พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้จากการใช้สิทธิในข้อตกลงยินยอมก่อนล้มละลาย การหักเงินจากใบรับฝากเงินประจำ
ลูกหนี้ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารผู้คัดค้าน โดยจำนำใบฝากเงินประจำเพื่อเป็นประกัน พร้อมกับทำหนังสือยินยอม ให้ผู้คัดค้านมีสิทธิหักเงินฝากประจำตามใบรับฝากนั้นชำระหนี้ ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีได้ ก่อนมีการฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย 9 เดือนเศษ ผู้คัดค้านใช้สิทธิตามหนังสือยินยอมหักเงินตาม ใบรับฝากเงินประจำชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชีภายหลังที่ลูกหนี้ ถูกฟ้องล้มละลายแล้ว จึงเป็นการใช้สิทธิตามข้อตกลงของลูกหนี้ ซึ่งยังมีผลบังคับอยู่ตลอดมาถึงวันหักเงินนั่นเอง การที่ลูกหนี้จำนำใบรับฝากเงินประจำ ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ มีประกันก็มีเพียงสิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคือใบรับฝาก ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 95 ซึ่งผู้คัดค้านมีแต่เพียง สิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับคดีเอาแก่ใบรับฝากโดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่านั้น ไม่อาจใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก เพื่อชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านได้ ทั้งเป็นข้อตกลงที่ให้สิทธิแก่ผู้รับจำนำ จัดการแก่ทรัพย์สินที่จำนำเป็นประการอื่น นอกจากบทบัญญัติทั้งหลาย ว่าด้วยการบังคับจำนำ ข้อตกลงย่อมไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 756. ข้อตกลงจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิหักเงินตามใบรับฝากไว้ชำระหนี้ได้ ถือได้ว่า ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการกระทำที่ลูกหนี้มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่น ชอบที่ศาลจะเพิกถอนการใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก ที่ได้กระทำไปนั้นได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115 การขอให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ตามใบรับฝากดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นกรณีนอกเหนือบทบัญญัติมาตรา 115เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องดำเนินการเป็นกรณีต่างหากจากคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิหักเงินจากใบรับฝากเพื่อชำระหนี้หลังล้มละลาย: ข้อตกลงที่ไม่สมบูรณ์และการเพิกถอนสิทธิ
ลูกหนี้ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารผู้คัดค้าน โดยจำนำใบฝากเงินประจำเพื่อเป็นประกัน พร้อมกับทำหนังสือยินยอม ให้ผู้คัดค้านมีสิทธิหักเงินฝากประจำตามใบรับฝากนั้นชำระหนี้ ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีได้ ก่อนมีการฟ้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย 9 เดือนเศษ ผู้คัดค้านใช้สิทธิตามหนังสือยินยอมหักเงินตาม ใบรับฝากเงินประจำชำระหนี้เบิกเงินเกินบัญชีภายหลังที่ลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลายแล้ว จึงเป็นการใช้สิทธิตามข้อตกลงของลูกหนี้ ซึ่งยังมีผลบังคับอยู่ตลอดมาถึงวันหักเงินนั่นเอง
การที่ลูกหนี้จำนำใบรับฝากเงินประจำ ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ มีประกันก็มีเพียงสิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคือใบรับฝาก ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 95 ซึ่งผู้คัดค้านมีแต่เพียง สิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับคดีเอาแก่ใบรับฝากโดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เท่านั้น ไม่อาจใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก เพื่อชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านได้ ทั้งเป็นข้อตกลงที่ให้สิทธิแก่ผู้รับจำนำ จัดการแก่ทรัพย์สินที่จำนำเป็นประการอื่น นอกจากบทบัญญัติทั้งหลาย ว่าด้วยการบังคับจำนำ ข้อตกลงย่อมไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 756. ข้อตกลงจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้คัดค้านไม่มีสิทธิหักเงินตามใบรับฝากไว้ชำระหนี้ได้ ถือได้ว่า ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการกระทำที่ลูกหนี้มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่น ชอบที่ศาลจะเพิกถอนการใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก ที่ได้กระทำไปนั้นได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115
การขอให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ตามใบรับฝากดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นกรณีนอกเหนือบทบัญญัติมาตรา 115เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องดำเนินการเป็นกรณีต่างหากจากคดีนี้
การที่ลูกหนี้จำนำใบรับฝากเงินประจำ ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้ มีประกันก็มีเพียงสิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคือใบรับฝาก ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 95 ซึ่งผู้คัดค้านมีแต่เพียง สิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับคดีเอาแก่ใบรับฝากโดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เท่านั้น ไม่อาจใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก เพื่อชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านได้ ทั้งเป็นข้อตกลงที่ให้สิทธิแก่ผู้รับจำนำ จัดการแก่ทรัพย์สินที่จำนำเป็นประการอื่น นอกจากบทบัญญัติทั้งหลาย ว่าด้วยการบังคับจำนำ ข้อตกลงย่อมไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 756. ข้อตกลงจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายผู้คัดค้านไม่มีสิทธิหักเงินตามใบรับฝากไว้ชำระหนี้ได้ ถือได้ว่า ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการกระทำที่ลูกหนี้มุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบ เจ้าหนี้อื่น ชอบที่ศาลจะเพิกถอนการใช้สิทธิหักเงินตามใบรับฝาก ที่ได้กระทำไปนั้นได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 115
การขอให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ตามใบรับฝากดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นกรณีนอกเหนือบทบัญญัติมาตรา 115เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องดำเนินการเป็นกรณีต่างหากจากคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินชำระหนี้จำนองหลังล้มละลาย มิใช่การเลือกชำระหนี้และไม่ถือว่าเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้รายหนึ่ง
เจ้าหนี้มีประกันมีสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์ จึงมีอำนาจฟ้องร้องบังคับเกี่ยวแก่ทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันนั้นได้โดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ ดังนั้นการที่จำเลยโอนที่ดินพิพาทชำระหนี้จำนองแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีประกันโดยไม่มีการเพิ่มเงิน และไม่ปรากฏว่าราคาที่ดินพิพาทท่วมหนี้จำนองเพราะจำเลยมุ่งหวังจะได้ผลประโยชน์จากการลดหนี้จำนอง จึงมิได้เป็นไปโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่น ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการโอน และผู้คัดค้านจะทราบถึงฐานะอันไม่สู้ดีของจำเลยหรือไม่ก็ไม่เป็นข้อสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินชำระหนี้จำนองหลังล้มละลาย: เจ้าหนี้มีประกันมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินโดยตรง
เจ้าหนี้มีประกันมีสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจฟ้องร้องบังคับเกี่ยวแก่ทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันนั้นได้โดยไม่ต้องขอรับชำระหนี้ ดังนั้นการที่จำเลยโอนที่ดินพิพาทชำระหนี้จำนองแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีประกันโดยไม่มีการเพิ่มเงิน และไม่ปรากฏว่าราคาที่ดินพิพาทท่วมหนี้จำนองเพราะจำเลยมุ่งหวังจะได้ผลประโยชน์จากการลดหนี้จำนอง จึงมิได้เป็นไปโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่น ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการโอน และผู้คัดค้านจะทราบถึงฐานะอันไม่สู้ดีของจำเลยหรือไม่ก็ไม่เป็นข้อสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2968/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำจำนองก่อนมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ และมูลหนี้หลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกัน
ลูกหนี้ (จำเลย) ได้มอบอำนาจให้เจ้าหนี้นำที่ดิน 6 โฉนดไปทำสัญญาจำนองประกันหนี้ที่ลูกหนี้เบิกเงินเกินบัญชีไว้กับเจ้าหนี้ เจ้าหนี้นำที่ดินทั้ง 6 โฉนดไปทำจำนองในวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ โดยได้จดทะเบียนจำนองเสร็จเรียบร้อยในเดียวกันทั้ง 6 โฉนดก่อนสิ้นเวลาราชการในวันนั้น เมื่อไม่มีพยานฝ่ายเจ้าหนี้ปากใดยืนยันว่าได้ทำจำนองเสร็จก่อนเที่ยงวันหรือก่อนเวลา 13.30 น. อันเป็นเวลาที่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้ กรณีฟังไม่ได้ว่า เจ้าหนี้ได้ทำจำนองเสร็จก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จึงจะถือว่าเป็นเจ้าหนี้มีประกัน มีสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนถูกพิทักษ์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 95 ไม่ได้
ลูกหนี้ออกเช็คสั่งให้ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จ่ายเงินให้แก่บริษัท อ. โดยลงวันที่ในเช็ควันที่ 12 ธันวาคม 2517 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ธนาคารเจ้าหนี้จ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่บริษัท อ.ไปในวันดังกล่าว ดังนี้ มูลแห่งหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระจึงเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกหนี้ได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว แม้เจ้าหนี้จะจ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าหนี้ก็จะขอรับชำระหนี้ในเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94
ลูกหนี้ออกเช็คสั่งให้ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จ่ายเงินให้แก่บริษัท อ. โดยลงวันที่ในเช็ควันที่ 12 ธันวาคม 2517 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ธนาคารเจ้าหนี้จ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่บริษัท อ.ไปในวันดังกล่าว ดังนี้ มูลแห่งหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระจึงเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกหนี้ได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว แม้เจ้าหนี้จะจ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าหนี้ก็จะขอรับชำระหนี้ในเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2968/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำจำนองก่อน/หลังคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ และผลของการจ่ายเช็คหลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ต่อการขอรับชำระหนี้
ลูกหนี้ (จำเลย) ได้มอบอำนาจให้เจ้าหนี้นำที่ดิน 6 โฉนดไปทำสัญญาจำนองประกันหนี้ที่ลูกหนี้เบิกเงินเกินบัญชีไว้กับเจ้าหนี้ เจ้าหนี้นำที่ดินทั้ง 6 โฉนดไปทำจำนองในวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ โดยได้จดทะเบียนจำนองเสร็จเรียบร้อยในเดียวกันทั้ง 6 โฉนดก่อนสิ้นเวลาราชการในวันนั้น เมื่อไม่มีพยานฝ่ายเจ้าหนี้ปากใดยื่นยันว่าได้ทำจำนองเสร็จก่อนเที่ยงวันหรือก่อนเวลา 13.30 น. อันเป็นเวลาที่ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้กรณีฟังไม่ได้ว่า เจ้าหนี้ได้ทำจำนองเสร็จก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จึงจะถือว่า เป็นเจ้าหนี้มีประกันมีสิทธิจำนองเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันซึ่งลูกหนี้ได้ให้ไว้ก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 95 ไม่ได้
ลูกหนี้ออกเช็คสั่งให้ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จ่ายเงินให้แก่บริษัท อ. โดยลงวันที่ในเช็ควันที่ 12 ธันวาคม 2517 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ธนาคารเจ้าหนี้จ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่บริษัท อ.ไปในวันดังกล่าว ดังนี้ มูลแห่งหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระจึงเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกหนี้ได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้วแม้เจ้าหนี้จะจ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าหนี้ก็จะขอรับชำระหนี้ในเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94
ลูกหนี้ออกเช็คสั่งให้ธนาคารเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จ่ายเงินให้แก่บริษัท อ. โดยลงวันที่ในเช็ควันที่ 12 ธันวาคม 2517 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ธนาคารเจ้าหนี้จ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่บริษัท อ.ไปในวันดังกล่าว ดังนี้ มูลแห่งหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระจึงเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกหนี้ได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้วแม้เจ้าหนี้จะจ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและไม่ทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าหนี้ก็จะขอรับชำระหนี้ในเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบเงินฝากเป็นประกันความเสียหาย ไม่ถือเป็นการจำนำ ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การที่จำเลยที่ 1 ตกลงมอบเงินฝากพร้อมใบรับฝากแก่ผู้ร้อง เพื่อเป็นประกันความเสียหายที่ผู้ร้องออกหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้ต่อกรมทางหลวง ให้ผู้ร้องมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ชำระค่าเสียหายที่ผู้ร้องต้องชดใช้แทนได้ทันที และจำเลยที่ 1 จะไม่ถอนเงินฝากจนกว่าผู้ร้องจะพ้นภาระความรับผิดชอบตามหนังสือค้ำประกันนั้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการจำนำเงินฝาก ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหน้าที่มีประกันตามประราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงมอบเงินฝากเป็นประกันความเสียหาย ไม่ถือเป็นการจำนำ ทำให้ผู้ร้องไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย
การที่จำเลยที่ 1 ตกลงมอบเงินฝากพร้อมใบรับฝากแก่ผู้ร้อง เพื่อเป็นประกันความเสียหายที่ผู้ร้องออกหนังสือค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้ต่อกรมทางหลวงให้ผู้ร้องมีอำนาจหักเงินจากบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 ชำระค่าเสียหายที่ผู้ร้องต้องชดใช้แทนได้ทันที และจำเลยที่ 1 จะไม่ถอนเงินฝากจนกว่า ผู้ร้องจะพ้นภาระความรับผิดชอบตามหนังสือค้ำประกันนั้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นการจำนำเงินฝาก ผู้ร้องจึงไม่เป็นเจ้าหนี้มีประกันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: สิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้
จำเลยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาให้ทุเลาการบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างฎีกา โดยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกัน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว การทุเลาการบังคับคดีก็สิ้นสุดลง การที่จำเลยร้องขอรับโฉนดที่ดินคืน ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาสั่ง
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทุเลาบังคับคดี, ล้มละลาย, และสิทธิเจ้าหนี้: การหมดสิทธิเรียกร้องหนี้เมื่อไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้
จำเลยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาให้ทุเลาการบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างฎีกา. โดยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกัน. เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว. การทุเลาการบังคับคดีก็สิ้นสุดลง. การที่จำเลยร้องขอรับโฉนดที่ดินคืน. ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาสั่ง.
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา. ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด. หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้. ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่.
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ. และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย.
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา. ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด. หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้. ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่.
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ. และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย.