พบผลลัพธ์ทั้งหมด 266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและฟ้องเคลือบคลุม: สัญญาทางทนายและอำนาจจำหน่ายสิทธิ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้ เกี่ยวกับทรัพย์รายเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน กรณีไม่ต้องด้วย ม.144 ป.วิ.แพ่ง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง(ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน)เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่า นางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม.
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง(ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน)เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่า นางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการบรรยายฟ้อง: อำนาจทนายทำสัญญาแทน, สัญญาที่แตกต่างจากละเมิด
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า จำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้เกี่ยวกับทรัพย์รายเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน กรณีไม่ต้องด้วย มาตรา 144 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง (ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน) เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่านางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง (ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน) เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่านางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอุทธรณ์ฎีกาจากใบแต่งทนายต้องระบุชัดเจน หากไม่ได้ระบุ ศาลไม่รับอุทธรณ์
ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าหมายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของหมายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุด จะฎีกาต่อมาไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอุทธรณ์ฎีกาของทนายต้องระบุชัดเจนในใบแต่งทนาย หากไม่ชัดเจนศาลไม่รับอุทธรณ์
ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าทนายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของทนายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุดจะฎีกาต่อมาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอุทธรณ์ฎีกาของทนายต้องระบุชัดเจนในใบแต่งทนาย หากไม่ได้ระบุ ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์และคำสั่งเป็นที่สุด
ใบแต่งทนายโจทก์ไม่ได้ระบุข้อความให้แจ้งชัดว่าทนายมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ทนายโจทก์ยื่นอุทธรณ์เอง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ทนายโจทก์ร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของทนายโจทก์ยืนตามศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมเป็นที่สุดจะฎีกาต่อมาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 16/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายยื่นอุทธรณ์แทนจำเลยที่หลบหนี ไม่กระทบความชอบด้วยกฎหมายของอุทธรณ์
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความในคดีอาญาให้ใช้สิทธิอุทธรณ์,ฎีกาได้นั้น ย่อมมีอำนาจลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์แทนตัวความได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยฟังคำพิพากษาแล้วได้หลบหนีเรือจำไป แล้วทนายจำเลยจึงได้ทำฟ้องอุทธรณ์ลงชื่อทนายในอุทธรณ์ แทนจำเลย นำไปยืนต่อศาลภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ดังนี้ ย่อมถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และเมื่อภายหลังจำเลยได้ถูกจับตัวมาแล้วศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยฟังคำพิพากษาแล้วได้หลบหนีเรือจำไป แล้วทนายจำเลยจึงได้ทำฟ้องอุทธรณ์ลงชื่อทนายในอุทธรณ์ แทนจำเลย นำไปยืนต่อศาลภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ดังนี้ ย่อมถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยวิธีพิจารณา และเมื่อภายหลังจำเลยได้ถูกจับตัวมาแล้วศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายยื่นอุทธรณ์ฎีกาแทนจำเลย แม้จำเลยหลบหนี
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความในคดีอาญาให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้นั้น ย่อมมีอำนาจลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์แทนตัวความได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยฟังคำพิพากษาแล้วได้หลบหนีเรือนจำไป แล้วทนายจำเลยจึงได้ทำฟ้องอุทธรณ์ลงชื่อทนายในอุทธรณ์แทนจำเลย นำไปยื่นต่อศาลภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ดังนี้ ย่อมถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาและเมื่อภายหลังจำเลยได้ถูกจับตัวมาแล้วศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย จำเลยฟังคำพิพากษาแล้วได้หลบหนีเรือนจำไป แล้วทนายจำเลยจึงได้ทำฟ้องอุทธรณ์ลงชื่อทนายในอุทธรณ์แทนจำเลย นำไปยื่นต่อศาลภายในกำหนดอายุความอุทธรณ์ดังนี้ ย่อมถือเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาและเมื่อภายหลังจำเลยได้ถูกจับตัวมาแล้วศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่เลิกแล้ว โอนหุ้นได้โดยไม่ต้องยินยอม ผู้รับโอนมีสิทธิฟ้องคดีอาญาได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้เลิก ความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลง จะนำมาตรา 1249 - 1040 มาใช้บังคับมิได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมโอนหุ้นของตนได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่น ผู้รับโอนหุ้นมาย่อมเป็นผู้เสียหายในทางอาญาได้
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีขอ้หาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์, ฎีกาได้ ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีขอ้หาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์, ฎีกาได้ ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่เลิกแล้ว ผู้รับโอนหุ้นมีสิทธิฟ้องคดีอาญาได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน เมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนมีมติให้เลิกความเป็นหุ้นส่วนก็สิ้นสุดลง จะนำมาตรา1249-1040 มาใช้บังคับมิได้ และผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมโอนหุ้นของตนได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่นผู้รับโอนหุ้นมาย่อมเป็นผู้เสียหายในทางอาญาได้
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีข้อหาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไปศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คดีอาญาที่อยู่ในชั้นพิจารณาอำนาจฟ้อง แม้ศาลจะเห็นว่าฟ้องบางข้อไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง แต่ยังมีข้อหาฐานอื่นอยู่ด้วย และคดีจะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไปศาลไม่ควรด่วนวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิด
ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากตัวความให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ย่อมมีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนตัวความได้
(อ้างฎีกา 1243/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความในการอุทธรณ์/ฎีกา: ใบแต่งทนายครอบคลุมสิทธิ
คดีอาญา ทนายโจทก์ลงชื่อในอุทธรณ์แทนโจทก์ ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย เพราะใบแต่งทนายความของโจทก์ได้ให้อำนาจทนายโจทก์ใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาด้วย