พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1513/2562
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์และลักทรัพย์: การแบ่งแยกความผิดฐานชิงทรัพย์และลักทรัพย์เมื่อมีเจตนาทุจริตเกิดขึ้นภายหลัง
จำเลยขับรถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียหายมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ไปจอดที่ลานจอดรถในมหาวิทยาลัย น. ผู้เสียหายยังไม่ได้ลงจากรถ จำเลยเดินมาจากด้านหลังของผู้เสียหายแล้วถามผู้เสียหายว่ามีเงินเท่าใด จากนั้นเข้าประชิดตัวผู้เสียหายพร้อมกับทำท่าจะล้วงอาวุธจากขอบกางเกงข้างหลัง ลักษณะการกระทำของจำเลยดังกล่าวเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย โดยเฉพาะจำเลยเป็นชายอยู่ในวัยฉกรรจ์ ร่างกายล่ำกำยำ สูงกว่าผู้เสียหายมาก ส่วนผู้เสียหายเป็นหญิง กำลังศึกษา ย่อมเกิดความเกรงกลัวจำเลย พฤติการณ์ของจำเลยถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญผู้เสียหายว่า ในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย การที่จำเลยกระทำและพูดกับผู้เสียหายเช่นนั้น เพื่อให้ผู้เสียหายส่งเงินให้แก่จำเลย เมื่อผู้เสียหายส่งเงินให้ 240 บาท การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ตาม ป.อ. มาตรา 339 (2) วรรคสาม ประกอบมาตรา 340 ตรี โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยเป็นผู้หยิบเอาทรัพย์นั้นเอง หรือผู้เสียหายเป็นผู้หยิบส่งให้ไป
การที่ผู้เสียหายเบิกความว่า หลังจากส่งเงินให้จำเลยแล้ว จำเลยกอดปล้ำพยายามดึงกางเกง ผู้เสียหาย ผู้เสียหายกลัวจำเลยจะข่มขืนกระทำชำเรา จึงถอดสร้อยคอทองคำที่สวมให้จำเลยไปเอง โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อมุ่งประสงค์ต่อสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายแต่อย่างใด หากแต่ผู้เสียหายคิดว่า เมื่อจำเลยได้สร้อยคอทองคำแล้ว จะปล่อยตัวผู้เสียหายไป การที่จำเลยรับสร้อยคอทองคำไป จึงเป็นเจตนาทุจริตที่เกิดขึ้นภายหลัง การกระทำของจำเลยในส่วนนี้ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 334 อีกกระทงหนึ่งแยกต่างหากจากฐานชิงทรัพย์เงิน 240 บาท เมื่อความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นความผิดที่รวมการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ด้วย แม้โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์เงินสดและสร้อยคอทองคำ แต่เมื่อพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์สร้อยคอทองคำ ศาลย่อมมีอำนาจปรับบทความผิดและบทลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา192 วรรคท้าย, 195 วรรคสอง, 225 แต่เนื่องจากโจทก์มิได้อุทธรณ์หรือฎีกา ศาลฎีกาไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มโทษ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบ 225
การที่ผู้เสียหายเบิกความว่า หลังจากส่งเงินให้จำเลยแล้ว จำเลยกอดปล้ำพยายามดึงกางเกง ผู้เสียหาย ผู้เสียหายกลัวจำเลยจะข่มขืนกระทำชำเรา จึงถอดสร้อยคอทองคำที่สวมให้จำเลยไปเอง โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อมุ่งประสงค์ต่อสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายแต่อย่างใด หากแต่ผู้เสียหายคิดว่า เมื่อจำเลยได้สร้อยคอทองคำแล้ว จะปล่อยตัวผู้เสียหายไป การที่จำเลยรับสร้อยคอทองคำไป จึงเป็นเจตนาทุจริตที่เกิดขึ้นภายหลัง การกระทำของจำเลยในส่วนนี้ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 334 อีกกระทงหนึ่งแยกต่างหากจากฐานชิงทรัพย์เงิน 240 บาท เมื่อความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นความผิดที่รวมการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ด้วย แม้โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์เงินสดและสร้อยคอทองคำ แต่เมื่อพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์สร้อยคอทองคำ ศาลย่อมมีอำนาจปรับบทความผิดและบทลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา192 วรรคท้าย, 195 วรรคสอง, 225 แต่เนื่องจากโจทก์มิได้อุทธรณ์หรือฎีกา ศาลฎีกาไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์อีกกระทงได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มโทษ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบ 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทในสถานที่ราชการและข้อยกเว้นตามกฎหมายอาญา มาตรา 283 และ 285
กล่าวคำว่า เขาว่ากำนันเกเร กำนันเกะกะ กำนันเปนผู้ร้ายดังนั้น เปนการหมิ่นประมาทเขาตามมาตรา 282.
กล่าวคำหมิ่นประมาทเขาไนเวลาที่นายอำเพอเปรียบเทียบความแพ่งนั้น ไม่ได้รับยกเว้นโทสตาม ม283, และ 285 เพราะอำเพอไม่ไช่สาลและนายอำเพอไม่ไช่ผู้พิพากสา
กล่าวคำหมิ่นประมาทเขาไนเวลาที่นายอำเพอเปรียบเทียบความแพ่งนั้น ไม่ได้รับยกเว้นโทสตาม ม283, และ 285 เพราะอำเพอไม่ไช่สาลและนายอำเพอไม่ไช่ผู้พิพากสา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน: สถานะเจ้าพนักงานต้องชัดเจนในฟ้อง และการนำเสนอพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ขี้แมวและสุนัขไห้กัมการสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ดูแล้วพูดว่า+คือสัตว์เลี้ยง คือหมาและแมว+กินไม่ได้ก็เลี้ยงเอาไว้ดีดังนี้ ไม่เปนถ้อยคำหมิ่นประมาท
ผู้ที่ไม่ปรากตว่าเปนคนะกรมการอำเพอหรือคนะกรมการจังหวัดนั้น เมื่อโจทไม่ระบุไห้เห็นว่าได้รับแต่งตั้งเปนเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติสวนครัวและเลี้ยงสัตว์โดยถูกต้องแล้วจะถือว่าเนปเจ้าพนักงานไม่ได้
ไนคดีหาว่าหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน โจทจะต้องระบุถานะไห้เห็นเปนเจ้าพนักงานมาไนฟ้องจะมาแถลงเพิ่มเติมไนพายหลังไม่ได้ ไนกรนีเช่นนี้ สาลจะสอบถามไห้ได้ความจากจำเลยไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม. วิธีพิจารนาความอาญามาตรา 235.
ผู้ที่ไม่ปรากตว่าเปนคนะกรมการอำเพอหรือคนะกรมการจังหวัดนั้น เมื่อโจทไม่ระบุไห้เห็นว่าได้รับแต่งตั้งเปนเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติสวนครัวและเลี้ยงสัตว์โดยถูกต้องแล้วจะถือว่าเนปเจ้าพนักงานไม่ได้
ไนคดีหาว่าหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน โจทจะต้องระบุถานะไห้เห็นเปนเจ้าพนักงานมาไนฟ้องจะมาแถลงเพิ่มเติมไนพายหลังไม่ได้ ไนกรนีเช่นนี้ สาลจะสอบถามไห้ได้ความจากจำเลยไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม. วิธีพิจารนาความอาญามาตรา 235.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทด้วยคำพูดถือเป็นการละเมิดตามกฎหมายแพ่งและอาญา ผู้ถูกหมิ่นมีสิทธิได้รับค่าเสียหาย
ไนเรื่องหมิ่นประมาทเขาซึ่งหน้า+เปนผิดถามละหุโทสนั้น ถือว่าเปนการทำลเมิดตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิชมาตรา 420 ซึ่งสาลคำนวนหาเสียหายไห้ตามควรแก่พรึติการน์ตามมาตรา 438
คำว่าสิทธิหมายถึงประโยช์อันบุคคล+หยู่และบุคคลอื่นต้องเคารพหรือได้รับการรับรองและคุมครองของกดหมาย
คำว่าสิทธิหมายถึงประโยช์อันบุคคล+หยู่และบุคคลอื่นต้องเคารพหรือได้รับการรับรองและคุมครองของกดหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400-401/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความเห็นที่เป็นการด่าทอกันต่อหน้าธารกำนัน ไม่ถือเป็นหมิ่นประมาท แต่เป็นวาจาลามกอนาจาร และประเด็นอำนาจฟ้อง
ต่างฝ่ายต่างด่ากันต่อหน้าธารคำนันเป็นผิดฐานกล่าววาจาลามกอนาจารต่อหน้าธารคำนัน. ฎีกา ต้องแสดงเหตุหรือยกบทกฎหมายไว้โดยชัดแจ้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในชั้นศาลแล้วกลับปฏิเสธในชั้นอุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกามิรับพิจารณา
ในชั้นคำให้การจำเลยรับสารภาพว่า ได้กล่าวคำหมิ่นประมาทผู้เสียหายด้วยถ้อยคำอย่างนั้น ๆ แล้วจำเลยจะมาคัดค้านในชั้นศาลสูง+ถ้อยคำดังนั้นเป็นเพียงคำไม่สุภาพไม่ใช่เป็นการสบประมาทนั้นมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกปืนในพื้นที่ส่วนตัวไม่เป็นความผิดทางหลวง, คำพูดดูหมิ่นเป็นหมิ่นประมาท
ทางเดินในสวนของเอกชนซึ่งไม่ปรากฎว่าคนอื่นๆก็เดินผ่านได้ดังนี้ ไม่เรียกว่าเป็นทางหลวง, กล่าวว่าเขาว่า "ฉายหาหัวควยอะไรเข้าหน้าเข้าตา" ดังนี้ เป็นผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้าและฐานกล่าวคำลามกอนาจาร,ในกรณีที่เป็นผิดกฎหมาย 2 บทที่มีอัตราโทษเท่ากันนั้น เมื่อโจทก์ขอให้ลงโทษตามมาตราใดศาลก็ย่อมลงโทษตามมาตรานั้นให้,
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดดูหมิ่นเหยียดหยามถึงมารดา ถือเป็นหมิ่นประมาทซึ่งหน้า
ว่าเขาซึ่งหน้าว่า "กูจะไปฟ้องหีแม่มัน" ต้องมีความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใส่ความทำให้เสียชื่อเสียงจากการกล่าวหาเรื่องชู้สาวเข้าข่ายหมิ่นประมาท
กล่าวหาเขาว่า " เวลาผัวไม่อยู่มีชู้ตั้งร้อยอันพันอัน " ต้องมีผิดตาม ม. 282
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกา: ข้อพิพาทข้อเท็จจริงมิอาจฎีกาได้หากจำเลยเป็นคนต่างด้าว
่จากพฤตติการณ์ในท้องสำนวนว่าคำกล่าวนั้นเป็นคำด่าหรือเป็นคำประชดเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คดีที่คนในบังคับอังกฤษเป็นจำเลย คู่ความฎีกาได้แต่ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย