พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8440/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อนุญาโตตุลาการชอบแล้ว ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม การบังคับตามคำชี้ขาดเป็นไปตามกฎหมาย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า การยอมรับหรือบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า จ. ตัวแทนของ อ. ติดต่อกับ ร. ลูกจ้างของ ท. ผู้เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยของผู้ร้อง ขอทำประกันวินาศภัย ประเภท 3 สำหรับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 ฒ - 9044 กรุงเทพมหานคร ซึ่งอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย ประเภท 3 เป็นอัตราเบี้ยตายตัว ทั้งตามอุทธรณ์ของผู้ร้องก็ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ท. และ ธ. สองสามีภริยา เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยของผู้ร้องมีสำนักงานที่จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานตัวแทนสามารถออกกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ประเภท 3 ได้เอง ดังนั้น เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2559 จ. เสนอเอาประกันวินาศภัย ประเภท 3 ให้รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8 ฒ - 9044 กรุงเทพมหานคร ร. รับเรื่องไว้ โดยสำนักงานตัวแทนของ ท. มีอำนาจออกกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ประเภท 3 ได้เอง จึงเป็นการสนองตอบ สัญญาประกันวินาศภัยย่อมเกิดขึ้นทันที ส่วนเอกสารกรมธรรม์จะออกได้เมื่อใดเป็นกระบวนการภายในของผู้ร้อง ผู้เอาประกันภัยจะชำระเบี้ยประกันเมื่อใดขึ้นอยู่กับการเรียกเก็บของผู้ร้อง และตัวแทนของผู้ร้องดำเนินการโดยทุจริตหรือไม่ เป็นปัญหาที่ผู้ร้องต้องเรียกร้องความรับผิดจากตัวแทนเอง คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการชอบแล้ว การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้ร้องไม่อาจขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดได้ ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข) ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องของผู้ร้องชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการด้วย ย่อมเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำร้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 ศาลฎีกาจึงแก้ไขให้ถูกต้อง
อนึ่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการด้วย ย่อมเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำร้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 ศาลฎีกาจึงแก้ไขให้ถูกต้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6177/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการในคดีสัญญาจ้างเหมา: การไม่ละเลยประเด็นผิดสัญญาแม้ไม่ใช่ Turn-Key
คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่าสัญญาจ้างเหมาคดีนี้ไม่ใช่แบบ Turn - Key แต่เป็นสัญญา Design Built จึงจำเป็นต้องวินิจฉัยต่อไปว่า แม้ไม่ใช่สัญญาจ้างเหมาแบบ Turn - Key ผู้ร้องกระทำผิดสัญญาหรือไม่ เพราะข้ออ้างหลักของคำเสนอข้อพิพาท คือ ผู้ร้องกระทำผิดสัญญา มิใช่ว่าเมื่อสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างไม่ใช่สัญญาแบบ Turn - Key เสียแล้วจะต้องตัดประเด็นอื่น ๆ ไปเสียทั้งหมดซึ่งจะทำให้ฝ่ายที่ผิดสัญญาไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่ตนก่อ อันจะเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น และการที่คำเสนอข้อพิพาทอ้างว่าผู้ร้องทำงานล่าช้า ตอกเสาเข็มไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานวิชาช่าง แล้วขนย้ายคนงานและวัสดุออกไปจากสถานที่ก่อสร้าง อันเป็นการผิดสัญญา ก็หมายความว่าผู้ร้องละทิ้งงานนั่นเอง ดังนั้น ที่คณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากวินิจฉัยว่าผู้ร้องผิดสัญญาเพราะละทิ้งงาน จึงอยู่ในประเด็นที่คณะอนุญาโตตุลาการกำหนดไว้ ไม่เป็นการวินิจฉัยเกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาท
ข้อพิพาทในคดีนี้เป็นเรื่องสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างระหว่างเอกชนกับเอกชนสมัครใจตกลงกัน ข้อสัญญาไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และเมื่อฟังได้ว่าคณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากไม่ได้วินิจฉัยเกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ การยอมรับและการบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าวจึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ข้อพิพาทในคดีนี้เป็นเรื่องสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างระหว่างเอกชนกับเอกชนสมัครใจตกลงกัน ข้อสัญญาไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และเมื่อฟังได้ว่าคณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากไม่ได้วินิจฉัยเกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ การยอมรับและการบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าวจึงไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน