พบผลลัพธ์ทั้งหมด 453 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5996/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากสัญญาเช่าซื้อ: ศาลยืนตามข้อตกลงเบี้ยปรับ แม้รถสภาพทรุดโทรม
จำเลยค้างชำระค่าเช่าซื้อรถก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 111,000 บาท ข้อสัญญาเช่าซื้อที่ให้ผู้เช่าซื้อชำระค่าเสียหายเท่าจำนวนเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระก่อนเลิกสัญญาแก่เจ้าของ เป็นการกำหนดเบี้ยปรับไว้ล่วงหน้าแต่เมื่อโจทก์ไปยึดรถคืนมา รถมีสภาพทรุดโทรมมากและโจทก์นำ ไปขายได้เพียง 50,000 บาท ต่ำกว่าราคาที่เช่าซื้อมาก ดังนี้ ที่โจทก์เรียกค่าเสียหายเท่ากับราคาเช่าซื้อที่ค้างชำระ จึงเป็นค่าเสียหายที่พอสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสูงเกินส่วนจากสัญญาซื้อขาย ศาลลดค่าปรับให้เหมาะสมกับความเสียหาย
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้าจากจำเลยรวม4 ฉบับ จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและปรับจำเลยพร้อมริบหลักประกันตามสัญญารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 558,404 บาท การที่โจทก์บอกเลิกสัญญาแต่ละฉบับภายหลังจำเลยผิดสัญญาเป็นเวลานานเป็นปีและปรับจนถึงวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นจำนวนค่าปรับสูงเกินกว่าราคาสิ่งของที่โจทก์ซื้อมาก จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าปรับเป็นเงิน 260,359.20 บาทจึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3821/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าปรับสูงเกินส่วนในสัญญาซื้อขาย ศาลลดค่าปรับให้เหมาะสมกับความเสียหาย
โจทก์ทำสัญญาซื้อขายเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ไฟฟ้าจากจำเลยรวม 4 ฉบับ จำเลยผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและปรับจำเลยพร้อมริบหลักประกันตามสัญญารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 558,404 บาทการที่โจทก์บอกเลิกสัญญาแต่ละฉบับภายหลังจำเลยผิดสัญญาเป็นเวลานานเป็นปีและปรับจนถึงวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาเป็นจำนวนค่าปรับสูงเกินกว่าราคาสิ่งของที่โจทก์ซื้อมาก จึงเป็นเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าปรับเป็นเงิน 260,359.20 บาท จึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญาจ้างแรงงาน: การริบเงินประกันเมื่อลูกจ้างผิดสัญญาและข้อจำกัดเรื่องความเสียหายที่แท้จริง
สัญญาจ้างแรงงานกำหนดว่ากรณีที่ลูกจ้างฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ลูกจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างริบเงินประกันได้ทันทีโดยให้คำมั่นว่าจะไม่เรียกร้องประการใดจากนายจ้าง จึงเป็นข้อสัญญาซึ่งกำหนดบังคับในลักษณะเป็นเบี้ยปรับอันมีจำนวนเท่ากับเงินประกันที่วางไว้ล่วงหน้าเป็นเงิน 2,100 บาทนั้น เมื่อโจทก์ถูกเลิกจ้างภายในระยะเวลาทดลองงาน 180 วัน เพราะเหตุที่ทำผิดต่อระเบียบข้อบังคับของโรงพยาบาลจำเลยเป็นการฝ่าฝืนสัญญาจ้างแรงงาน จำเลยมีสิทธิริบเงินประกันในฐานะเป็นเบี้ยปรับได้ตามสัญญา แต่เบี้ยปรับเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายซึ่งหากสูงเกินกว่าที่เสียหายจริงศาลย่อมลดลงได้ ปรากฏว่าความเสียหายที่จำเลยได้รับคิดเป็นเงิน 100 บาท ดังนั้นนายจ้างย่อมมีสิทธิริบเงินประกันไว้ได้เพียง 100 บาท ส่วนที่เกินต้องคืนให้ลูกจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3679/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับในสัญญาจ้างแรงงาน: ศาลยืนยันการริบเงินประกันได้ตามสัญญา แต่ต้องลดลงตามความเสียหายจริง
สัญญาจ้างแรงงานกำหนดว่ากรณีที่ลูกจ้างฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ลูกจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างริบเงินประกันได้ทันทีโดยให้คำมั่นว่าจะไม่เรียกร้องประการใดจากนายจ้าง จึงเป็นข้อสัญญาซึ่งกำหนดบังคับในลักษณะเป็นเบี้ยปรับอันมีจำนวนเท่ากับเงินประกันที่วางไว้ล่วงหน้าเป็นเงิน 2,100 บาทนั้น เมื่อโจทก์ถูกเลิกจ้างภายในระยะเวลาทดลองงาน 180 วัน เพราะเหตุที่ทำผิดต่อระเบียบข้อบังคับของโรงพยาบาลจำเลยเป็นการฝ่าฝืนสัญญาจ้างแรงงาน จำเลยมีสิทธิริบเงินประกันในฐานะเป็นเบี้ยปรับได้ตามสัญญา แต่เบี้ยปรับเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายซึ่งหากสูงเกินกว่าที่เสียหายจริงศาลย่อมลดลงได้ ปรากฏว่าความเสียหายที่จำเลยได้รับคิดเป็นเงิน 100 บาท ดังนั้นนายจ้างย่อมมีสิทธิริบเงินประกันไว้ได้เพียง 100 บาท ส่วนที่เกินต้องคืนให้ลูกจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดนัด ค่าเสียหายเบี้ยปรับ การลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วน และการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเสียหาย
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่าหากผู้เช่าซื้อผิดสัญญา เงินที่ชำระแล้วทั้งหมดจะถูกริบและต้องส่งคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อย หากไม่ส่งคืนจนต้องดำเนินการยืดทรัพย์ออกขาย เงินขาดอยู่เท่าใด ผู้เช่าซื้อต้องชำระจนครบ ข้อสัญญานี้เป็นการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่ง มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ หากสูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ดังนั้นจึงต้องสืบพยานโจทก์จำเลยฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเสียหายก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 45/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อผิดนัด การกำหนดค่าเสียหาย (เบี้ยปรับ) และการสืบพยานเพื่อพิสูจน์ความเสียหาย
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่าหากผู้เช่าซื้อผิดสัญญา เงินที่ชำระแล้วทั้งหมดจะถูกริบและต้องส่งคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อย หากไม่ส่งคืนจนต้องดำเนินการยืดทรัพย์ออกขายเงินขาดอยู่เท่าใด ผู้เช่าซื้อต้องชำระจนครบ ข้อสัญญานี้เป็นการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่ง มีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ หากสูงเกินส่วนศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ดังนั้นจึงต้องสืบพยานโจทก์จำเลยฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเสียหายก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2757/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชดใช้ทุนการศึกษา: การหนีราชการถือเป็นการผิดสัญญา และเงินเดือนระหว่างทุนนำมาคำนวณค่าปรับได้
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดกองทัพอากาศ และได้รับทุนให้เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยทำสัญญาไว้ว่าจะกลับมารับราชการโดยไม่ลาออกหรือโอนไปรับราชการที่อื่นตามระยะเวลาที่กำหนดนั้น หากปรากฏว่าจำเลยที่ 1 หนีราชการไปก่อนครบกำหนดระยะเวลา และกองทัพอากาศได้ปลดจำเลยที่ 1 ออกจากราชการเนื่องจากเหตุดังกล่าว ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา เพราะคำว่า หนีราชการ เป็นถ้อยคำที่แสดงบ่งชัดให้เห็นอยู่ในตัวแล้วว่ามีเจตนาที่จะไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงจะอ้างว่ากองทัพอากาศปลดจำเลยที่ 1 ออกเอง อันไม่เป็นการผิดสัญญาหาได้ไม่
เงินเดือนที่จำเลยที่ 1 ได้รับในระหว่างไปศึกษาต่างประเทศนั้น อยู่ในความหมายของคำว่า เงินรายเดือนที่ทางราชการได้จ่ายให้เนื่องในการเดินทางและศึกษา ตามข้อสัญญาที่จำเลยที่ 1 ทำให้ไว้แก่โจทก์และยอมชดใช้ในกรณีผิดสัญญา จึงนำเงินเดือนมารวมคำนวณคิดเป็นค่าปรับได้
การที่จำเลยที่ 1 ได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ 2 ครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา โดยมีข้อสัญญาว่าจะยอมปฏิบัติราชการชดใช้ทุนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศต่อจากสัญญาฉบับอื่นนั้น จำเลยที่ 1 จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศก่อน จากนั้นจึงนับระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ต่อจากระยะเวลาที่ครบกำหนดการปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศตามลำดับ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในหนี้คนละจำนวน จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงควรรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมตามส่วนที่ตนต้องรับผิดตามฟ้อง.
เงินเดือนที่จำเลยที่ 1 ได้รับในระหว่างไปศึกษาต่างประเทศนั้น อยู่ในความหมายของคำว่า เงินรายเดือนที่ทางราชการได้จ่ายให้เนื่องในการเดินทางและศึกษา ตามข้อสัญญาที่จำเลยที่ 1 ทำให้ไว้แก่โจทก์และยอมชดใช้ในกรณีผิดสัญญา จึงนำเงินเดือนมารวมคำนวณคิดเป็นค่าปรับได้
การที่จำเลยที่ 1 ได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ 2 ครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา โดยมีข้อสัญญาว่าจะยอมปฏิบัติราชการชดใช้ทุนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศต่อจากสัญญาฉบับอื่นนั้น จำเลยที่ 1 จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศก่อน จากนั้นจึงนับระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ต่อจากระยะเวลาที่ครบกำหนดการปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศตามลำดับ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในหนี้คนละจำนวน จำเลยที่ 2 ที่ 3 จึงควรรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมตามส่วนที่ตนต้องรับผิดตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2757/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชดใช้ทุนการศึกษา, การหนีราชการ, และความรับผิดร่วมในหนี้
จำเลยที่1ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดกองทัพอากาศและได้รับทุนให้เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยทำสัญญาไว้ว่าจะกลับมารับราชการโดยไม่ลาออกหรือโอนไปรับราชการที่อื่นตามระยะเวลาที่กำหนดนั้นหากปรากฏว่าจำเลยที่1หนีราชการไปก่อนครบกำหนดระยะเวลาและกองทัพอากาศได้ปลดจำเลยที่1ออกจากราชการเนื่องจากเหตุดังกล่าวดังนี้ถือว่าจำเลยที่1ผิดสัญญาเพราะคำว่าหนีราชการเป็นถ้อยคำที่แสดงบ่งชัดให้เห็นอยู่ในตัวแล้วว่ามีเจตนาที่จะไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการจึงจะอ้างว่ากองทัพอากาศปลดจำเลยที่1ออกเองอันไม่เป็นการผิดสัญญาหาได้ไม่ เงินเดือนที่จำเลยที่1ได้รับในระหว่างไปศึกษาต่างประเทศนั้นอยู่ในความหมายของคำว่าเงินรายเดือนที่ทางราชการได้จ่ายให้เนื่องในการเดินทางและศึกษาตามข้อสัญญาที่จำเลยที่1ทำให้ไว้แก่โจทก์และยอมชดใช้ในกรณีผิดสัญญาจึงนำเงินเดือนมารวมคำนวณคิดเป็นค่าปรับได้ การที่จำเลยที่1ได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ2ครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาโดยมีข้อสัญญาว่าจะยอมปฏิบัติราชการชดใช้ทุนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศต่อจากสัญญาฉบับอื่นนั้นจำเลยที่1จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศก่อนจากนั้นจึงนับระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศครั้งที่1และครั้งที่2 ต่อจากระยะเวลาที่ครบกำหนดการปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศตามลำดับ โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่2ที่3รับผิดร่วมกับจำเลยที่1ในหนี้คนละจำนวนจำเลยที่2ที่3จึงควรรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมตามส่วนที่ตนต้องรับผิดตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2757/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาชดใช้ทุนการศึกษา, การหนีราชการถือเป็นการผิดสัญญา, การคำนวณค่าปรับจากเงินเดือน
จำเลยที่1ซึ่งเป็นข้าราชการสังกัดกองทัพอากาศและได้รับทุนให้เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยทำสัญญาไว้ว่าจะกลับมารับราชการโดยไม่ลาออกหรือโอนไปรับราชการที่อื่นตามระยะเวลาที่กำหนดนั้นหากปรากฏว่าจำเลยที่1หนีราชการไปก่อนครบกำหนดระยะเวลาและกองทัพอากาศได้ปลดจำเลยที่1ออกจากราชการเนื่องจากเหตุดังกล่าวดังนี้ถือว่าจำเลยที่1ผิดสัญญาเพราะคำว่าหนีราชการเป็นถ้อยคำที่แสดงบ่งชัดให้เห็นอยู่ในตัวแล้วว่ามีเจตนาที่จะไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการจึงจะอ้างว่ากองทัพอากาศปลดจำเลยที่1ออกเองจำเลยไม่ผิดสัญญาหาได้ไม่ เงินเดือนที่จำเลยที่1ได้รับในระหว่างไปศึกษาต่างประเทศนั้นอยู่ในความหมายของคำว่าเงินรายเดือนที่ทางราชการได้จ่ายให้เนื่องในการเดินทางและศึกษาตามข้อสัญญาที่จำเลยที่1ทำให้ไว้แก่โจทก์และยอมชดใช้ในกรณีผิดสัญญาจึงนำเงินเดือนมารวมคำนวณคิดเป็นค่าปรับได้ การที่จำเลยที่1ได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ2ครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาโดยมีข้อสัญญาว่าจะยอมปฏิบัติราชการชดใช้ทุนที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศต่อจากสัญญาฉบับอื่นนั้นจำเลยที่1จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศก่อนจากนั้นจึงนับระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่อชดใช้ทุนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศครั้งที่1และครั้งที่2ต่อจากระยะเวลาที่ครบกำหนดการปฏิบัติราชการชดใช้ทุนการศึกษาของโรงเรียนจ่าอากาศตามลำดับ โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่2ที่3รับผิดร่วมกับจำเลยที่1ในหนี้คนละจำนวนจำเลยที่2ที่3จึงควรรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมตามส่วนที่ตนต้องรับผิดตามฟ้อง.