พบผลลัพธ์ทั้งหมด 120 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดผู้เช่าสิ้นสภาพบุคคลเนื่องจากการเสียชีวิตของผู้จัดการ
ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์เพื่อทำการค้า ต่อมาผู้จัดการห้างจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดถึงแก่กรรม เมื่อคดีไม่มีประเด็นเรื่องการเลิกห้างโดยมีการชำระบัญชีจึงย่อยจะถือว่าห้างจำเลยยังคงตั้งอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีไม่ได้ และเมื่อห้างจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าตึงรายนี้สิ้นสภาพบุคคลแล้วสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับห้างจำเลยก็ย่อยเป็นอันระงับไป บริวารของห้างจำเลยจึงย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวของโจทก์ได้โดยชอบต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระงับเมื่อห้างหุ้นส่วนสิ้นสภาพบุคคล แม้ไม่มีการชำระบัญชี
ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์เพื่อทำการค้าต่อมาผู้จัดการห้างจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดถึงแก่กรรมเมื่อคดีไม่มีประเด็นเรื่องการเลิกห้างโดยมีการชำระบัญชีจึงย่อมจะถือว่าห้างจำเลยยังคงตั้งอยู่เท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีไม่ได้และเมื่อห้างจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าตึกรายนี้สิ้นสภาพบุคคลแล้วสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับห้างจำเลยก็ย่อมเป็นอันระงับไปบริวารของห้างจำเลยจึงย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในตึกแถวของโจทก์ได้โดยชอบต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด: การฟ้องไม่ระบุความผิดนัดของนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวปรากฏว่า เป็นเรื่องห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นผู้ซื้อ คำฟ้องของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนอันเป็นนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ว่า ได้ผิดนัดแล้วหรือกล่าวว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลยนั้น คำฟ้องคดีนี้บังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วนรับผิดเป็นส่วนตัวในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4 / 2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด: การฟ้องคดีโดยไม่ระบุความรับผิดของนิติบุคคล
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวปรากฏว่าเป็นเรื่องห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นผู้ซื้อ คำฟ้องของโจทก์ที่ไม่ได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนอันเป็นนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ว่า ได้ผิดนัดแล้วหรือกล่าวว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลยนั้นคำฟ้องคดีนี้บังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วนรับผิดเป็นส่วนตัวในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดความรับผิดของผู้กู้ ห้างหุ้นส่วนสามัญก่อนจดทะเบียน ทรัพย์สินส่วนตัวแยกจากนิติบุคคล
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามา แม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ๆ บังคับให้ชำระแล้ว ผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพยืสินของห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยใช้สิทธิหุ้นส่วนเป็นหลักประกันก่อนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน
ผู้เป็นหุ้นส่วนห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนกู้เงินเขามาแม้เขียนในสัญญากู้ว่า "เอาสิทธิหุ้นส่วนของบริษัทพักตรพริ้งซึ่งผู้กู้มีสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง" มาเป็นหลักทรัพย์ประกันก็ดี เงินที่กู้มาก็ย่อมเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้โดยส่วนตัว การที่พูดว่าเอาสิทธิหรือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนมาเป็นประกันเงินกู้ในสัญญากู้ที่ทำกันเองนั้น หาก่อให้เกิดเป็นการจำนำหรือบุริมสิทธิในอันที่จะติดตามไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคล ซึ่งเกิดมาภายหลังนั้นไม่ เมื่อผู้กู้ไม่ชำระเงินจนถูกผู้ให้กู้ฟ้องศาล ศาลบังคับให้ชำระแล้วผู้ให้กู้จะไปยึดทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในภายหลังนั้นไม่ได้