คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 297

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 319 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการลงโทษ: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าและการคำนวณโทษที่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนยิง ส. ได้รับอันตรายสาหัส โดยมีเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,297 นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 288,80 บทเดียว ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 297 อีกบทหนึ่งด้วย
ศาลชั้นต้นคำนวณการลดโทษให้ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาคำนวณให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1867/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและความผิดฐานพยายามฆ่า: การพิจารณาความผิดตามมาตรา 288 และ 297
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนยิง ส. ได้รับอันตรายสาหัสโดยมีเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 297 นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่า การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามมาตรา 288, 80 บทเดียว ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 297 อีกบทหนึ่งด้วย
ศาลชั้นต้นคำนวณการลดโทษให้ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาคำนวณให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยถูกกล่าวหาฆ่า แต่ศาลยกฟ้องข้อหาฆ่า มอบโทษฐานทำร้ายร่างกายแทน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยฟันศีรษะผู้ตายหนึ่งที ผู้ตายวิ่งหนีไป แล้ว พ. กับพวกไล่ตามไปทำร้ายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าบาดแผลของผู้ตายที่ศีรษะถึงอันตรายสาหัส พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 297, 83 โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย ส่วนข้อที่ว่าจำเลยฟันศีรษะผู้ตาย พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ดังนี้ ข้อหาเรื่องฆ่าคนเป็นอันถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหานี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 คงฎีกาได้เฉพาะข้อหาความผิดต่อร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1751/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ศาลพิจารณาบาดแผลและเจตนาเพื่อลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83 ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยฟันศีรษะผู้ตายหนึ่งที ผู้ตายวิ่งหนีไป แล้ว พ. กับพวกไล่ตามไป ทำร้ายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าบาดแผลของผู้ตายที่ศีรษะถึงอันตรายสาหัส พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 297,83 โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย ส่วนข้อที่ว่าจำเลยฟันศีรษะผู้ตาย พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ดังนี้ ข้อหาเรื่องฆ่าคนเป็นอันถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหานี้ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 คงฎีกาได้เฉพาะข้อหาความผิดต่อร่างกาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส: การพิจารณาเจตนาและความรุนแรงของการกระทำ
จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยใช้เก้าอี้ตีทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 แล้ววิ่งไล่ตามจำเลยที่ 2 ไป จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงจำเลยที่ 1 ก่อน 3 นัด นัดแรกถูกที่แขนซ้าย นัดที่ 2 ไม่ถูก นัดที่ 3ถูกนิ้วชี้ สิ้นเสียงปืนนัดที่ 3 แล้วจำเลยที่ 1 ก็เข้าถึงตัวจำเลยที่ 2และแทงจำเลยที่ 2 ไป 1 ที ถูกที่อกด้านขวาเหนือรักแร้ บาดแผลขนาด 2X3 เซนติเมตร ถึงสาหัส เป็นการเข้าประชิดตัวแทงโดยกระทันหันในเวลากลางคืน หลังจากถูกยิงบาดเจ็บแล้ว และแทงสุ่มไปโดยไม่มีโอกาสจะเลือกกำหนดได้ว่าจะแทงส่วนไหนของร่างกาย หากแต่บังเอิญไปถูกที่อกทะลุช่องปอด พฤติการณ์ประกอบบาดแผลยังไม่พอชี้ชัดว่าจำเลยที่ 1 มี เจตนาฆ่า ควรลงโทษเพียงฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 ได้รับอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส การพิจารณาเจตนาฆ่า และการลดโทษ
จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยใช้เก้าอี้ตีทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 แล้ววิ่งไล่ตามจำเลยที่ 2 ไป จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงจำเลยที่ 1 ก่อน 3 นัด นัดแรกถูกที่แขนซ้าย นัดที่ 2 ไม่ถูก นัดที่ 3 ถูกนิ้วชี้ สิ้นเสียงปืนนัดที่ 3 แล้วจำเลยที่ 1 ก็เข้าถึงตัวจำเลยที่ 2 และแทงจำเลยที่ 2 ไป 1 ที ถูกที่อกด้านขวาเหนือรักแร้ บาดแผลขนาด 2X3 เซนติเมตร ถึงสาหัส เป็นการเข้าประชิดตัวแทงโดยกระทันหันในเวลากลางคืน หลังจากถูกยิงบาดเจ็บแล้ว และแทงสุ่มไปโดยไม่มีโอกาสจะเลือกกำหนดได้ว่าจะแทงส่วนไหนของร่างกาย หากแต่บังเอิญไปถูกที่อกทะลุช่องปอด พฤติการณ์ประกอบบาดแผลยังไม่พอชี้ชัดว่าจำเลยที่ 1 มี เจตนาฆ่า ควรลงโทษเพียงฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 ได้รับอันตรายสาหัส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทงอวัยวะสำคัญ ผู้กระทำผิดมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมใบมีดกว้าง 11/2 เซนติเมตร ยาว 81/2 เซนติเมตรรวมทั้งด้ามยาว 1 คืบ แทงผู้เสียหายที่ท้องอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญจนตับฉีกขาด พร้อมกับพูดว่า"ลุง ฆ่าเสียเถิด" ประกอบกับนายแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลว่าตับฉีกนี้ ถ้าไม่รักษาให้ทันท่วงที จะมีเลือดออกทำให้ช่องท้องอักเสบ อาจทำให้ถึงตายได้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์ใช้มีดแทงอวัยวะสำคัญและคำพูดกระตุ้น
จำเลยใช้มีดปลายแหลมใบมีดกว้าง 11/2 เซนติเมตรยาว 81/2 เซนติเมตรรวมทั้งด้ามยาว 1 คืบ แทงผู้เสียหายที่ท้องอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญจนตับฉีกขาด พร้อมกับพูดว่า"ลุง ฆ่าเสียเถิด" ประกอบกับนายแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลว่าตับฉีกนี้ ถ้าไม่รักษาให้ทันท่วงที จะมีเลือดออกทำให้ช่องท้องอักเสบอาจทำให้ถึงตายได้ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย
จำเลยถือด้ามมีดทั้งสองมือ เหวี่ยงฟันผู้เสียหาย 2ครั้งติด ๆ กัน ถูกที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นที่สำคัญ มีบาดแผล 3 แห่งคือ ที่ข้างศีรษะขวาเหนือหูยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกจดกระดูกศีรษะ เย็บ 8 เข็ม ที่ข้างใบหูขวา ยาวประมาณ 6 เซนติเมตรลึกจดกระดูกศีรษะเย็บ 7 เข็ม และที่ใบหูขวาขาด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เย็บ 8 เข็ม ลักษณะและขนาดของมีดที่ใช้ฟันเฉพาะตัวมีดยาว 36 เซนติเมตร ด้ามยาว 19 เซนติเมตร ปลายมีดเป็นรูปหัวตัดกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร. ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ตายสมเจตนาจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น หาใช่เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: กรณีโต้แย้งการวินิจฉัยเจตนาฆ่าของศาลล่าง
คดีที่ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันมาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า การที่โจทก์ฎีกาว่าพฤติการณ์การกระทำของจำเลยแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จึงเป็นฎีกาโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลล่างในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกา
of 32