พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,099 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเวนคืนโฉนดมิใช่การชำระหนี้ การไม่อุทธรณ์คำสั่งตัดพยานทำให้ฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ในศาลชั้นต้นจำเลยต่อสู้ว่าการเวนคืนโฉนดที่จำเลยให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้นั้นเท่ากับเป็นการเวนคืนเอกสารหลักฐานแห่งการกู้ยืมประเด็นข้อนี้ศาลชั้นต้นสั่งไม่ให้จำเลยนำสืบเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนี้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 226จำเลยจะขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันทึกการเปรียบเทียบทางอำเภอเป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ หากจำเลยรับสภาพหนี้ในเอกสาร
คำรับสภาพหนี้ในบันทึกการเปรียบเทียบของอำเภอซึ่งจำเลยลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานแสดงการกู้ยืมเป็นหนังสือตาม ่ป.พ.พ. ม.653.
(เทียบฎีกาที่ 865/2493)
(เทียบฎีกาที่ 865/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันทึกเปรียบเทียบอำเภอเป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ หากจำเลยรับสภาพหนี้ชัดเจน
คำรับสภาพหนี้ในบันทึกการเปรียบเทียบของอำเภอซึ่งจำเลยลงลายมือชื่อไว้ เป็นหลักฐานแสดงการกู้ยืมเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 (เทียบฎีกาที่ 865/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการต่อสู้คดีและการกู้ยืมเงินของบริษัท การกู้ยืมเงินไม่เกินวัตถุประสงค์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ซึ่งตามสัญญามีข้อความชัดว่าผู้กู้ได้รับเงินไปแล้วจำเลยต่อสู้เพียงว่าไม่ได้รับเงินไป เหตุใดจึงไม่มีการรับเงินอันจะทำให้สัญญาหรือหนี้ที่ระบุไว้ไม่สมบูรณ์ จำเลยหาได้กล่าวอ้างอย่างใดไม่ ดังนี้จำเลยจะขอนำสืบไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.ม.94
ในวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อ 11 ระบุไว้ว่า "ฯลฯทำการนำทรัพย์สินของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วน ฯลฯ จำนำ จำนอง เอาค้ำประกันจำหน่ายไปหมุนส่งเป็นตัวเงินหรือจัดการอย่างใดก็ได้สุดแต่บรีษัทจะเห็นสมควร " ดังนี้เมื่อการกู้ยืมโดยเอาทรัพย์สินของบริษัทมอบไว้หรือตราไว้เป็นประกันเงินกู้ซึ่งเรียกว่าจำนำหรือจำนองไว้แล้ว และการกู้ยืมธรรมดาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้โดยสิ้นเชิงย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในอำนาจของบริษัทที่จะทำได้การกู้เช่นนี้จึงไม่เป็นการนอกวัตถุประสงค์ของบริษัทจำเลย
ฎีกาที่ 246/2485,799/2493,1111/2496
ในวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อ 11 ระบุไว้ว่า "ฯลฯทำการนำทรัพย์สินของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วน ฯลฯ จำนำ จำนอง เอาค้ำประกันจำหน่ายไปหมุนส่งเป็นตัวเงินหรือจัดการอย่างใดก็ได้สุดแต่บรีษัทจะเห็นสมควร " ดังนี้เมื่อการกู้ยืมโดยเอาทรัพย์สินของบริษัทมอบไว้หรือตราไว้เป็นประกันเงินกู้ซึ่งเรียกว่าจำนำหรือจำนองไว้แล้ว และการกู้ยืมธรรมดาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้โดยสิ้นเชิงย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในอำนาจของบริษัทที่จะทำได้การกู้เช่นนี้จึงไม่เป็นการนอกวัตถุประสงค์ของบริษัทจำเลย
ฎีกาที่ 246/2485,799/2493,1111/2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินโดยบริษัทและการต่อสู้คดีเรื่องการรับเงินและวัตถุประสงค์ของบริษัท
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ซึ่งตามสัญญามีข้อความชัดว่าผู้กู้ได้รับเงินไปแล้ว จำเลยต่อสู้เพียงว่าไม่ได้รับเงินไป เหตุใดจึงไม่มีการรับเงินอันจะทำให้สัญญาหรือหนี้ที่ระบุไว้ไม่สมบูรณ์ จำเลยหาได้กล่าวอ้างอย่างใดไม่ ดังนี้จำเลยจะขอนำสืบไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ในวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อ 11 ระบุไว้ว่า "ฯลฯ ทำการนำทรัพย์สินของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนฯลฯ จำนำ จำนอง เอาค้ำประกันจำหน่ายไปหมุนส่งเป็นตัวเงินหรือจัดการอย่างใดก็ได้สุดแต่บริษัทจะเห็นสมควร" ดังนี้เมื่อการกู้ยืมโดยเอาทรัพย์สินของบริษัทมอบไว้หรือตราไว้เป็นประกันเงินกู้ซึ่งเรียกว่าจำนำหรือจำนองได้แล้วและการกู้ยืมธรรมดาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้โดยสิ้นเชิง ย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในอำนาจของบริษัทที่จะทำได้การกู้ เช่นนี้จึงไม่เป็นการนอกวัตถุประสงค์ของบริษัทจำเลย ฎีกาที่ 246/2485799/2493 1111/2496
ในวัตถุประสงค์ของบริษัทข้อ 11 ระบุไว้ว่า "ฯลฯ ทำการนำทรัพย์สินของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนฯลฯ จำนำ จำนอง เอาค้ำประกันจำหน่ายไปหมุนส่งเป็นตัวเงินหรือจัดการอย่างใดก็ได้สุดแต่บริษัทจะเห็นสมควร" ดังนี้เมื่อการกู้ยืมโดยเอาทรัพย์สินของบริษัทมอบไว้หรือตราไว้เป็นประกันเงินกู้ซึ่งเรียกว่าจำนำหรือจำนองได้แล้วและการกู้ยืมธรรมดาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้โดยสิ้นเชิง ย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในอำนาจของบริษัทที่จะทำได้การกู้ เช่นนี้จึงไม่เป็นการนอกวัตถุประสงค์ของบริษัทจำเลย ฎีกาที่ 246/2485799/2493 1111/2496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องมีคำว่า 'กู้ยืม' ในเอกสาร หนังสือแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อก็ใช้ได้
การกู้ยืมเงินนั้น ป.พ.พ.ม.653 มิได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่าจะต้องมีถ้อยคำว่ากู้ยืมเงินเป็นหลักฐานในเอกสาร
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน ไม่ต้องมีคำว่า 'กู้ยืม' โดยตรง หนังสือลงลายมือชื่อลูกหนี้ก็ใช้ได้
การกู้ยืมเงินนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 มิได้มีความหมายเคร่งครัดถึงกับว่าจะต้องมีถ้อยคำว่ากู้ยืมเงินเป็นหลักฐานในเอกสาร
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็อาจเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้
เมื่อโจทก์มีหนังสืออันอาจแสดงความเป็นหนี้ลงลายมือชื่อลูกหนี้ ก็อาจเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมเงินในหน้าที่ราชการต้องมีสัญญา การมอบหมายหน้าที่ไม่ทำให้เกิดความรับผิดในฐานผู้ยืม
ยืนตาม ก.ม.นั้นต้องเกิดขึ้นโดยสัญญา
โดยหน้าที่ราชการจำเลยที่ 1 ได้ยืมเงินทดลองไปจากกองคลังกรมไปรษณีย์เพื่อจ่ายในราชการอธิบดีรับรองข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ควรมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่รักษาเงิน
ดังนี้ใบยืมที่จำเลยที่ 1 เซ็นไว้จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานในวงราชการ การที่จำเลยที่ 1 ต้องเซ็นใบยิมก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติราชการ เพียงเท่านี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ยืมหรือตัวการ
โดยหน้าที่ราชการจำเลยที่ 1 ได้ยืมเงินทดลองไปจากกองคลังกรมไปรษณีย์เพื่อจ่ายในราชการอธิบดีรับรองข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ควรมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่รักษาเงิน
ดังนี้ใบยืมที่จำเลยที่ 1 เซ็นไว้จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานในวงราชการ การที่จำเลยที่ 1 ต้องเซ็นใบยิมก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติราชการ เพียงเท่านี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ยืมหรือตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกเงินทดรองราชการ ไม่ถือเป็นการยืมตามกฎหมาย หากเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงาน
การยืมตามกฎหมายนั้นต้องเกิดขึ้นโดยสัญญา
โดยหน้าที่ราชการจำเลยที่ 1 ได้ยืมเงินทดรองไปจากกองคลังกรมไปรษณีย์เพื่อจ่ายในราชการ อธิบดีรับรองข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ควรมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่รักษาเงิน
ดังนี้ใบยืมที่จำเลยที่ 1 เซ็นไว้จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานในวงราชการ การที่จำเลยที่ 1 ต้องเซ็นใบยืมก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติราชการ เพียงเท่านี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ยืมหรือตัวการ
โดยหน้าที่ราชการจำเลยที่ 1 ได้ยืมเงินทดรองไปจากกองคลังกรมไปรษณีย์เพื่อจ่ายในราชการ อธิบดีรับรองข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ควรมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดบัญชีเป็นผู้มีหน้าที่รักษาเงิน
ดังนี้ใบยืมที่จำเลยที่ 1 เซ็นไว้จึงเป็นแต่เพียงหลักฐานในวงราชการ การที่จำเลยที่ 1 ต้องเซ็นใบยืมก็เพื่อปฏิบัติหน้าที่อันเป็นเรื่องของระเบียบปฏิบัติราชการ เพียงเท่านี้จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในฐานผู้ยืมหรือตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
น้ำหนักพยานหลักฐาน: ศาลให้ความสำคัญพยานบุคคลมากกว่าความเห็นผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือ
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ลายมืออาจมีน้ำหนัก+พอจะหักล้างคำประจักษ์พยานหลายปากซึ่งเบิกความสอดคล้องต้องกันได้ไม่