คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 196

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 80 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเงินตราต่างประเทศและการหักกลบหนี้ตามสัญญาซื้อขาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยผิดสัญญาให้ใช้ค่าเสียหายจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์เป็นผู้ผิดสัญญาขอให้ยกฟ้อง เมื่อศาลเห็นว่าต่างผิดสัญญาฝ่ายโจทก์ต้องให้ใช้จำเลยเป็นเงินเหรียญต่างประเทศ ฝ่ายจำเลยต้องใช้ให้โจทก์เป็นเงินบาทและเงินเหรียญ ดังนี้เป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้โดยทรัพย์สินต่างประเภทอันจะหักทอนกันมิได้ แม้จำเลยจะยกข้อผิดสัญญาขึ้นต่อสู้เพียงให้ยกฟ้องก็ดี ศาลก็ย่อมพิพากษาบังคับได้เพียงเท่าที่ไม่เกินคำขอของโจทก์ คือพิพากษาให้ต่างฝ่ายต่างชำระหนี้แก่กันเป็นเงินตราคนละประเภท แต่สำหรับเงินตราต่างประเทศนั้นให้คิดแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทเสียตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชในกรุงเทพฯ เมื่อคำนวณได้เท่าใดให้หักกลบลบกัน ถ้าจำนวนที่จำเลยจะต้องชำระยังเหลืออีกก็ให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์จนครบถ้าไม่มีเหลือหรือจำนวนที่โจทก์จะต้องชำระมากกว่าก็ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
สัญญากันว่าจะชำระหนี้เป็นเงินเหรียญมะลายู และชำระที่สิงคโปร์แต่สถานเดียวดังนี้จะต้องชำระหนี้กันเป็นเงินเหรียญมลายู จะชำระเป็นเงินไทยไม่ได้ เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งจะยินยอมมิฉะนั้นย่อมถือว่าฝ่ายชำระหนี้ผิดสัญญา
หนี้เป็นเงินตราต่างประเทศนั้นเมื่อจะต้องชำระตามคำบังคับของศาลในประเทศไทยก็จะต้องเปลี่ยนเป็นเงินตรา ของประเทศไทยซึ่งมาตรา 196 แห่ง ป.ม.แพ่งฯ บัญญัติให้คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินในสถานที่และในเวลาที่ใช้เงิน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 196 นั้น ย่อมต้องหมายถึงอัตราที่จะแลกเปลี่ยนกันได้โดยเสรีซึ่งโดยปกติก็คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชในกรุงเทพฯ
ในกรณีที่จะต้องชำระหนี้กันเป็นเงินตามต่างประเทศนั้นเพื่อสดวกแก่การบังคับคดี ศาลจะพิพากษาให้ใช้เงินเป็นเงินตามต่างประเทศ หรือมิฉะนั้นให้คิดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นเป็นเงินไทย โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิช ทำการขายเงินตราต่างประเทศเป็นเงินไทยในวันที่มีคำพิพากษาถ้าไม่มีอัตราการขายในวันนั้น ก็ให้ถือเอาวันสุดท้ายที่มีอัตราการขายเช่นว่านั้นก่อนวันพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1693/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ การชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศ และผลของการผิดสัญญา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยผิดสัญญาให้ใช้ค่าเสียหายจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์เป็นผู้ผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้อง เมื่อศาลเห็นว่าต่างฝ่ายต่างผิดสัญญาฝ่ายโจทก์ต้องใช้ให้จำเลยเป็นเงินเหรียญต่างประเทศ ฝ่ายจำเลยต้องใช้ให้โจทก์เป็นเงินบาทและเงินเหรียญ ดังนี้ เป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ โดยทรัพย์สินต่างประเภทอันจะหักทอนกันมิได้ แม้จำเลยจะยกข้อผิดสัญญาขึ้นต่อสู้เพียงให้ยกฟ้องก็ดี ศาลก็ย่อมพิพากษาบังคับได้เพียงเท่าที่ไม่เกินคำขอของโจทก์ คือพิพากษาให้ต่างฝ่ายต่างชำระหนี้แก่กันเป็นเงินตราคนละประเภท แต่สำหรับเงินตราต่างประเทศนั้น ให้คิดแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทเสียตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพฯ เมื่อคำนวณได้เท่าใดให้หักกลบลบกัน ถ้าจำนวนที่จำเลยจะต้องชำระยังเหลืออีกก็ให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์จนครบ ถ้าไม่มีเหลือ หรือจำนวนที่โจทก์จะต้องชำระมากกว่า ก็ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
สัญญากันว่าจะชำระหนี้เป็นเงินเหรียญมะลายู และชำระที่สิงคโปร์แต่สถานเดียว ดังนี้ จะต้องชำระหนี้กันเป็นเงินเหรียญมลายู จะชำระเป็นเงินไทยไม่ได้ เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งจะยินยอม มิฉะนั้นย่อมถือว่า ฝ่ายชำระหนี้ผิดสัญญา
หนี้เป็นเงินตราต่างประเทศนั้น เมื่อจะต้องชำระตามคำบังคับของศาลในประเทศไทยก็จะต้องเปลี่ยนเป็นเงินตราของประเทศไทยซึ่ง มาตรา 196 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินในสถานที่และในเวลาที่ใช้เงิน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา196 นั้น ย่อมต้องหมายถึงอัตราที่จะแลกเปลี่ยนกันได้โดยเสรี ซึ่งโดยปกติก็คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพฯ
ในกรณีที่จะต้องชำระหนี้กันเป็นเงินตราต่างประเทศนั้นเพื่อสะดวกแก่การบังคับคดี ศาลจะพิพากษาให้ใช้เงินเป็นเงินตราต่างประเทศ หรือมิฉะนั้นให้คิดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นเป็นเงินไทย โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ฯ ทำการขายเงินตราต่างประเทศเป็นเงินไทยในวันที่มีคำพิพากษา ถ้าไม่มีอัตราการขายในวันนั้น ก็ให้ถือเอาวันสุดท้ายที่มีอัตราการขายเช่นว่านั้นก่อนวันพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ: ใช้ราคาทางการสุดท้ายก่อนมีควบคุม แม้ตลาดมืดมีราคาต่าง
ในกรณีที่ไม่ปรากฎอัตราแลกเปลี่ยนเงินอันแน่นอนเพราะเหตุทางการห้ามการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ต้องถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้ายที่ทางการกำหนดไว้ก่อนมีการควบคุม จะถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในตลาดมืดมาใช้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยใช้เงินอัตรารูเปียละหนึ่งบาท จำเลยยอมไม่อุทธรณ์แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นว่าจำเลยควรต้องใช้น้อยกว่านี้ ก็ไม่อาจแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ: ใช้ราคาทางการล่าสุดก่อนมีกฎหมายควบคุม แม้มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดมืด
ในกรณีที่ไม่ปรากฏอัตราแลกเปลี่ยนเงินอันแน่นอนเพราะเหตุทางการห้ามการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ต้องถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้ายที่ทางการกำหนดไว้ก่อนมีการควบคุม จะถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในตลาดมืดมาใช้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยใช้เงินในอัตรารูเปียละหนึ่งบาทจำเลยยอมไม่อุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นว่าจำเลยควรต้องใช้น้อยกว่านี้ ก็ไม่อาจแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ต่างประเทศหลังเป็นศัตรู: บังคับชำระเป็นเงินไทยได้ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนก่อนเป็นศัตรู
หนี้สินระบุเป็นเงินตราต่างประเทศภายหลังประเทศไทยประกาศสงครามกับประเทศนั้น ก็ไม่ทำให้หนี้นั้นเสื่อมเสียไป เจ้าหนี้ฟ้องขอให้ลูกหนี้ชำระเป็นเงินไทยได้
หนี้สินระบุเป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งภายหลังเป็นคู่สงครามกัน ศาลบังคับให้ใช้เป็นเงินไทยโดยถืออัตราแลกเปลี่ยนในวันสุดท้ายที่ยังไม่เป็นศัตรูต่อกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ต่างประเทศหลังประกาศสงคราม: ชำระด้วยเงินไทยได้ตามอัตราแลกเปลี่ยนเดิม
หนี้สินระบุเป็นเงินตราต่างประเทศ ภายหลังประเทศไทยประกาศสงครามกับประเทศนั้น ก็ไม่ทำให้หนี้นั้นเสื่อมเสียไปเจ้าหนี้ฟ้องขอให้ลูกหนี้ชำระเป็นเงินไทยได้
หนี้สินระบุเป็นเงินตราต่างประเทศซึ่งภายหลังเป็นคู่สงครามกัน ศาลบังคับให้ใช้เป็นเงินไทยโดยถืออัตราแลกเปลี่ยนในวันสุดท้ายที่ยังไม่เป็นศัตรูต่อกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ซื้อขายตามคำพรรณา: การคิดค่าเสียหายจากสัญญาต่างประเทศ
ขายตามคำพรรณาตกลงซื้อขายข้าวนึ่ง เปนซื้อขายตามคำพรรณา วิธีพิจารณาแพ่ง ลักษณพะยาน พะยานบุคคลมาอธิบายความหมายของถ้อยคำในสัญญาได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.8 แปลสัญญาเปนปัญหากฎหมาย
of 8