พบผลลัพธ์ทั้งหมด 222 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงในขณะต่อสู้กอดปล้ำ ยังไม่พอพิสูจน์เจตนาฆ่า ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงถูกผู้ตาย 1 ทีที่หน้าอกขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กอดปล้ำกัน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาและเหตุผลในการพิจารณาความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายและจำเลยต่างเสพสุรามึนเมาแล้วเกิดท้าทายวิวาทกัน จำเลยเตะผู้ตายถูกตรงท้องน้อยขณะที่ผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลย เมื่อผู้ตายเซห่างออกไป จำเลยก็มิได้ตามไปเตะซ้ำ ครั้นเมื่อผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลย จำเลยจึงเตะซ้ำอีก การกระทำเช่นนั้นส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยได้ชัดว่ามิได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่มีเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายโดยไม่เจตนา: พิจารณาเจตนาจากพฤติการณ์
ผู้ตายและจำเลยต่างเสพสุรามึนเมาแล้วเกิดท้าทายวิวาทกัน
จำเลยเตะผู้ตายถูกตรงท้องน้อยขณะที่ผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลยเมื่อผู้ตายเซห่างออกไป จำเลยก็มิได้ตามไปเตะซ้ำครั้นเมื่อผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลย จำเลยจึงเตะซ้ำอีก การกระทำเช่นนั้นส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยได้ชัดว่ามิได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ตายดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่มีเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา290
จำเลยเตะผู้ตายถูกตรงท้องน้อยขณะที่ผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลยเมื่อผู้ตายเซห่างออกไป จำเลยก็มิได้ตามไปเตะซ้ำครั้นเมื่อผู้ตายวิ่งเข้าไปหาจำเลย จำเลยจึงเตะซ้ำอีก การกระทำเช่นนั้นส่อให้เห็นเจตนาของจำเลยได้ชัดว่ามิได้ตั้งใจจะฆ่าผู้ตายดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยไม่มีเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกายืนโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
จำเลยใช้เหล็กปลายแหลมสามเหลี่ยมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ1 คืบ แทงผู้ตายขณะยืนดูรำวง โดยแทงที่ใกล้สบักซ้ายทางเบื้องหลังตรงที่สำคัญ บาดแผลลึกถึง 5 นิ้วฟุตแสดงว่าแทงโดยแรงพฤติการณ์ดังนี้ส่อให้เห็นชัดว่าจำเลยตั้งใจแทงโดยมีเจตนาจะฆ่าให้ตายจำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธอันตราย ศาลฎีกาพิพากษาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
จำเลยใช้เหล็กปลายแหลมสามเหลี่ยมยาวทั้งตัวและด้ามประมาณ 1 คืบ แทงผู้ตายขณะยืนดูรำวง โดยแทงที่ใกล้สบักซ้ายทางเบื้องหลังตรงที่สำคัญ บาดแผลลึกถึง 5 นิ้วฟุต แสดงว่าแทงโดยแรง พฤติการณ์ดั่งนี้ส่อให้เห็นชัดว่าจำเลยตั้งใจแทงโดยมีเจตนาจะฆ่าให้ตาย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาทและใช้จอบทำร้าย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
ผู้ตายกับจำเลยด่าว่ากันแล้วผู้ตายใช้จอบตีจำเลยแต่ผิด จอบติดดิน ผู้ตายต้องใช้เวลาดึงจอบประมาณ 1 นาที ขณะที่จอบผู้ตายติดดินอยู่นี้ จำเลยมีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงไปได้ถ้าจำเลยไม่สมัครใจจะวิวาทกับผู้ตาย การที่จำเลยใช้จอบตีผู้ตายโดยแรงเช่นนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้ตายอันเนื่องมาจากการด่าว่ากันอย่างรุนแรง และเกิดโมโหขึ้นมา ทั้งจำเลยและผู้ตายต่างถือจอบเป็นอาวุธพร้อมที่จะทำร้ายกันได้ พอฝ่ายผู้ตายตีจำเลยผิด จำเลยก็ตีผู้ตายได้ทันที จึงเป็นเรื่องสมัครใจวิวาทกัน จะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิหาได้ไม่
จำเลยใช้จอบซึ่งยาวประมาณ 1 วา คมจอบกว้างประมาณ 6 นิ้วฟุต ตีผู้ตายที่ศีรษะโดยแรง มีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่กลางกระหม่อมกว้าง 13 เซ็นติเมตร ยาว 18 เซ็นติเมตร กระโหลกศีรษะแตก และที่ขมับขวาแผลกว้าง 2 เซ็นติเมตร ยาว 9 เซ็นติเมตร กระโหลกศีรษะร้าว ตามลักษณะเช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้จอบซึ่งยาวประมาณ 1 วา คมจอบกว้างประมาณ 6 นิ้วฟุต ตีผู้ตายที่ศีรษะโดยแรง มีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่กลางกระหม่อมกว้าง 13 เซ็นติเมตร ยาว 18 เซ็นติเมตร กระโหลกศีรษะแตก และที่ขมับขวาแผลกว้าง 2 เซ็นติเมตร ยาว 9 เซ็นติเมตร กระโหลกศีรษะร้าว ตามลักษณะเช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการวิวาทและการป้องกันตัวที่ไม่สมเหตุผล
ผู้ตายกับจำเลยด่าว่ากันแล้วผู้ตายใช้จอบตีจำเลยแต่ผิด จอบติดดิน ผู้ตายต้องใช้เวลาดึงจอบประมาณ 1 นาที ขณะที่จอบผู้ตายติดดินอยู่นี้ จำเลยมีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงไปได้ถ้าจำเลยไม่สมัครใจจะวิวาทกับผู้ตาย การที่จำเลยใช้จอบตีผู้ตายโดยแรงเช่นนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้ตายอันเนื่องมาจากการด่าว่ากันอย่างรุนแรง และเกิดโมโหขึ้นมา ทั้งจำเลยและผู้ตายต่างถือจอบเป็นอาวุธพร้อมที่จะทำร้ายกันได้ พอฝ่ายผู้ตายตีจำเลยผิด จำเลยก็ตีผู้ตายได้ทันที จึงเป็นเรื่องสมัครใจวิวาทกัน จะอ้างว่ากระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิหาได้ไม่
จำเลยใช้จอบซึ่งยาวประมาณ 1 วา คมจอบกว้างประมาณ6 นิ้วฟุต ตีผู้ตายที่ศีรษะโดยแรง มีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่กลางกระหม่อมกว้าง 13 เซนติเมตร ยาว 18 เซนติเมตร กระโหลกศีรษะแตก และที่ขมับขวาแผลกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตรกระโหลกศีรษะร้าว ตามลักษณะเช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้จอบซึ่งยาวประมาณ 1 วา คมจอบกว้างประมาณ6 นิ้วฟุต ตีผู้ตายที่ศีรษะโดยแรง มีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่กลางกระหม่อมกว้าง 13 เซนติเมตร ยาว 18 เซนติเมตร กระโหลกศีรษะแตก และที่ขมับขวาแผลกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตรกระโหลกศีรษะร้าว ตามลักษณะเช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันภัยคุกคาม และเจตนา
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลย จำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ที ถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การแทงเพื่อป้องกันตัวในเวลากลางคืนและความร้ายแรงของบาดแผล
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลยจำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ทีถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ ศาลฎีกายืนยันการยกฟ้อง
ผู้ตายเงื้อมีดพร้าเข้าไปหาจำเลย จำเลยถอยหลังหนีผู้ตายยังตามเข้าไปพอจำเลยถอยไปสะดุดคันนาผู้ตายยกมีดพร้าขึ้นจะฟันจำเลยจึงใช้มีดพร้าฟันผู้ตาย 1 ทีถูกที่คอขาดการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ