คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 297

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 319 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดแทง: พิจารณาจากพฤติการณ์และบาดแผลของผู้เสียหาย
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมมีใบมีดยาวเก้านิ้วฟุตซึ่งวิญญูชนรู้ว่าหากใช้มีดนั้นแทงหน้าอกหรือกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญด้วยน้ำหนักมาก ก็มีผลให้ถึงตายได้ และบาดแผลตรงราวนมแม้ปรากฏว่าแผลไม่ถูกปอด แต่แพทย์ต้องเจาะเอาเลือดออกจากช่องปอดจำนวนถึงร้อยซีซี หากเลือกท่วมหรือเต็มปอดจะถึงตาย แสดงว่าแพทย์ได้รักษาไว้ได้ทันท่วงที พฤติการณ์ที่กล่าวมามีเหตุผลชี้บ่งว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย มิใช่เพียงเจตนาทำร้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการใช้มีดพกทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาชี้ขาดจากพฤติการณ์และบาดแผล
จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมมีใบมีดยาวเก้านิ้วฟุตซึ่งวิญญูชนรู้ว่าหากใช้มีดนั้นแทงหน้าอกหรือกลางหลังอันเป็นอวัยวะสำคัญด้วยนำ้หนักมาก ก็มีผลให้ถึงตายได้. และบาดแผลตรงราวนมแม้ปรากฏว่าแผลไม่ถูกปอด. แต่แพทย์ต้องเจาะเอาเลือดออกจากช่องปอดจำนวนถึงร้อยซีซี หากเลือกท่วมหรือเต็มปอดจะถึงตาย แสดงว่าแพทย์ได้รักษาไว้ได้ทันท่วงที. พฤติการณ์ที่กล่าวมามีเหตุผลชี้บ่งว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย. มิใช่เพียงเจตนาทำร้าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า: การประเมินจากพฤติการณ์และบาดแผล
จำเลยโต้เถียงทะเลากับผู้เสียหายก่อนแล้วผู้เสียหายใช้ของแข็งตีศีรษะจำเลย 1 ที จำเลยไปหยิบมีดโต้วิ่งเข้าหาผู้เสียหาย ผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยไล่ตาม ผู้เสียหายหกล้ม จำเลยตามทันก็ใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายมีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่ข้อศอกซ้ายและที่ไหล่ขวาแห่งละแผล แล้วจำเลยก็กลับไปเองโดยไม่ได้ทำร้ายซ้ำเติมอีก ดั้งนี้แสดงว่าจำเลยได้ฟันผู้เสียหายโดยฉุกละหุก เนื่องจากผู้เสียหายตีศีรษะจำเลยแตก แม้อาวุธมีดที่จำเลยใช้ฟันผู้เสียหายจะเป็นมีดที่ใหญ่ยาวถึงศอกเศษ อันอาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ก็ดี แต่จำเลยก็ใช้ฟันผู้เสียหาย 2 แผลในที่ไม่สำคัญเท่านั้น แล้วจำเลยก็หยุดยั้งและกลับไปเอง ทั้งที่จำเลยมีโอกาสที่จะฟันผู้เสียหายซ้ำในที่สำคัญ ๆ ให้ถึงตายได้ บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายภายในเวลาหนึ่งเดือน เพียงเท่านี้จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟันทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากพฤติการณ์และการกระทำหลังทำร้าย
จำเลยโต้เถียงทะเลาะกับผู้เสียหายก่อนแล้วผู้เสียหายใช้ของแข็งตีศีรษะจำเลย 1 ที จำเลยไปหยิบมีดโต้วิ่งเข้าหาผู้เสียหาย ผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยไล่ตาม ผู้เสียหายหกล้ม จำเลยตามทันก็ใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายมีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่ข้อศอกซ้ายและที่ไหล่ขวาแห่งละแผล แล้วจำเลยก็กลับไปเองโดยไม่ได้ทำร้ายซ้ำเติมอีก ดังนี้แสดงว่าจำเลยได้ฟันผู้เสียหายโดยฉุกละหุกเนื่องจากผู้เสียหายตีศีรษะจำเลยแตก แม้อาวุธมีดที่จำเลยใช้ฟันผู้เสียหายจะเป็นมีดที่ใหญ่ยาวถึงศอกเศษอันอาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ก็ดี แต่จำเลยก็ใช้ฟันผู้เสียหายเพียง 2 แผลในที่ไม่สำคัญเท่านั้น แล้วจำเลยก็หยุดยั้งและกลับไปเอง ทั้งที่จำเลยมีโอกาสที่จะฟันผู้เสียหายซ้ำในที่สำคัญๆให้ถึงตายได้ บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายภายในเวลาหนึ่งเดือนเพียงเท่านี้จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟันทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า: การประเมินจากพฤติการณ์และการกระทำหลังเกิดเหตุ
จำเลยโต้เถียงทะเลาะกับผู้เสียหายก่อนแล้วผู้เสียหายใช้ของแข็งตีศีรษะจำเลย 1 ที. จำเลยไปหยิบมีดโต้วิ่งเข้าหาผู้เสียหาย. ผู้เสียหายวิ่งหนี. จำเลยไล่ตาม.ผู้เสียหายหกล้ม. จำเลยตามทันก็ใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายมีบาดแผล 2 แห่ง คือ ที่ข้อศอกซ้ายและที่ไหล่ขวาแห่งละแผล. แล้วจำเลยก็กลับไปเองโดยไม่ได้ทำร้ายซ้ำเติมอีก. ดังนี้แสดงว่าจำเลยได้ฟันผู้เสียหายโดยฉุกละหุกเนื่องจากผู้เสียหายตีศีรษะจำเลยแตก. แม้อาวุธมีดที่จำเลยใช้ฟันผู้เสียหายจะเป็นมีดที่ใหญ่ยาวถึงศอกเศษอันอาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ก็ดี. แต่จำเลยก็ใช้ฟันผู้เสียหายเพียง 2 แผลในที่ไม่สำคัญเท่านั้น.แล้วจำเลยก็หยุดยั้งและกลับไปเอง ทั้งที่จำเลยมีโอกาสที่จะฟันผู้เสียหายซ้ำในที่สำคัญๆให้ถึงตายได้.บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายภายในเวลาหนึ่งเดือน. เพียงเท่านี้จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยฟันทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า. คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำคุกจากทำร้ายร่างกายสาหัสโดยอ้างเหตุบันดาลโทสะ ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเล็กน้อย ฎีกาโจทก์ต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลดโทษตามมาตรา 72 จำคุกไว้ 6 เดือน ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญาเนื่องจากบันดาลโทสะ และข้อจำกัดในการฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จำคุก 2 ปี. ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลดโทษตามมาตรา 72 จำคุกไว้ 6 เดือน. ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2100/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษทางอาญาจากบันดาลโทสะ: ข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลดโทษตามมาตรา 72 จำคุกไว้ 6 เดือน ดังนี้เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีดต่อเนื่อง แม้บาดเจ็บสาหัส แต่ยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาฆ่า
แม้อาวุธที่จำเลยใช้จะเป็นมีดพร้าขอขนาดใหญ่และตัวมีดยาว 45 เซนติเมตรก็ตาม แต่จำเลยก็ได้ฟันผู้เสียหายตามโอกาสที่จะอำนวย คือขณะผู้เสียหายก้มอยู่ จำเลยก็ฟันที่กลางหลังเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ 2 ก้าว จำเลยก็ฟันถูกต้นคอ เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีต่อไป จำเลยยังวิ่งไล่กวดจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายในระยะเวลา 2 เดือน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การทำร้ายด้วยอาวุธมีด แม้บาดเจ็บสาหัส แต่ยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาฆ่า
แม้อาวุธที่จำเลยใช้จะเป็นมีดพร้าขอขนาดใหญ่และตัวมีดยาว 45 เซนติเมตรก็ตามแต่จำเลยก็ได้ฟันผู้เสียหายตามโอกาสที่จะอำนวย คือขณะผู้เสียหายก้มอยู่ จำเลยก็ฟันที่กลางหลังเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ 2 ก้าว จำเลยก็ฟันถูกต้นคอเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีต่อไป จำเลยยังวิ่งไล่กวดจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็รักษาหายในระยะเวลา 2 เดือน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย
of 32