คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 393

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การหมิ่นประมาทต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์
ฟ้องของโจทก์ทั้งสองข้อกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดวันเวลาเดียวกัน ข้อความที่โฆษณาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้เสียหายนั้นต่างลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน เพียงแต่ ต่างคอลัมน์กันเท่านั้น และเป็นข้อความที่เกี่ยวเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน จึงเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นอันเดียวกัน คือโฆษณาใส่ความเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้เสียหายและเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นคราวเดียวกัน จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวแม้ฟ้องในอีกข้อหนึ่งจะเป็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเพียงฐานดูหมิ่นหรือมีข้อความพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วย ก็ไม่ทำให้เจตนาของจำเลยเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทผู้เสียหายเป็นเจตนาเพิ่มขึ้นใหม่เป็นอีกกรรมหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยเอกสารรายงาน ไม่ถือเป็นการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
คำว่า 'โฆษณา' ตามพจนานุกรมให้คำจำกัดความว่า การเผยแพร่หนังสือออกไปยังสาธารณชน การป่าวร้อง คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยกระทำหมิ่นประมาทโจทก์ ด้วยการทำเป็นบันทึกแทนการพูดด้วยวาจา โดยเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและส่งสำเนาให้ปลัดกระทรวงทราบด้วย ก็เป็นเพียงการรายงานความประพฤติของโจทก์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปได้ทราบเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าการหมิ่นประมาทนั้นกระทำด้วยการโฆษณาตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และมิใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 ด้วย
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย แม้โจทก์จะฎีกาด้วยว่าควรลงโทษจำเลยสูงขึ้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ภาพบุคคลรวมกับภาพอาชญากร ไม่เข้าข่ายความผิดดูหมิ่น หากไม่มีเจตนาและมีเหตุผลอื่นที่สมควร
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชนรวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงาน และภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้น และภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้น จัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเผยแพร่ภาพบุคคลกับภาพอาชญากรโดยไม่มีเจตนาดูหมิ่น ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่น
จำเลยนำภาพของโจทก์ลงพิมพ์ที่หน้าปกของหนังสือพิมพ์รายวันเสียงปวงชน รวมกับภาพอื่นซึ่งมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 20 ภาพเศษ นอกจากภาพบุคคลแล้วยังมีภาพไฟไหม้อาคาร ภาพเครื่องบินชนโรงงานและภาพงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทุกภาพไม่มีข้อความอธิบายเหตุการณ์หรือบอกชื่อบุคคลในภาพนั้นแต่อย่างใด คงมีแต่ข้อความซึ่งพิมพ์ด้วยอักษรภาษาไทย ขนาดตัวโตขวางทับอยู่กลางหน้ากระดาษว่า "ภาพเหตุการณ์ในรอบปี" เท่านั้นและภาพโจทก์ที่นำลงพิมพ์ไว้นั้นจัดวางไว้ทางตอนบนของหน้ากระดาษเป็นภาพครึ่งตัวส่วนบนแต่งกายเรียบร้อย สวมเสื้อนอก มีผ้าผูกคอ ผิดกับภาพบุคคลอื่น ๆ และเป็นภาพ ของโจทก์เดี่ยว ๆ เป็นเอกเทศ แม้จะมีภาพผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงพิมพ์รวมอยู่รอบ ๆ ภาพของโจทก์ด้วยก็ตามแต่ขณะเกิดเหตุโจทก์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงน่าจะเป็นการเสนอภาพเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณา ไม่พอที่จะชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาดูหมิ่นโจทก์ อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำกล่าวอ้างการทุจริตต่อข้าราชการ ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่จำเลยพูดว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการว่า "ไอ้เหี้ยไอ้สัตว์ไอ้ท. โกงบ้านโกงเมือง" นั้น แม้ถ้อยคำที่ว่า อ้ายเหี้ยไอ้สัตว์จะเป็นเพียงการดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่ถ้อยคำที่ว่าผู้เสียหายโกงบ้านโกงเมืองนั้น มีความหมายว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบียดบังทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ของทางราชการมาเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นการใส่ความผู้เสียหายโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เป็นการหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกล่าวหา 'โกงบ้านโกงเมือง' ต่อข้าราชการเข้าข่ายหมิ่นประมาท แม้มีการใช้คำดูหมิ่นประกอบ
การที่จำเลยพูดว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการว่า "ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้ ห. โกงบ้านโกงเมือง" นั้น แม้ถ้อยคำที่ว่า อ้ายเหี้ย ไอ้สัตว์ จะเป็นเพียงการดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่ถ้อยคำที่ว่าผู้เสียหายโกงบ้านโกงเมืองนั้น มีความหมายว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบียดบังทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ทางราชการมาเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นการใส่ความผู้เสียหายโดยการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เป็นการหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเจ้าพนักงานมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในขณะเกิดเหตุ
นายตำรวจกลับจากงานแต่งงานเกิดโต้เถียงกับจำเลย ไม่ได้ทำการตามหน้าที่ และไม่แสดงบัตรให้จำเลยดู จำเลยไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ ไม่เป็นการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานกล่าวคำไม่สุภาพ ขณะโต้เถียงกันไม่เป็นดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตอบโต้ด้วยสุจริตเพื่อปกป้องชื่อเสียง: ข้อยกเว้นความผิดหมิ่นประมาท
ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย การที่หนังสือพิมพ์ของโจทก์นำรูปจำเลยไปรวมอยู่ในกลุ่มคนร้ายและอาชญากรในหน้าปกหนังสือพิมพ์เป็นการทำให้คนทั้งหลายเข้าใจว่าจำเลยเป็นบุคคลประเภทเดียวกับคนร้ายและอาชญากรเหล่านั้นทำให้จำเลยเสื่อมเสียชื่อเสียง จำเลยย่อมมีสิทธิตอบโต้โดยสุจริต เพื่อให้การกระทำดังกล่าวของโจทก์ไร้ผล ไม่มีคนเชื่อ ดังนั้น การที่จำเลยกล่าวต่อหน้าสาธารณชนว่า "โจทก์เป็นบรรณาธิการ จิตใจต่ำช้ามาก จิตใจเลวทรามต่ำช้ามาก .......ไอ้คนปัญญาทรามอย่างนี้ผมไม่มีวันไปร่วมด้วย" ย่อมทำให้ผู้ที่ได้รับฟังไม่เลื่อมใสโจทก์ อันมีผลทำให้ผลร้ายที่จำเลยได้รับจากการกระทำของโจทก์ลดน้อยถอยลง เป็นการป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนโดยสุจริตตามคลองธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่1077/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นซึ่งหน้าด้วยคำหยาบคาย: 'อีดอกดำ' เข้าข่ายดูหมิ่น
่จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายและด่าผู้เสียหายว่า พวกอีดอกดำ คำว่า อีดอก เป็นถ้อยคำหยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดูหมิ่นซึ่งหน้า: ถ้อยคำหยาบคายสื่อถึงความเสื่อมเสีย แม้เป็นคำด่าโดยตรง
จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายและด่าผู้เสียหายว่า พวกอีดอกดำ คำว่าอีดอก เป็นถ้อยคำหยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่า เป็นหญิงไม่ดี จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า
of 12