พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดี: อุทธรณ์กรรมสิทธิ์หลังศาลชั้นต้นปล่อยทรัพย์แล้วเป็นเรื่องใหม่
ในชั้นบังคับคดีมีผู้ร้องหลายรายร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีก็ย่อมเสร็จสิ้นไป ผู้ร้องด้วยกันจะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ร้องด้วยกันและจำเลยว่าฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นอีกนั้น ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ควรจะต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการปล่อยทรัพย์: ศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์ไม่โต้แย้ง ถือเป็นที่สุด ส่วนข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในมรดกต้องไปฟ้องร้องอีกคดี
ในชั้นบังคับคดีมีผู้ร้องหลายรายร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเมื่อศาลชั้นต้นสั่งปล่อยทรัพย์แล้วโจทก์มิได้อุทธรณ์ การปล่อยทรัพย์ในชั้นบังคับคดีก็ย่อมเสร็จสิ้นไป ผู้ร้องด้วยกันจะอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อโต้แย้งระหว่างผู้ร้องด้วยกันและจำเลยว่าฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิในทรัพย์สินนั้นอีกนั้น ไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ควรจะต้องไปว่ากล่าวกันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องสอดเพื่อเป็นจำเลยร่วมในคดีบุกรุกที่ดิน: สิทธิของผุ้ร้องสอดถูกจำกัดเมื่อจำเลยขาดนัด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกทึ่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินนั้นเป็นของโจทก์และให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไป
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดชั้นพิจารณาในวันสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว มีผุ้ร้องสอด ร้องสอดเข้ามาว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์หรือจำเลยแต่เป็นของผู้รวมกับจำเลยในคดีนั้นด้วย ดังนี้ เป็นเรื่องผู้ร้องสอดตั้งสิทธิของผู้ร้องสอดขึ้นมาเองโดยลำพัง ไม่ชอบที่จะขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 57 (2) ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยรวมด้วยได้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดชั้นพิจารณาในวันสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว มีผุ้ร้องสอด ร้องสอดเข้ามาว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์หรือจำเลยแต่เป็นของผู้รวมกับจำเลยในคดีนั้นด้วย ดังนี้ เป็นเรื่องผู้ร้องสอดตั้งสิทธิของผู้ร้องสอดขึ้นมาเองโดยลำพัง ไม่ชอบที่จะขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 57 (2) ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยรวมด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วม: สิทธิที่ตั้งขึ้นเองโดยลำพังไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ ขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินนั้นเป็นของโจทก์และให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไป
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดชั้นพิจารณาในวันสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว มีผู้ร้องสอด ร้องสอดเข้ามาว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์หรือจำเลยแต่เป็นของผู้ร้องสอดผู้ร้องสอดจึงขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยในคดีนั้นด้วย ดังนี้ เป็นเรื่องผู้ร้องสอดตั้งสิทธิของผู้ร้องสอดขึ้นมาเองโดยลำพังไม่ชอบที่จะขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(2) ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยได้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดชั้นพิจารณาในวันสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว มีผู้ร้องสอด ร้องสอดเข้ามาว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์หรือจำเลยแต่เป็นของผู้ร้องสอดผู้ร้องสอดจึงขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยในคดีนั้นด้วย ดังนี้ เป็นเรื่องผู้ร้องสอดตั้งสิทธิของผู้ร้องสอดขึ้นมาเองโดยลำพังไม่ชอบที่จะขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(2) ศาลย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อไม่มีอำนาจฟ้องต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ตามกฎหมาย หากมิได้ยกขึ้น ศาลไม่ต้องวินิจฉัยเอง
โจทก์ฟ้องคดีโดยว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้ให้การหรือดำเนินการตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 โดยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยเป็นหญิงมีสามี ฉะนั้นคดีจึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้จะมีพยานเบิกความถึง ก็เป็นเรื่องนอกประเด็นไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะพึงรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องหญิงหม้าย - การไม่ยกข้อต่อสู้เรื่องสถานภาพ
โจทก์ฟ้องคดีโดยว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้ให้การหรือดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 เลยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โดยเป็นหญิงมีสามี ฉะนั้นคดีจึงไม่มีประเด็นในข้อนี้ แม้จะมีพยานเบิกความถึง ก็เป็นเรื่องนอกประเด็นไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะพึงรับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการไม่ห้ามฟ้องบุพการี
ยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินที่มีโฉนด ซึ่งมีผู้ยกให้ตนปกครองมาจนได้กรรมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนให้ผู้ร้องนั้น เมื่อบิดาผู้ร้องคัดค้านโต้แย้งเข้ามาทำให้คดีแปรสภาพเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4) ก็ตามและการที่ผู้คัดค้านเข้ามามีฐานะเป็นคู่ความ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้ร้องดังนั้น จึงเรียกไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ฟ้องบุพการีของตนคดีจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงกรรมสิทธิในที่ดินที่ได้จากการยกให้และการครอบครอง การเปลี่ยนแปลงสภาพคดีจากคำร้องเป็นคดีมีข้อพิพาท
ยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินที่มีโฉนด ซึ่งมีผู้ยกให้ตนปกครองมาจนได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1382 และขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนให้ผู้ร้องนั้น เมื่อบิดาผู้ร้องคัดค้านโต้แย้งเข้ามาทำให้คดีแปรสภาพเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 188(4) ก็ตามและการที่ผู้คัดค้านเข้ามามีฐานะเป็นคู่ความ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้ร้อง ดังนั้นจึงเรียกไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ฟ้องบุพพการีของตน คดีจึงไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของทายาทเมื่อผู้ตายยังมีชีวิตอยู่: ศาลพิจารณาได้เองตามมาตรา 142(5)
บิดากู้เงินเขามาและมอบนาให้เขาทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ บุตรมาฟ้องขอชำระเงินกู้และขอนาคืนโดยอ้างว่าบิดาตายแล้ว บุตรเป็นทายาทผู้รับมรดก ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าบิดายังมีชีวิตอยู่ อำนาจฟ้องคดีของบุตรก็หมดไป บิดาจะขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยก็ไม่ได้ เพราะฟ้องเดิมใช้ไม่ได้แล้ว ก็ไม่มีฟ้องที่สมบูรณ์ซึ่งบิดาจะร่วมเป็นโจทก์ด้วยได้
อำนาจฟ้องเช่นนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5)
อำนาจฟ้องเช่นนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของทายาทเมื่อผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ และผลกระทบต่อฟ้องเดิม
บิดากู้เงินเขามาและมอบนาให้เขาทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ บุตรมาฟ้องขอชำระเงินกู้และขอนาคืนโดยอ้างว่าบิดาตายแล้วบุตรเป็นทายาทผู้รับมฤดก ดังนี้ เมื่อปรากฎว่าบิดายังมีชีวิตอยู่ อำนาจฟ้องคดีของบุตรก็หมดไป บิดาจะขอเข้มาเป็นโจทก์ร่วมด้วยก็ไม่ได้ เพราะฟ้องเดิมใช้ไม่ได้แล้ว ก็ไม่มีฟ้องที่สมบูรณ์ ซึ่งบิดาจะร่วมเป็นโจทก์ด้วยได้
อำนาจฟ้องเช่นนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา142(5)
อำนาจฟ้องเช่นนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา142(5)