พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องอาศัยกฎหมายเฉพาะเพื่อยืนยันฐานะเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย ไม่เป็นการอ้างกฎหมายใหม่เพื่อลงโทษหนักขึ้น
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายสาหัสเพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 16 การขอเพิ่มเติมฟ้องนี้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย หาได้เป็นการอ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยหนักขึ้นประการใดไม่ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องอาญาเพื่อยืนยันสถานะเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย ไม่เป็นการอ้างกฎหมายใหม่เพื่อเพิ่มโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายสาหัสเพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494มาตรา 16 การขอเพิ่มเติมฟ้องนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย หาได้เป็นการอ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยหนักขึ้นประการใดไม่ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าจากขนาดอาวุธและตำแหน่งที่ถูกทำร้าย
จำเลยใช้ขวานขนาด 2 นิ้วครึ่ง ยาว 3 นิ้วครึ่ง ด้ามยาว 17 นิ้ว นับว่าเป็นขวานขนาดใหญ่ ฟันข้างหลังผู้เสียหายที่คออันเป็นอวัยวะสำคัญโดยแรงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ถ้าไม่รักษาพยาบาลทันท่วงทีก็อาจถึงแก่ความตายเนื่องจากโลหิตออกมาได้ กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าจากลักษณะการทำร้ายด้วยอาวุธ และตำแหน่งที่ถูกทำร้าย
จำเลยใช้ขวานขนาด 2 นิ้วครึ่ง ยาว 3 นิ้วครึ่ง ด้ามยาว 17 นิ้ว นับว่าเป็นขวานขนาดใหญ่. ฟันข้างหลังผู้เสียหายที่คออันเป็นอวัยวะสำคัญโดยแรงเป็นบาดแผลฉกรรจ์. ถ้าไม่รักษาพยาบาลทันท่วงทีก็อาจถึงแก่ความตายเนื่องจากโลหิตออกมาได้. กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่าจากการทำร้ายด้วยขวานบริเวณคอ: การพิจารณาขนาดอาวุธและลักษณะการทำร้าย
จำเลยใช้ขวานขนาด 2 นิ้วครึ่ง ยาว 3 นิ้วครึ่ง ด้ามยาว 17 นิ้ว นับว่าเป็นขวานขนาดใหญ่. ฟันข้างหลังผู้เสียหายที่คออันเป็นอวัยวะสำคัญโดยแรงเป็นบาดแผลฉกรรจ์. ถ้าไม่รักษาพยาบาลทันท่วงทีก็อาจถึงแก่ความตายเนื่องจากโลหิตออกมาได้. กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1530/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การใช้ขวานฟันคอถือเป็นเจตนาสูง แม้ขวานไม่ใหญ่
จำเลยใช้ขวานขนาด 2 นิ้วครึ่ง ยาว 3 นิ้วครึ่ง ด้ามยาว 17 นิ้ว นับว่าเป็นขวานขนาดใหญ่ ฟันข้างหลังผู้เสียหายที่คออันเป็นอวัยวะสำคัญโดยแรงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ถ้าไม่รักษาพยาบาลทันท่วงทีก็อาจถึงแก่ความตายเนื่องจากโลหิตออกมาได้ กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน: อำนาจการจับกุมและการป้องกันตัวตามกฎหมาย
ในคดีที่ข้อเท็จจริงมีเพียงว่า มีผู้แจ้งความ (ในข้อหาชิงทรัพย์)เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2508 ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2508 สายลับแจ้งว่าจำเลยกลับมานอนบ้านเจ้าพนักงานจึงไปจับจำเลยเข้าจับเวลา 5.40 นาฬิกา ไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตพิเศษจากผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่อาจขอได้ทันเพราะเหตุใด เช่นนี้คดีไม่พอจะฟังว่าเป็นการฉุกเฉินอย่างยิ่งฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานจับจำเลยในที่รโหฐานในเวลากลางคืนจึงไม่มีอำนาจที่จะทำได้หากจำเลยต่อสู้จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 96(2))
จำเลยให้การว่า ได้ทำร้ายเจ้าพนักงานจริง แต่ต่อสู้ว่า สำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายและได้ต่อสู้เช่นนี้มาตั้งแต่ชั้นสอบสวนเมื่อพิเคราะห์การกระทำของเจ้าพนักงานที่ขึ้นไปจับจำเลยบนเรือนในเวลากลางคืนขณะจำเลยยังนอนอยู่และทันทีที่รู้ตัวจำเลยก็ลุกขึ้นสู้เช่นนี้ น่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทันเข้าใจว่าเป็นเจ้าพนักงาน และการกระทำของจำเลยเท่าที่ได้กระทำไปนั้น (มีดฟัน 1 ที) ก็พอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68)
จำเลยให้การว่า ได้ทำร้ายเจ้าพนักงานจริง แต่ต่อสู้ว่า สำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายและได้ต่อสู้เช่นนี้มาตั้งแต่ชั้นสอบสวนเมื่อพิเคราะห์การกระทำของเจ้าพนักงานที่ขึ้นไปจับจำเลยบนเรือนในเวลากลางคืนขณะจำเลยยังนอนอยู่และทันทีที่รู้ตัวจำเลยก็ลุกขึ้นสู้เช่นนี้ น่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทันเข้าใจว่าเป็นเจ้าพนักงาน และการกระทำของจำเลยเท่าที่ได้กระทำไปนั้น (มีดฟัน 1 ที) ก็พอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมและการต่อสู้: อำนาจจับกุมนอกเวลากลางวัน, ความสำคัญผิด, การใช้กำลังสมควรแก่เหตุ
ในคดีที่ข้อเท็จจริงมีเพียงว่า มีผู้แจ้งความ (ในข้อหาชิงทรัพย์) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2508 ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2508 สายลับแจ้งว่าจำเลยกลับมานอนบ้านเจ้าพนักงานจึงไปจับจำเลย เข้าจับเวลา 5.40 นาฬิกา ไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตพิเศษจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือไม่อาจขอได้ทันเพราะเหตุใด เช่นนี้ คดีไม่พอจะฟังว่าเป็นการฉุกเฉินอย่างยิ่ง ฉะนั้น การที่เจ้าพนักงานจับจำเลยในที่รโหฐานในเวลากลางคืนจึงไม่มีอำนาจที่จะทำได้ หากจำเลยต่อสู้ จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน (ป.วิ.อ.มาตรา 96(2))
จำเลยให้การว่า ได้ทำร้ายเจ้าพนักงานจริง แต่ต่อสู้ว่า สำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายและได้ต่อสู้เช่นนี้มาตั้งแต่ชั้นสอบสวน เมื่อพิเคราะห์การกระทำของเจ้าพนักงานที่ขึ้นไปจับจำเลยบนเรือนในเวลากลางคืนขณะจำเลยยังนอนอยู่และทันทีที่รู้ตัวจำเลยก็ลุกขึ้นสู้เช่นนี้ น่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทันเข้าใจว่าเป็นเจ้าพนักงาน และการกระทำของจำเลยเท่าที่ได้กระทำไปนั้น (มีดฟัน 1 ที) ก็พอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด (ป.อาญา มาตรา 68)
จำเลยให้การว่า ได้ทำร้ายเจ้าพนักงานจริง แต่ต่อสู้ว่า สำคัญผิดว่าเป็นคนร้ายและได้ต่อสู้เช่นนี้มาตั้งแต่ชั้นสอบสวน เมื่อพิเคราะห์การกระทำของเจ้าพนักงานที่ขึ้นไปจับจำเลยบนเรือนในเวลากลางคืนขณะจำเลยยังนอนอยู่และทันทีที่รู้ตัวจำเลยก็ลุกขึ้นสู้เช่นนี้ น่าเชื่อว่าจำเลยไม่ทันเข้าใจว่าเป็นเจ้าพนักงาน และการกระทำของจำเลยเท่าที่ได้กระทำไปนั้น (มีดฟัน 1 ที) ก็พอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด (ป.อาญา มาตรา 68)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการกระทำความรุนแรงต่อเนื่อง และการทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
จำเลยแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกเหนือหัวใจจนทะลุใน ครั้นผู้ตายล้มลง จำเลยคร่อมจะแทงซ้ำอีก เช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรศพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วย จำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงาน พลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 298.
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรศพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วย จำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงาน พลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 298.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการกระทำซ้ำและการทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
จำเลยแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกเหนือหัวใจจนทะลุในครั้นผู้ตายล้มลง จำเลยคร่อมจะแทงซ้ำอีก เช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรสพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วยจำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงานพลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรสพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วยจำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงานพลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298