คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 290

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 222 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวจากการประทุษร้ายทางกายภาพ: การแย่งกระทอไก่และการใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเอง
ผู้ตายกับจำเลยแย่งกระทอไก่กัน จำเลยหนุ่มกว่าผู้ตายแย่งสู้ไม่ได้จึงใช้ไม้ตีจำเลยก่อนถูกศีรษะ 1 ที จำเลยแย่งไม้จากผู้ตายได้แล้วใช้ไม้นั้นตีศีรษะผู้ตาย 1 ที การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันสิทธิและการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีถูกทำร้าย
ผู้ตายกับจำเลยแย่งกระทอไก่กัน. จำเลยหนุ่มกว่าผู้ตายแย่งสู้ไม่ได้จึงใช้ไม้ตีจำเลยก่อนถูกศีรษะ 1ที. จำเลยแย่งไม้จากผู้ตายได้แล้วใช้ไม้นั้นตีศีรษะผู้ตาย 1 ที. การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย. และโดยชอบด้วยกฎหมาย. จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย: เจตนาทำร้าย vs. ประมาทเลินเล่อ
การที่จำเลยใช้เส้นลวดที่ไม่มีวัตถุใด ๆ ห่อหุ้มขึงทางด้านบนของรั้วไม้โรงภาพยนต์ของจำเลย แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า220 โวลท์ไปตามเส้นลวดนั้น เพื่อป้องกันมิให้คนข้ามรั้วเข้าไปลอบดูภาพยนต์ทางรูฝาโรงภาพยนต์ เป็นการกระทำที่จำเลยมิได้เจตนาฆ่าแต่เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา290 หาใช่ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291 ไม่
ฟ้องว่าทำให้คนตายโดยประมาท ข้อเท็จจริงได้ความว่าทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ต้องยกฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยเจตนาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นประมาท
การที่จำเลยใช้เส้นลวดที่ไม่มีวัตถุใดๆ ห่อหุ้มขึงทางด้านบนของรั้วไม้โรงภาพยนต์ของจำเลย แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า 220 โวลท์ไปตามเส้นลวดนั้น เพื่อป้องกันมิให้คนข้ามรั้วเข้าไปลอบดูภาพยนต์ทางรูฝาโรงภาพยนต์ เป็นการกระทำที่จำเลยมิได้เจตนาฆ่าแต่เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 หาใช่ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ไม่
ฟ้องว่าทำให้คนตายโดยประมาท ข้อเท็จจริงได้ความว่าทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ต้องยกฟ้อง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยเจตนาทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ไม่ใช่ประมาทเลินเล่อ
การที่จำเลยใช้เส้นลวดที่ไม่มีวัตถุใดๆ ห่อหุ้มขึงทางด้านบนของรั้วไม้โรงภาพยนต์ของจำเลย แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า220 โวลท์ไปตามเส้นลวดนั้น. เพื่อป้องกันมิให้คนข้ามรั้วเข้าไปลอบดูภาพยนต์ทางรูฝาโรงภาพยนต์. เป็นการกระทำที่จำเลยมิได้เจตนาฆ่าแต่เจตนาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา290. หาใช่ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291 ไม่.
ฟ้องว่าทำให้คนตายโดยประมาท ข้อเท็จจริงได้ความว่าทำให้คนตายโดยไม่เจตนา. ต้องยกฟ้อง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 29/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนา: การพิจารณาเจตนาและเหตุแห่งการกระทำ
เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า สำหรับเหตุการณ์ตอนหลังจำเลยถือเหล็กขูดชาร์ฟสามเหลี่ยมปลายแหลมวิ่งไล่แทงนายถึงถูกบริเวณก้นกบ 1 ที ครั้นนายอุทัยไปถึงจำเลยจำเลยก็หันมาแทงนายอุทัย 1 ที ถูกที่โคนขาซ้าย แล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ส่วนนายอุทัยวิ่งไปได้ 3-4 ก้าวก็ล้มและไปตายที่โรงพยาบาลปราจีนบุรีเพราะโลหิตออกมาก ต้องถือว่าการกระทำของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับนายถึงเป็นการทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ และในส่วนที่เกี่ยวกับนายอุทัยแม้เหล็กขูดชาร์ฟจะใช้เป็นอาวุธร้ายได้จำเลยก็ได้แทงนายอุทัยผู้ตายส่งๆ ไปทีเดียวโดยไม่มีโอกาสได้เลือกแทงตรงไหน เผอิญไปถูกเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงส่วนขาโลหิตออกมากจึงถึงตาย เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายนายอุทัยให้ถึงตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาเท่านั้น
อนึ่ง รูปคดีหาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนา: การพิจารณาเจตนาของผู้กระทำและการป้องกันตัว
เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า สำหรับเหตุการณ์ตอนหลังจำเลยถือเหล็กขูดชาร์ฟสามเหลี่ยมปลายแหลมวิ่งไล่แทงนายถึงถูกบริเวณก้นกบ 1 ที ครั้นนายอุทัยไปถึงจำเลย จำเลยก็หันมาแทงนายอุทัย 1 ที ถูกที่โคนขาซ้าย แล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป ส่วนนายอุทัยวิ่งไปได้ 3-4 ก้าวก็ล้มและไปตายที่โรงพยาบาลปราจีนบุรีเพราะโลหิตออกมาก ต้องถือว่าการกระทำของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับนายถึงเป็นการทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ และในส่วนที่เกี่ยวกับนายอุทัยแม้เหล็กขูดชาร์ฟจะใช้เป็นอาวุธร้ายได้ จำเลยก็ได้แทงนายอุทัยผู้ตายส่งๆ ไปทีเดียวโดยไม่มีโอกาสได้เลือกแทงตรงไหน เผอิญไปถูกเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงส่วนขาโลหิตออกมากจึงถึงตาย เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายนายอุทัยให้ถึงตาย จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาเท่านั้น
อนึ่ง รูปคดีหาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายและฆ่าโดยไม่เจตนา: การพิจารณาเจตนาและเหตุป้องกันตัว
เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า สำหรับเหตุการณ์ตอนหลังจำเลยถือเหล็กขูดชาร์ฟสามเหลี่ยมปลายแหลมวิ่งไล่แทงนายถึงถูกบริเวณก้นกบ 1 ที. ครั้นนายอุทัยไปถึงจำเลย จำเลยก็หันมาแทงนายอุทัย 1 ที ถูกที่โคนขาซ้าย แล้วจำเลยก็วิ่งหนีไป. ส่วนนายอุทัยวิ่งไปได้3-4ก้าวก็ล้มและไปตายที่โรงพยาบาลปราจีนบุรีเพราะโลหิตออกมาก. ต้องถือว่าการกระทำของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับนายถึงเป็นการทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บ. และในส่วนที่เกี่ยวกับนายอุทัยแม้เหล็กขูดชาร์ฟจะใช้เป็นอาวุธร้ายได้. จำเลยก็ได้แทงนายอุทัยผู้ตายส่งๆ ไปทีเดียวโดยไม่มีโอกาสได้เลือกแทงตรงไหน. เผอิญไปถูกเส้นโลหิตใหญ่ที่ไปเลี้ยงส่วนขาโลหิตออกมากจึงถึงตาย. เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายนายอุทัยให้ถึงตาย. จำเลยคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาเท่านั้น.
อนึ่ง รูปคดีหาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในเหตุวิวาททำร้ายร่างกาย และเจตนาในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตาย
เมื่อจำเลยกับฝ่ายผู้ตายต่างวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันจำเลยไม่อาจอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตัว
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายขณะชุลมุนกันและในเวลาค่ำมืดซึ่งฝ่ายผู้ตายมีมีดและเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าจำเลยแม้จำเลยจะแทงผู้ตายหลายที แต่ก็ไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะชุลมุนและค่ำมืด ทั้งยังต้องสู้กับพวกผู้ตายอีก เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าไม่ได้ จำเลยคงผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนา
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวมาในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาเหตุชุลมุนและอาวุธที่ใช้ประกอบ
เมื่อจำเลยกับฝ่ายผู้ตายต่างวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันจำเลยไม่อาจอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตัว
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายขณะชุลมุนกันและในเวลาค่ำมืดซึ่งฝ่ายผู้ตายมีมีดและเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าจำเลยแม้จำเลยจะแทงผู้ตายหลายที แต่ก็ไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะชุลมุนและค่ำมืด ทั้งยังต้องสู้กับพวกผู้ตายอีก เช่นนี้ จะฟังว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าไม่ได้ จำเลยคงผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนา
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นการฆ่าโดยไม่เจตนา ศาลลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวมาในฟ้อง
of 23