คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 254

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 217 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ในขอบเขตประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวต้องอยู่ภายในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ ซึ่งอยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้องเท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์ โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลชั่วคราวต้องอยู่ในประเด็นคำฟ้องและเพื่อบังคับตามคำพิพากษา
การขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น ชอบที่จะเป็นเรื่องทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ซึ่ง อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นในคำฟ้องของโจทก์และเพื่อบังคับตาม คำพิพากษา เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำเลย และให้จำเลยทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นให้ถูกต้อง เท่านั้น โจทก์จะมาขอให้ศาลคุ้มครองประโยชน์โดย กำหนดให้โจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงชื่อร่วมทำการแทนบริษัทจำเลยด้วย ซึ่ง เป็นเรื่องมิได้อยู่ในประเด็นแห่งคำฟ้องของโจทก์ และมิใช่เพื่อบังคับตาม คำพิพากษาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีล้มละลาย ศาลไม่อาจใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หากมีวิธีพิจารณาเฉพาะใน พ.ร.บ.ล้มละลาย
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ได้บัญญัติวิธีการชั่วคราวไว้โดยเฉพาะแล้วคือการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 17 ซึ่งจะขอได้ก็แต่ในกรณีก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้น ดังนั้น ในกรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จะขอให้ศาลอุทธรณ์ยึดทรัพย์ของจำเลยก่อนพิพากษาโดยนำบทบัญญัติว่าด้วยการยึดทรัพย์ของจำเลยก่อนพิพากษาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1745/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ในคดีล้มละลายก่อนมีคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ไม่อำนาจสั่งยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พระราชบัญญัติ ญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มีบทบัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ชั่วคราวตามมาตรา 17ซึ่งจะขอได้ก็ แต่ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้น และเมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้วมาตรา 19 วรรคแรก บัญญัติให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ายึดดวงตรา สมุดบัญชี และเอกสารของลูกหนี้ และบรรดาทรัพย์สินซึ่งอยู่ในความครอบครองของลูกหนี้หรือของผู้อื่นอันอาจแบ่งได้ในคดีล้มละลาย ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและโจทก์อุทธรณ์โจทก์จะขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์ของลูกหนี้ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5832/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์สินจากคำพิพากษาและการบังคับคดี: การอายัดทรัพย์สินก่อนพิพากษาและการอ้างบุริมสิทธิ
กำหนดระยะเวลาต่าง ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 ที่ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษารายอื่นยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งได้ยึดหรืออายัดมานั้นหมายความเฉพาะถึงการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีและโดยการร้องขอของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น ดังนั้นเมื่อการเคหะแห่งชาติได้ส่งเงินมาให้ศาลชั้นต้นตามหมายอายัดชั่วคราวก่อนพิพากษา กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 290 ที่ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยจะต้องยื่นคำร้องภายในระยะเวลาดังกล่าว บุริมสิทธิในมูลจ้างทำของเป็นการงานทำขึ้นบนอสังหาริมทรัพย์นั้น กฎหมายให้มีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ที่ทำการงานขึ้น และอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องเป็นของลูกหนี้ คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าจ้างก่อสร้างตามสัญญาจ้างทำของซึ่งโจทก์รับก่อสร้างช่วงงานจากจำเลย โดยจำเลยได้รับจ้างก่อสร้างให้การเคหะแห่งชาติอีกต่อหนึ่ง และอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโจทก์ทำการก่อสร้างก็เป็นของการเคหะแห่งชาติ กรณีจึงไม่ใช่เรื่องที่โจทก์มีบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273และ 275 โจทก์จะอ้างบุริมสิทธิรับชำระหนี้จากเงินซึ่งการเคหะแห่งชาติส่งมาให้ศาลชั้นต้นเหนือผู้ร้องหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งอายัดเงินถูกยกเลิกเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แม้มิได้ระบุถึงวิธีการชั่วคราว
คำว่า 'ศาล' ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(1) มิได้หมายความถึงศาลที่มีคำพิพากษาชั้นที่สุด เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะคดีอันเป็นต้นเหตุแห่งการอายัดเงินรายนี้ และไม่ปรากฏว่าคำพิพากษานั้นได้กล่าวถึงวิธีการชั่วคราวที่ศาลได้สั่งไว้ในระหว่างการพิจารณาแต่อย่างใด คำสั่งอายัดนั้นจึงเป็นอันยกเลิกไปในตัว.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4003/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีออกจากสารบบความเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีแล้ว ทำให้ไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยฎีกา
การที่โจทก์ฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่สั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบทรัพย์มรดกของนางสาวผ.ให้แก่โจทก์ เมื่อปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาที่โจทก์ฎีกาต่อไป ศาลฎีกาย่อมมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายัดทรัพย์พิพาทก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองสิทธิจากสัญญาจะซื้อจะขาย
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยลงนามในหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เข้าไปจัดการทรัพย์พิพาท ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่จำเลยทำไว้กับโจทก์และเรียกค่าเสียหาย เป็นคำฟ้องเกี่ยวกับตัวทรัพย์ หากจำเลยโอนทรัพย์พิพาทให้ผู้อื่นก่อนศาลพิพากษา โจทก์ย่อมไม่สามารถเข้าจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์ที่ระบุไว้ในสัญญา และอาจไม่ได้รับชำระค่าเสียหาย โจทก์จึงขออายัดทรัพย์พิพาทไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำที่จำเลยถูกฟ้องร้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเกี่ยวกับตัวทรัพย์: การขออายัดทรัพย์พิพาทก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองสิทธิจากสัญญาจะซื้อจะขาย
คำฟ้องของโจทก์ที่ขอให้จำเลยลงนามในหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เข้าไปจัดการทรัพย์พิพาท ที่ดิน ตึก อาคารพาณิชย์ และโรงแรมตามสัญญาจะซื้อจะขายที่จำเลยทำไว้กับโจทก์ทั้งเรียกค่าเสียหายมาด้วยนั้น ถือว่าเป็นคำฟ้องที่เกี่ยวกับตัวทรัพย์ โจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์พิพาทไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำที่จำเลยถูกฟ้องร้อง.
of 22