้กู้ในตอนต้นของสัญญาไม่ทำให้เอกสารดังกล่าวไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคแรก จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดตามข้อความในเอกสารดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมที่ไม่ติดอากรแสตมป์ & อำนาจแต่งตั้งทนายความของตัวแทนจากหนังสือมอบอำนาจ
ใบยืมของชั่วคราวปรากฏว่ามีข้อความสาระสำคัญเพียงว่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2528 จำเลยยืมเงินไป 40,000 บาท และมีลายมือชื่อจำเลยในช่องผู้รับของเท่านั้น เอกสารดังกล่าวจึงเป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือมิใช่สัญญากู้ยืม จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ ดังนั้น ศาลจึงรับฟังใบยืมของชั่วคราวเป็นพยานหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้ไม่ขัดต่อ ป.รัษฎากรมาตรา 118 และปัญหานี้แม้มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาจึงหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ เมื่อหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคล ได้มอบอำนาจให้ด. เป็นตัวแทนมีอำนาจยื่นฟ้องเป็นคดีอาญา คดีแพ่ง และหรือคดีล้มละลาย ด. จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 60 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมที่ไม่ติดอากรแสตมป์ & อำนาจแต่งตั้งทนายความของผู้รับมอบอำนาจ
ปัญหาว่าเอกสารหลักฐานแห่งการกู้ยืมมิได้ปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าตามประมวลรัษฎากร ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาได้ ใบยืมของชั่วคราวมีข้อความเพียงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม2528 จำเลยยืมเงินไป 40,000 บาท และมีลายมือชื่อจำเลยในช่องผู้รับของ เป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ มิใช่สัญญากู้ยืม จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ โจทก์มอบอำนาจให้ ด.เป็นตัวแทนมีอำนาจฟ้องคดีด.จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความว่าความแทนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมที่ไม่ติดอากรแสตมป์ และอำนาจแต่งตั้งทนายความของตัวแทน
ปัญหาว่าเอกสารหลักฐานแห่งการกู้ยืมมิได้ปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าตามประมวล-รัษฎากร ศาลจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาได้
ใบยืมของชั่วคราวมีข้อความเพียงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2528 จำเลยยืมเงินไป 40,000 บาท และมีลายมือชื่อจำเลยในช่องผู้รับของ เป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ มิใช่สัญญากู้ยืม จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์
โจทก์มอบอำนาจให้ ด.เป็นตัวแทนมีอำนาจฟ้องคดี ด.จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความว่าความแทนได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 60 วรรคสอง
ใบยืมของชั่วคราวมีข้อความเพียงว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2528 จำเลยยืมเงินไป 40,000 บาท และมีลายมือชื่อจำเลยในช่องผู้รับของ เป็นเพียงหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ มิใช่สัญญากู้ยืม จึงไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์
โจทก์มอบอำนาจให้ ด.เป็นตัวแทนมีอำนาจฟ้องคดี ด.จึงมีอำนาจแต่งตั้งทนายความว่าความแทนได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 60 วรรคสอง