คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 142 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,624 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เช่า: กรณีจำเลยรุกล้ำพื้นที่เช่าที่สิ่งปลูกสร้างมีอยู่ก่อน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง
ผู้เช่าไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าการที่จะจัดการให้จำเลยผู้ซึ่งไม่ได้เช่าที่ดินส่วนนั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดิน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 774-776/2505)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ก็ต้องยกฟ้องโจทก์โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อโต้เถียงอื่นๆ ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เช่า: การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเช่าเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดินเมื่อผู้เช่ายังมิได้เข้าครอบครอง
ผู้เช่าไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่า การที่จะจัดการให้จำเลยผู้ซึ่งไม่ได้เช่าที่ดินส่วนนั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดิน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 774-776/2505)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ก็ต้องยกฟ้องโจทก์โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อโต้เถียงอื่นๆ ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สัญชาติและการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่: การแจ้งให้กลับออกนอกประเทศไม่ใช่การโต้แย้งสิทธิ และศาลมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องอำนาจฟ้องได้
เจ้าหน้าที่กรมตรวจคนเข้าเมืองมีหนังสือท้าวความถึงการที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศ และบอกให้ทราบว่าโจทก์จะต้องเดินทางกลับออกไปภายในกำหนดที่ได้รับอนุญาต เป็นการเตือนให้โจทก์ซึ่งถือหนังสือเดินทางคนต่างด้าวรู้ไว้เท่านั้น ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์
การที่เจ้าหน้าที่กรมตรวจคนเข้าเมืองบอกว่าถ้าจะอยู่เกินกว่ากำหนด ก็ต้องฟ้องคดีต่อศาลแล้วนำหลักฐานว่าได้ฟ้องคดีแล้วนั้นมาแสดงจึงจะอยู่ได้ต่อไปจนกว่าศาลจะตัดสินนั้นเป็นแต่เพียงคำแนะนำ ไม่ใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ว่าไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย และก็ไม่เป็นการกระทำอันจะพึงถือว่าเจ้าหน้าที่ได้โต้แย้งสิทธิโจทก์อย่างแท้จริงอันควรฟ้องร้องได้
เมื่อโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิพิสูจน์สัญชาติต่อเจ้าหน้าที่แล้ว สิทธิเรื่องสัญชาติของโจทก์ก็ยังไม่ได้ถูกโต้แย้งโดยเจ้าหน้าที่ โจทก์จะฟ้องเจ้าหน้าที่ต่อศาลไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1023/2505)
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้างศาลก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้กลับออกนอกประเทศ ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิในสัญชาติ โจทก์ต้องพิสูจน์สัญชาติก่อนฟ้อง
เจ้าหน้าที่กรมตรวจคนเข้าเมืองมีหนังสือท้าวความถึงการที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศ และบอกให้ทราบว่าโจทก์จะต้องเดินทางกลับออกไปภายในกำหนดที่ได้รับอนุญาต เป็นการเตือนให้โจทก์ซึ่งถือหนังสือเดินทางคนต่างด้าวรู้ไว้เท่านั้น ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์
การที่เจ้าหน้าที่กรมตรวจคนเข้าเมืองบอกว่าถ้าจะอยู่เกินกว่ากำหนด ก็ต้องฟ้องคดีต่อศาลแล้วนำหลักฐานว่าได้ฟ้องคดีแล้วนั้นมาแสดงจึงจะอยู่ได้ต่อไปจนกว่าศาลจะตัดสินนั้น เป็นแต่เพียงคำแนะนำไม่ใช่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ว่าไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย และก็ไม่เป็นการกระทำอันจะพึงถือว่าเจ้าหน้าที่ได้โต้แย้งสิทธิโจทก์อย่างแท้จริงอันควรฟ้องร้องได้
เมื่อโจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิพิสูจน์สัญชาติต่อเจ้าหน้าที่แล้ว สิทธิเรื่องสัญชาติของโจทก์ก็ยังไม่ได้ถูกโต้แย้งโดยเจ้าหน้าที่ โจทก์จะฟ้องเจ้าหน้าที่ต่อศาลไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 1023/2505)
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้าง ศาลก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีหนี้ไม่ถึงกำหนดชำระ: ประเด็นที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่กระทบความสงบเรียบร้อย
ปัญหาที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องก่อนหนี้ถึงกำหนด: ประเด็นที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยหากไม่ยกขึ้นสู่การต่อสู้
ปัญหาที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ในเมื่อหนี้ยังไม่ถึงกำหนดชำระไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับจำนองต้องแจ้งหนี้ให้ลูกหนี้ก่อน หากไม่แจ้งสิทธิบังคับจำนองไม่สมบูรณ์ และปัญหาอำนาจฟ้องเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย
กฎหมายจะรับรองให้ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้ต่อเมื่อผู้รับจำนองได้มีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้เสียก่อนและลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตาม ฉะนั้นเมื่อโจทก์จะแสวงหาสิทธิ"บังคับจำนอง"โจทก์ก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน
การฟ้องคดีต่อศาลเป็นอำนาจฟ้องตามกฎหมาย และปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 405/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับจำนองต้องแจ้งหนี้ให้ลูกหนี้ก่อน หากไม่แจ้งสิทธิบังคับจำนองไม่มีผล และปัญหาอำนาจฟ้องเป็นความสงบเรียบร้อย
กฎหมายจะรับรองให้ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้ต่อเมื่อผู้รับจำนองได้มีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้เสียก่อนและลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามฉะนั้น เมื่อโจทก์จะแสวงหาสิทธิ 'บังคับจำนอง' โจทก์ก็จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน
การฟ้องคดีต่อศาลเป็นอำนาจฟ้องตามกฎหมายและปัญหาเกี่ยวกับอำนาจฟ้อง แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นก็ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกเหตุเลิกสัญญาและการวินิจฉัยประเด็นใหม่ในศาลฎีกา
ปัญหาว่า จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 มาใช้บังคับ และเลิกสัญญาเสียโดยมิพักต้องบอกกล่าวนั้น ต้องยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และมิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ปัญหาว่า การที่โจทก์ไม่ยอมวางเงินมัดจำหรือไม่ยอมทำสัญญาจะซื้อขายตามที่จำเลยร้องขอจะมีอายุความบังคับให้จำเลยโอนขายนานเท่าใดก็ต้องเป็นประเด็นที่ได้พิพาทกันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการยกเหตุเลิกสัญญาและการวินิจฉัยประเด็นอายุความในคดีซื้อขายที่ดิน
ปัญหาว่าจะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 มาใช้บังคับและเลิกสัญญาเสียโดยมิพักต้องบอกกล่าวนั้นต้องยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ปัญหาว่า การที่โจทก์ไม่ยอมวางเงินมัดจำหรือไม่ยอมทำสัญญาจะซื้อขายตามที่จำเลยร้องขอจะมีอายุความบังคับให้จำเลยโอนขายนานเท่าใดก็ต้องเป็นประเด็นที่ได้พิพาทกันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น
of 463