พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้ตามลำดับก่อนหลัง และการไม่สามารถอ้างเหตุพ้นวิสัยเพื่อเลี่ยงการชำระหนี้
คำพิพากษาของศาลบังคับให้จำเลยโอนขายนากับเรือนให้โจทก์ ถ้าไม่สามารถโอนขายได้จึงให้คืนเงิน ดังนี้เป็นการกำหนดให้กระทำการชำระหนี้ทีละอย่างก่อนหลังตามลำดับ ไม่ใช่เป็นการกระทำหลายอย่างอันลูกหนี้จะพึงเลือกได้ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 198
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัยอันจะเป็นเหตุให้จำ เลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาศที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัยอันจะเป็นเหตุให้จำ เลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาศที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ตามคำพิพากษา: โอนทรัพย์ก่อนคืนเงิน, การจำนองไม่เป็นเหตุให้ไม่ต้องชำระหนี้
คำพิพากษาของศาลบังคับให้จำเลยโอนขายนากับเรือนให้โจทก์ถ้าไม่สามารถโอนขายได้จึงให้คืนเงิน ดังนี้ เป็นการกำหนดให้กระทำการชำระหนี้ทีละอย่างก่อนหลังตามลำดับ ไม่ใช่เป็นการกระทำหลายอย่างอันลูกหนี้จะพึงเลือกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัย อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาสที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
การที่จำเลยเอาทรัพย์ไปจำนองสหกรณ์ไว้ไม่ทำให้การโอนขายที่ดินและเรือนเป็นอันพ้นวิสัย อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นอ้างว่า ไม่สามารถจะโอนขายที่ดินและเรือนได้ฉะนั้นโอกาสที่จำเลยจะขอคืนเงินให้โจทก์ จึงยังไม่อาจเกิดขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง: ไฟไหม้สิ่งปลูกสร้างไม่ถึงขั้นเลิกสัญญา ผู้ซื้อมีสิทธิขอปรับลดราคา
ทำหนังสือสัญญาจะขายที่ดินและห้องแถวที่ปลูกในที่ดินนั้นโดยวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่ของการซื้อขาย ก็คือที่ดิน เมื่อทำสัญญาแล้วเกิดไฟไหม้ห้องแถวเสีย ผู้ซื้อจะใช้สิทธิขอเลิกสัญญาและขอมัดจำคืนไม่ได้ เมื่อเกิดไฟไหม้จะโทษเอาเป็นความผิดของผู้ขายไม่ได้ ผู้ซื้อมีสิทธิจะขอลดราคาซื้อขายกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากผิดสัญญา คำนวณจากราคาขายจริงที่จำเลยคาดหมายได้ แม้กรรมสิทธิ์ยังไม่ส่งมอบ
โจทก์ซื้อเกลือจากจำเลย ชำระเงินแล้วแต่ยังไม่ได้รับเกลือไป จำเลยทำผิดสัญญาโดยเอาเกลือส่วนหนึ่งไปขายให้แก่ทางราชการทหาร โจทก์กล่าวในฟ้องว่า "โจทก์ยินยอมไม่ว่ากล่าวในจำนวนเกลือที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร แต่จะขอรับเงินเท่าที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร" ดังนี้ถือว่า โจทก์ติดใจจะเอาค่าเสียหายแก่จำเลย โดยถือเอาราคาที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร เป็นราคาที่จะคำนวณค่าเสียหายให้แก่โจทก์
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกันค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอก เนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤตติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างอื่น หากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ ว่าการที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกันค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอก เนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤตติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่า โจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างอื่น หากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ ว่าการที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขายเกลือ: การคำนวณจากราคาขายจริงที่จำเลยขายได้ และการคาดการณ์ความเสียหาย
โจทก์ซื้อเกลือจากจำเลยชำระเงินแล้วแต่ยังไม่ได้รับเกลือไป จำเลยทำผิดสัญญาโดยเอาเกลือส่วนหนึ่งไปขายให้แก่ทางราชการทหารโจทก์กล่าวในฟ้องว่า "โจทก์ยินยอมไม่ว่ากล่าวในจำนวนเกลือที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหารแต่จะขอรับเงินเท่าที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหาร" ดังนี้ ถือว่า โจทก์ติดใจจะเอาค่าเสียหายแก่จำเลยโดยถือเอาราคาที่จำเลยขายให้แก่ทางราชการทหารเป็นราคาที่จะคำนวณค่าเสียหายให้แก่โจทก์
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกัน ค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอกเนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างเดียวหากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ว่า การที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้วก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
โจทก์จำเลยมีสัญญาต่อกัน ค่าปรับที่โจทก์ต้องเสียให้แก่บุคคลภายนอกเนื่องจากจำเลยทำผิดสัญญาต่อโจทก์ เป็นกรณีเกิดจากพฤติการณ์พิเศษ โจทก์ไม่แจ้งให้จำเลยทราบว่าโจทก์จะไปทำสัญญากับบุคคลภายนอก จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าปรับนั้น
การคำนวณค่าเสียหายในกรณีมีการทำผิดสัญญานั้น ไม่ใช่ถือเอาจำนวนค่าเสียหายที่ผู้ทำผิดสัญญาได้คาดหรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ในเวลาทำสัญญาอย่างเดียวหากเป็นค่าเสียหายในขณะผิดสัญญา ซึ่งผู้กระทำผิดสัญญาย่อมคาดได้หรืออยู่ในฐานะจะคาดได้ว่า การที่ตนกระทำผิดจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้วก็ต้องรับผิดในค่าเสียหายนั้นตามมาตรา 222
ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอันเป็นค่าขาดผลกำไร ศาลเห็นสมควรจะให้คิดตั้งแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายทรัพย์สินที่มีข้อจำกัดในการโอน และความรับผิดในสัญญา
ทำสัญญาขายทรัพย์ซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของ แล้วทำการโอนไม่ได้เพราะเจ้าของอีกคนหนึ่งคัดค้านนั้น ไม่ทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากความรับผิดในฐานผิดสัญญา
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญา ซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่ว ๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้ว ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร ตาม ป.พ.พ.มาตรา 383 ได้
การคืนเงินในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญา ซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่ว ๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้ว ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควร ตาม ป.พ.พ.มาตรา 383 ได้
การคืนเงินในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายทรัพย์สินที่มีข้อจำกัดในการโอน และการกำหนดค่าปรับที่สมเหตุสมผล
ทำสัญญาขายทรัพย์ซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของ แล้วทำการโอนไม่ได้เพราะ เจ้าของอีกคนหนึ่งคัดค้านนั้น ไม่ทำให้ผู้ขายหลุดพ้นจากความรับผิดในฐานผิดสัญญา
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่วๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้วศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้
การคืนเงินมัดจำในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
เบี้ยปรับฐานผิดสัญญาซึ่งคู่ความตกลงกันไว้ในสัญญา เมื่อศาลได้พิจารณาข้อสัญญาประกอบด้วยเหตุผลทั่วๆ ไปที่ปรากฏตามทางพิจารณาแล้วศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามจำนวนที่เห็นสมควรตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ได้
การคืนเงินมัดจำในกรณีเลิกสัญญา ไม่ใช่คิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่านาแม้ทำนาไม่ได้ก็ยังต้องจ่าย เหตุผลหลักคือการส่งมอบที่นาแล้ว ผู้เช่าช่วงทำไม่ได้ไม่ใช่เหตุพ้นวิสัย
ในเรื่องเช่านา การที่น้ำท่วมทำนาไม่ได้นั้น ไม่นับว่าการชำระหนี้ตามสัญญาเช่าเป็นการพ้นวิสัย
เช่านาไปให้เช่าช่วงแม้น้ำท่วมทำนาไม่ได้ ผู้เช่าก็ยังคงต้องรับผิดชำระค่าเช่านอกจากจะมีข้อสัญญาเป็นอย่างอื่น
เช่านาไปให้เช่าช่วงแม้น้ำท่วมทำนาไม่ได้ ผู้เช่าก็ยังคงต้องรับผิดชำระค่าเช่านอกจากจะมีข้อสัญญาเป็นอย่างอื่น