พบผลลัพธ์ทั้งหมด 173 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2890/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งพินัยกรรม, การขาดนัดยื่นคำให้การ, และการแบ่งสินสมรส/มรดก
แม้ผู้พิมพ์พินัยกรรมจะไม่ได้ลงชื่อในพินัยกรรมก็ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุว่าพินัยกรรมนั้นไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะแต่อย่างใด การที่จำเลยถึงแก่ความตายก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การกรณีย่อมมีเหตุที่จะต้องเลื่อนกำหนดยื่นคำให้การไปเพื่อให้ผู้ที่เข้าเป็นคู่ความแทนได้ยื่นคำให้การภายในเวลาอันสมควรการเพิกถอนคำสั่งขาดนัดยื่นคำให้การของศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือและพยาน การวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์ และข้อห้ามฎีกา
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานสองคน กับมีปลัดอำเภอรักษาราชการแทนปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอเป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อด้วย แต่มิได้ประทับตราตำแหน่งไว้เป็นสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1655 (4) นั้น เป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ในฐานะที่เป็นพินัยกรรมธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 และมาตรา 1665
คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น เป็นการไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผล การที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีก จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย
คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่
คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น เป็นการไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผล การที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีก จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย
คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมลงลายพิมพ์นิ้วมือและพยาน การแบ่งทรัพย์มรดก และการวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ผู้ทำลงลายพิมพ์นิ้วมือและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานสองคนกับมีปลัดอำเภอรักษาราชการแทนปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอเป็นผู้จัดทำและลงลายมือชื่อด้วยแต่มิได้ประทับตราตำแหน่งไว้เป็นสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1655(4)นั้นเป็นพินัยกรรมที่สมบูรณ์ในฐานะที่เป็นพินัยกรรมธรรมดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1656และมาตรา1665. คดีไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นการไม่ชอบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนนี้ไม่มีผลการที่จำเลยฎีกาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้มาอีกจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249ศาลฎีกาไม่รับวินจฉัย. คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกาจะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม การเพิกถอนพินัยกรรมฉบับก่อนด้วยพินัยกรรมฉบับหลัง และการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมไว้มีข้อความและลักษณะครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 และ มาตรา 1671ทุกประการ เป็นแต่ ป. ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้เขียนและพยานในพินัยกรรมจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้เท่านั้นเพราะเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 1653 และ มาตรา 1705 ส่วนข้อกำหนดพินัยกรรมในส่วนอื่นยังสมบูรณ์อยู่ ดังนั้น แม้ผู้ตายจะได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกทั้งหมด ให้ผู้ร้องแต่ ผู้เดียวตามพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 12 มกราคม 2523 ต่อมาผู้ตายทำพินัยกรรมฉบับลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2523 ยกทรัพย์มรดกทั้งหมด ให้แก่บุตรทุกคนคือผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งเจ็ด พินัยกรรมฉบับก่อน เป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือพินัยกรรม: เพียงมีพยานรู้เห็นการพิมพ์นิ้วมือและลงลายมือชื่อกำกับก็เพียงพอ
พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมหาจำต้องเขียนบอกไว้ว่ารับรองลายพิมพ์นิ้วมือไว้ในพินัยกรรมไม่เพียงแต่มีลายพิมพ์นิ้วมือแล้วมีพยาน 2 คนที่รู้เห็นการพิมพ์นิ้วมือลงลายมือชื่อกำกับไว้ก็เป็นการเพียงพอแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2072/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานพินัยกรรม: ผู้พิมพ์และกรอกข้อความรู้เห็นการทำพินัยกรรม ถือเป็นพยานได้
ผู้พิมพ์และกรอกข้อความในพินัยกรรมรู้เห็นในขณะทำพินัยกรรมแม้ไม่ระบุว่าเป็นพยาน ก็ถือเป็นพยานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองโมฆะเนื่องจากพยานไม่ครบ แต่สมบูรณ์ในฐานะพินัยกรรมธรรมดาได้
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีผู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานคนหนึ่งและมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานอีกคนหนึ่ง กับมีนายอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อในฐานะนายอำเภอนั้นการลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานใช้ไม่ได้ พยานในพินัยกรรมจึงเหลือเพียงคนเดียวขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 และตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 แต่พินัยกรรมฉบับนี้ได้ทำต่อหน้านายอำเภอ จึงถือได้ว่านายอำเภอเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยอีกผู้หนึ่งโดยไม่จำต้องมีข้อความเขียนบอกว่าลงชื่อเป็นพยานอีกฐานะหนึ่ง เมื่อรวมแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันอนุโลมเข้าแบบพินัยกรรมธรรมดาตามมาตรา 1656,136(อ้างฎีกาที่ 1612/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง: การลงลายพิมพ์นิ้วมือพยานไม่สมบูรณ์ แต่ถือเป็นพยานธรรมดาได้ หากมีพยานอื่นร่วมด้วย
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองซึ่งมีผู้ลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานคนหนึ่ง และมีผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานอีกคนหนึ่ง กับมีนายอำเภอผู้จัดทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อในฐานะนายอำเภอนั้น การลงลายพิมพ์นิ้วมือเป็นพยานใช้ไม่ได้ พยานในพินัยกรรมจึงเหลือเพียงคนเดียวขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 และตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 แต่พินัยกรรมฉบับนี้ได้ทำต่อหน้านายอำเภอ จึงถือได้ว่านายอำเภอเป็นพยานในพินัยกรรมด้วยอีกผู้หนึ่งโดยไม่จำต้องมีข้อความเขียนบอกว่าลงชื่อเป็นพยานอีกฐานะหนึ่ง เมื่อรวมแล้วจึงเป็นพินัยกรรมที่ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกับอนุโลมเข้าแบบพินัยกรรมธรรมดาตามมาตรา 1656, 136 (อ้างฎีกาที่ 1612/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: การระบุตัวตนของผู้เขียนและพยาน
พ.ทำพินัยกรรมเป็นหนังสือลงวัน เดือน ปี ในขณะนั้น และได้ลงลายมือชื่อของตนไว้ต่อหน้า ส.ผู้เขียนและ ท.พยานในพินัยกรรม ส. ได้ลงลายมือชื่อในขณะนั้นเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีข้อความต่อท้ายว่าเป็นพยายน เช่นนี้ก็ถือว่า ส. เป็นพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรมตลอดมาแต่ต้นคือเป็นทั้งผู้เขียนและพินัยกรมและเป็นพยานในพินัยกรรม ต้องด้วยความประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยการทำพินัยกรรมแล้ว พินัยกรรมจึงสมบูรณ์ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1671
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมที่สมบูรณ์: ผู้เขียนและพยานเดียวกันได้หรือไม่
พ. ทำพินัยกรรมเป็นหนังสือลงวัน เดือน ปี ในขณะนั้น และได้ลงลายมือชื่อของตนไว้ต่อหน้า ส. ผู้เขียนและ ท. พยานในพินัยกรรมส. ได้ลงลายมือชื่อในขณะนั้นเช่นกันเพียงแต่ไม่มีข้อความต่อท้ายว่าเป็นพยาน เช่นนี้ก็ถือว่า ส. เป็นพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรมตลอดมาแต่ต้นคือเป็นทั้งผู้เขียนพินัยกรรมและเป็นพยานในพินัยกรรมต้องด้วยความประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยการทำพินัยกรรมแล้วพินัยกรรมจึงสมบูรณ์ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1671