พบผลลัพธ์ทั้งหมด 222 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันในเวลากลางคืนหน้าปั๊มน้ำมันซึ่งมีแสงไฟส่องสว่าง ผู้ตายไม่มีอาวุธ แล้วจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่สำคัญที่ทรวงอกทะลุปอด 2 แผล และที่หน้าท้อง 1 แผล ทะลุเข้าช่องท้องถูกกระเพาะอาหารและถูกตับอ่อนเส้นเลือดขาด ผู้ตายถึงแก่ความตายใน 3 ชั่วโมงต่อมา เช่นนี้ จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายด้วยอาวุธมีคม โดยมีเจตนาฆ่า ถือเป็นความผิดฐานฆ่าคนตาย
จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันในเวลากลางคืนหน้าปั๊มน้ำมันซึ่งมีแสงไฟส่องสว่าง ผู้ตายไม่มีอาวุธ แล้วจำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่สำคัญที่ทรวงอกทะลุปอด 2 แผล และที่หน้าท้อง 1 แผล ทะลุเข้าช่องท้องถูกกระเพาะอาหารและถูกตับอ่อนเส้นเลือดขาด ผู้ตายถึงแก่ความตายใน 3 ชั่วโมงต่อมา เช่นนี้จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนา, การป้องกันตัว, และความรับผิดทางอาญา
จำเลยกับผู้ตายเกิดโต้เถียงกันก่อนแล้ว จำเลยชกผู้ตาย 1 ทีผละหนีไปผู้ตายหยิบไม้ไล่ตีจำเลย เกิดต่อสู้กันเป็นชุลมุนในที่สุดจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นเรื่องที่จำเลยกับผู้ตายสมัครใจวิวาทต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตนโดยชอบหาได้ไม่
ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ในขณะที่จำเลยและผู้ตายต่อสู้กันชุลมุนจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงได้ เพราะผู้ตายกำลังตีจำเลยอยู่จำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวบังเอิญถูกที่สำคัญ จึงเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้
ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ในขณะที่จำเลยและผู้ตายต่อสู้กันชุลมุนจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงได้ เพราะผู้ตายกำลังตีจำเลยอยู่จำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวบังเอิญถูกที่สำคัญ จึงเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ชุลมุนและการป้องกันตนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลลดโทษจากฆ่าโดยเจตนาเป็นทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายเกิดโต้เถียงกันก่อนแล้ว จำเลยชกผู้ตาย 1 ที ผละหนีไปผู้ตายหยิบไม้ไล่ตีจำเลย เกิดต่อสู้กันเป็นชุลมุน ในที่สุดจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นเรื่องที่จำเลยกับผู้ตายสมัครใจวิวาทต่อสู้กัน จำเลยจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตนโดยชอบหาได้ไม่
ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ในขณะที่จำเลยและผู้ตายต่อสู้กันชุลมุนจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงได้ เพราะผู้ตายกำลังตีจำเลยอยู่จำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวบังเอิญถูกที่สำคัญ จึงเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้
ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ในขณะที่จำเลยและผู้ตายต่อสู้กันชุลมุนจำเลยไม่มีโอกาสที่จะเลือกแทงได้ เพราะผู้ตายกำลังตีจำเลยอยู่จำเลยแทงผู้ตายเพียงทีเดียวบังเอิญถูกที่สำคัญ จึงเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยไม่มีเจตนา
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเหตุป้องกันตัว ศาลพิจารณาเจตนาและเหตุแห่งการกระทำ
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่าจำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเจตนา: ลดโทษฐานถูกข่มเหง
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่า จำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยเจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย: การป้องกันตัวและเจตนาฆ่าในคดีอาญา
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน. จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่. และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้. เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน. แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย. แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย. และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา. จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้. เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้. คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาททำร้ายร่างกาย การพิเคราะห์เจตนา การป้องกันตัว และบันดาลโทสะ
เมื่อพฤติการณ์เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะเป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วิวาทสมัครใจ การป้องกันตัว และเจตนาในการทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกาพิจารณาพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย: การแย่งกระทอไก่และการใช้ไม้ป้องกันตัวเป็นเหตุชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ตายกับจำเลยแย่งกระทอไก่กัน จำเลยหนุ่มกว่า ผู้ตายแย่งสู้ไม่ได้จึงใช้ไม้ตีจำเลยก่อนถูกศีรษะ 1 ที จำเลยแย่งไม้จากผู้ตายได้แล้วใช้ไม้นั้นตีศีรษะผู้ตาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมายและโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68