พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความ, การบอกกล่าวบังคับจำนอง, และการยอมรับหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน
ทนายโจทก์เบิกความยืนยันว่า ว.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทโจทก์ได้ลงชื่อในใบแต่งทนายความตั้งแต่ทนายโจทก์ และ ส. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโจทก์และได้ติดต่อการงานกับ ว. ยืนยันลายมือชื่อของ ว. เช่นนี้รับฟังได้ว่า ว. ได้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ตั้งแต่งทนายความโดยชอบโดยโจทก์ไม่จำต้องนำ ว.มาเบิกความยืนยันในเรื่องนี้อีก ทนายความผู้ได้รับตั้งแต่งย่อมมีอำนาจเรียกคำฟ้องและลงชื่อในคำฟ้องแทนโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อโจทก์ได้ยื่นใบแต่งทนายความต่อศาลเพื่อรวมไว้ในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61 แล้ว โจทก์ก็ไม่จำต้องระบุอ้างใบแต่งทนายความในบัญชีระบุพยานอีก
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานโดยไม่ได้กำหนดข้อต่อสู้ของจำเลยเรื่องอำนาจการบอกกล่าวบังคับจำนองไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท จำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้สละประเด็นข้อนี้แล้ว จึงไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่โจทก์ฟ้องจริง แต่ได้ชำระหนี้แก่โจทก์แล้วเช่นนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์ดังที่ปรากฏในตั๋วสัญญาใช้เงินฉะนั้น เอกสารซึ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจึงไม่จำเป็นแก่คดีที่จะต้องอ้างมาเป็นพยานหลักฐานอีก ตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้องจะปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนหรือไม่จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ฟังได้เป็นยุติแล้ว
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานโดยไม่ได้กำหนดข้อต่อสู้ของจำเลยเรื่องอำนาจการบอกกล่าวบังคับจำนองไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท จำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้สละประเด็นข้อนี้แล้ว จึงไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่โจทก์ฟ้องจริง แต่ได้ชำระหนี้แก่โจทก์แล้วเช่นนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์ดังที่ปรากฏในตั๋วสัญญาใช้เงินฉะนั้น เอกสารซึ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจึงไม่จำเป็นแก่คดีที่จะต้องอ้างมาเป็นพยานหลักฐานอีก ตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้องจะปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนหรือไม่จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ฟังได้เป็นยุติแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแทน, การบอกกล่าวบังคับจำนอง, และหลักฐานทางหนี้ที่ยอมรับแล้ว
ทนายโจทก์เบิกความยืนยันว่า ว.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทโจทก์ได้ลงชื่อในใบแต่งทนายความตั้งแต่งทนายโจทก์และ ส.ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโจทก์และได้ติดต่อการงานกับ ว.ยืนยันลายมือชื่อของว. เช่นนี้รับฟังได้ว่าว.ได้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ตั้งแต่งทนายความโดยชอบโดยโจทก์ไม่จำต้องนำว.มาเบิกความยืนยันในเรื่องนี้อีกทนายความผู้ได้รับแต่งย่อมมีอำนาจเรียงคำฟ้องและลงชื่อในคำฟ้องแทนโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62เมื่อโจทก์ได้ยื่นใบแต่งทนายความต่อศาลเพื่อรวมไว้ในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61 แล้ว โจทก์ก็ไม่จำต้องระบุอ้างใบแต่งทนายความในบัญชีระบุพยานอีก ศาลชั้นต้นชี้สองสถานโดยไม่ได้กำหนดข้อต่อสู้ของจำเลยเรื่องอำนาจการบอกกล่าวบังคับจำนองไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท จำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้สละประเด็นข้อนี้แล้ว จึงไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ย่อมไม่วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน จำเลยให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่โจทก์ฟ้องจริงแต่ได้ชำระหนี้แก่โจทก์แล้วเช่นนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์ดังที่ปรากฏในตั๋วสัญญาใช้เงิน ฉะนั้นเอกสารซึ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจึงไม่จำเป็นแก่คดีที่จะต้องอ้างมาเป็นพยานหลักฐานอีก ตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้องจะปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนหรือไม่จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ฟังได้เป็นยุติแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์และขอบเขตอำนาจทนายความตามใบแต่งทนาย
การถอนคำร้องขอถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาเห็นสมควร
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ใบแต่งทนายของโจทก์ระบุว่าให้ทนายความมีอำนาจว่าต่าง แก้ต่าง ถอนฟ้อง ประนีประนอมยอมความอุทธรณ์ ฎีกา ดังนี้ ทนายโจทก์มีอำนาจถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด.
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ใบแต่งทนายของโจทก์ระบุว่าให้ทนายความมีอำนาจว่าต่าง แก้ต่าง ถอนฟ้อง ประนีประนอมยอมความอุทธรณ์ ฎีกา ดังนี้ ทนายโจทก์มีอำนาจถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2227/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์ และขอบเขตอำนาจของทนายตามใบแต่งทนาย
การถอนคำร้องขอถอนฟ้องในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาเห็นสมควร ในคดีความผิดต่อส่วนตัว ใบแต่งทนายของโจทก์ระบุว่าให้ทนายความมีอำนาจว่าต่าง แก้ต่าง ถอนฟ้อง ประนีประนอมยอมความอุทธรณ์ ฎีกา ดังนี้ ทนายโจทก์มีอำนาจถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายในการผ่อนผันสัญญาประนีประนอมยอมความต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความ
ทนายความที่คู่ความแต่งตั้งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความ แต่ถ้าดำเนินกระบวนพิจารณาใดเป็นไปในทางจำหน่ายสิทธิของคู่ความ จะต้องได้ระบุไว้ชัดเจนในใบแต่งทนายความของคู่ความนั้น เมื่อปรากฏว่าทนายโจทก์อนุญาตให้จำเลยออกจากห้องพิพาทหลังจากล่วงพ้นกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็นการกระทำกันนอกศาล มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลทั้งโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงนอกเหนืออำนาจที่ทนายโจทก์จะกระทำได้และไม่มีผลผูกพันโจทก์ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความจำกัดในการผ่อนผันสัญญาประนีประนอม หากไม่ได้รับความยินยอมจากคู่ความ
ทนายความที่คู่ความแต่งตั้งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความแต่ถ้าดำเนินกระบวนพิจารณาใดเป็นไปในทางจำหน่ายสิทธิของคู่ความ จะต้องได้ระบุไว้ชัดเจนในใบแต่งทนายความของคู่ความนั้น เมื่อปรากฏว่าทนายโจทก์อนุญาตให้จำเลยออกจากห้องพิพาทหลังจากล่วงพ้นกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็นการกระทำกันนอกศาล มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลทั้งโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงนอกเหนืออำนาจที่ทนายโจทก์จะกระทำได้และไม่มีผลผูกพันโจทก์ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1099/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายจำกัด: การยินยอมผ่อนผันนอกศาลไม่ผูกพันคู่ความ จำหน่ายสิทธิต้องระบุในใบแต่ง
ทนายความที่คู่ความแต่งตั้งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความ แต่ถ้าดำเนินกระบวนพิจารณาใดไปในทางจำหน่ายสิทธิของคู่ความ จะต้องได้ระบุไว้ชัดเจนในใบแต่งทนายความของคู่ความนั้นเมื่อปรากฏว่าทนายโจทก์อนุญาตให้จำเลยออกจากห้องพิพาทหลังจากล่วงพ้นกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความก็เป็น การกระทำกันนอกศาล มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลทั้งโจทก์ มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย จึงนอกเหนืออำนาจที่ทนายโจทก์จะกระทำ ได้และไม่มีผลผูกพันโจทก์ จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาประนีประนอม ยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4867/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของนิติบุคคล, ใบมอบอำนาจ, และการปฏิเสธข้อสันนิษฐานเด็ดขาดตามกฎหมาย
การเป็นนิติบุคคลประเภทหุ้นส่วนบริษัทและอำนาจผู้แทนนิติบุคคลนั้นนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจะต้องแต่งย่อรายการซึ่งได้ลงทะเบียนส่งไปพิมพ์โฆษณาในราชกิจจานุเบกษาและถือว่าเป็นอันรู้แก่บุคคลทั้งปวงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1021และ 1022 แม้หนังสือรับรองของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องโจทก์ ไม่มีข้อความอ้างอิงระบุว่าบริษัทโจทก์มีกรรมการจำนวนเท่าใด มีใครเป็นกรรมการ และใครเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแทนโจทก์ก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์และไม่แจ้งชัดแต่อย่างใดไม่
อ.ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยมิได้โต้แย้งในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจกรณีถือได้ว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจต่อศาล แม้โจทก์จะส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจซึ่งเป็นใบมอบอำนาจฉบับอื่น มิใช่ต้นฉบับของใบมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้อง และทำขึ้นในภายหลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยแล้วก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตามสำเนาใบมอบอำนาจท้ายฟ้องมิได้ระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่าให้ฟ้องจำเลย แต่ก็ปรากฏตามข้อความใบมอบอำนาจว่าเป็นใบมอบอำนาจทั่วไปให้อ.มีอำนาจฟ้องร้องคดีแพ่งและคดีอาญาและมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาต่างๆแทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 ได้ทุกประการดังนั้น อ. ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยแทนโจทก์ โจทก์หาจำต้องระบุชื่อจำเลยในหนังสือมอบอำนาจด้วยไม่
อ.ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยมิได้โต้แย้งในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจกรณีถือได้ว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจต่อศาล แม้โจทก์จะส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจซึ่งเป็นใบมอบอำนาจฉบับอื่น มิใช่ต้นฉบับของใบมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้อง และทำขึ้นในภายหลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยแล้วก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตามสำเนาใบมอบอำนาจท้ายฟ้องมิได้ระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่าให้ฟ้องจำเลย แต่ก็ปรากฏตามข้อความใบมอบอำนาจว่าเป็นใบมอบอำนาจทั่วไปให้อ.มีอำนาจฟ้องร้องคดีแพ่งและคดีอาญาและมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาต่างๆแทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 ได้ทุกประการดังนั้น อ. ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยแทนโจทก์ โจทก์หาจำต้องระบุชื่อจำเลยในหนังสือมอบอำนาจด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4867/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของนิติบุคคล, หนังสือมอบอำนาจ, และการพิสูจน์หนี้จากบัญชีเดินสะพัด
การเป็นนิติบุคคลประเภทหุ้นส่วนบริษัทและอำนาจผู้แทนนิติบุคคลนั้นนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจะต้องแต่งย่อรายการซึ่งได้ลงทะเบียนส่งไปพิมพ์โฆษณาในราชกิจจานุเบกษาและถือว่าเป็นอันรู้แก่บุคคลทั้งปวงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1021 และ 1022 แม้หนังสือรับรองของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องโจทก์ ไม่มีข้อความอ้างอิงระบุว่าบริษัทโจทก์มีกรรมการจำนวนเท่าใด มีใครเป็นกรรมการและใครเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแทนโจทก์ก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์และไม่แจ้งชัดแต่อย่างใดไม่
อ.ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยมิได้โต้แย้งในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจกรณีถือได้ว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจต่อศาล แม้โจทก์จะส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจซึ่งเป็นใบมอบอำนาจฉบับอื่น มิใช่ต้นฉบับของใบมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้อง และทำขึ้นในภายหลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยแล้วก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตามสำเนาใบมอบอำนาจท้ายฟ้องมิได้ระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่าให้ฟ้องจำเลย แต่ก็ปรากฏตามข้อความใบมอบอำนาจว่าเป็นใบมอบอำนาจทั่วไปให้ อ.มีอำนาจฟ้องร้องคดีแพ่งและคดีอาญาและมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 ได้ทุกประการดังนั้น อ. ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยแทนโจทก์โจทก์หาจำต้องระบุชื่อจำเลยในหนังสือมอบอำนาจด้วยไม่
อ.ฟ้องคดีอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องจำเลยโดยส่งสำเนาใบมอบอำนาจพร้อมกับฟ้อง จำเลยมิได้โต้แย้งในความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจกรณีถือได้ว่าไม่มีประเด็นเกี่ยวกับความแท้จริงแห่งใบมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่ต้องส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจต่อศาล แม้โจทก์จะส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจซึ่งเป็นใบมอบอำนาจฉบับอื่น มิใช่ต้นฉบับของใบมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้อง และทำขึ้นในภายหลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยแล้วก็ไม่มีผลแต่อย่างใด
ตามสำเนาใบมอบอำนาจท้ายฟ้องมิได้ระบุโดยเฉพาะเจาะจงว่าให้ฟ้องจำเลย แต่ก็ปรากฏตามข้อความใบมอบอำนาจว่าเป็นใบมอบอำนาจทั่วไปให้ อ.มีอำนาจฟ้องร้องคดีแพ่งและคดีอาญาและมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาต่าง ๆ แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 ได้ทุกประการดังนั้น อ. ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยแทนโจทก์โจทก์หาจำต้องระบุชื่อจำเลยในหนังสือมอบอำนาจด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทนายรับเงินแทนเจ้าหนี้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ถือเป็นการผูกพันเจ้าหนี้
ปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกให้แก่โจทก์ต่อหน้าศาลในวันทำสัญญา เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกแทนโจทก์ด้วยและการรับเงินในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งมิใช่การรับเงินจากศาลอันจะต้องทำเป็นหนีงสือ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 63การที่จำเลยชำระเงินงวดแรกให้แก่ทนายโจทก์ต่อหน้าศาลจึงผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้.