คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 264

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 229 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองชั่วคราวในคดีตั้งผู้จัดการมรดก ต้องมีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์มรดกโดยตรง
ในคดีขอตั้งผู้จัดการมรดกที่มีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดกนั้นประโยชน์ของผู้ร้องและผู้คัดค้านอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้นไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกของผู้ตายการที่ผู้คัดค้านขอคุ้มครองชั่วคราวในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาประโยชน์ในทรัพย์มรดกจึงไม่อยู่ในกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2820/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอคุ้มครองชั่วคราวในคดีตั้งผู้จัดการมรดก ประเด็นอยู่ที่การเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ใช่การแบ่งทรัพย์สิน
ในคดีขอตั้งผู้จัดการมรดกที่มีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่า ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ประโยชน์ของผู้ร้องและผู้คัดค้านอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกของผู้ตายการที่ผู้คัดค้านขอคุ้มครองชั่วคราวในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาประโยชน์ในทรัพย์มรดกจึงไม่อยู่ในกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องทำให้ฎีกาคดีคุ้มครองชั่วคราวสิ้นผลบังคับ
เมื่อโจทก์ได้ขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้วฎีกาในชั้นการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาซึ่งเป็นคดีสาขาเป็นอันสิ้นผลบังคับไปโดยปริยายคดีไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องทำให้ฎีกาคดีคุ้มครองชั่วคราวเป็นอันสิ้นผล
เมื่อโจทก์ได้ขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว ฎีกาในชั้นการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาซึ่งเป็นคดีสาขาเป็นอันสิ้นผลบังคับไปโดยปริยาย คดีไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการอุทธรณ์หนี้จำนอง: การบังคับคดีเกินกว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์เพียงแต่อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่ 5 รับผิดในหนี้ที่เหลือซึ่งเป็นหนี้สามัญ นอกเหนือไปจากหนี้จำนองที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 5 รับผิดในวงเงินต้น 2,000,000 บาท เท่านั้น โจทก์หาได้อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่ 5รับผิดในหนี้จำนองเพิ่มขึ้นไม่ ดังนั้น หากโจทก์ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์แล้ว ก็ไม่อาจบังคับจำนองได้มากไปกว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 5 รับผิดในหนี้จำนองจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการไถ่ถอนทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 5 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากการจำนองและการจำกัดสิทธิในการไถ่ถอนทรัพย์สินจำนองเมื่อมีการอุทธรณ์
โจทก์เพียงแต่อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่5รับผิดในหนี้ที่เหลือซึ่งเป็นหนี้สามัญนอกเหนือไปจากหนี้จำนองที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่5รับผิดในวงเงินต้น2,000,000บาทเท่านั้นโจทก์หาได้อุทธรณ์ขอให้จำเลยที่5รับผิดในหนี้จำนองเพิ่มขึ้นไม่ดังนั้นหากโจทก์ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์แล้วก็ไม่อาจบังคับจำนองได้มากไปกว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่5รับผิดในหนี้จำนองจึงไม่มีเหตุที่จะให้งดการไถ่ถอนทรัพย์จำนองของจำเลยที่5ไว้ในระหว่างอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7071/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิออกเสียงในหุ้นพิพาท: คำร้องคุ้มครองชั่วคราวไม่เกี่ยวกับการพิพาททรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองคืนหุ้นที่ซื้อไปแก่โจทก์ประเด็นแห่งคดีจึงมีว่าจำเลยทั้งสองจะต้องคืนหุ้นพิพาทที่ซื้อไปให้แก่โจทก์หรือไม่ที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้งสองใช้สิทธิออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นพิพาทคำร้องโจทก์จึงไม่เกี่ยวกับการพิพาทด้วยทรัพย์สิน สิทธิ หรือประโยชน์ตามประเด็นแห่งคดีที่จะได้รับความคุ้มครอง โจทก์จึงขอให้ห้ามจำเลยทั้งสองใช้สิทธิในหุ้นพิพาทออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7071/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวไม่เกี่ยวกับการพิพาทสิทธิในหุ้น
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองคืนหุ้นที่ซื้อไปแก่โจทก์ประเด็นแห่งคดีจึงมีว่าจำเลยทั้งสองจะต้องคืนหุ้นพิพาทที่ซื้อไปให้แก่โจทก์หรือไม่ที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้งสองใช้สิทธิออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นพิพาทคำร้องโจทก์จึงไม่เกี่ยวกับการพิพาทด้วยทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์ตามประเด็นแห่งคดีที่จะได้รับความคุ้มครองโจทก์จึงขอให้ห้ามจำเลยทั้งสองใช้สิทธิในหุ้นพิพาทออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6920/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดีต้องเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทโดยตรง หากไม่เกี่ยวก็ไม่สามารถคุ้มครองได้
การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264นั้นคู่ความฝ่ายใดจะร้องขอก็ได้แต่จะต้องเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องขอเพื่อให้ทรัพย์สินสิทธิหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่พิพาทกันในคดีนั้นได้รับความคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะได้มีคำพิพากษาหรือเพื่อความสะดวกในการบังคับคดีตามคำพิพากษา โจทก์และจำเลยทั้งสองพิพากษากันเกี่ยวกับหุ้นโดยโจทก์อ้างว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยไม่ชอบจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์ไว้โดยชอบจำเลยทั้งสองมิได้ฟ้องแย้งเรียกเงินปันผลของหุ้นพิพาทมาด้วยซึ่งผลของคดีถ้าจำเลยทั้งสองเป็นฝ่ายชนะศาลก็เพียงแต่พิพากษายกฟ้องโจทก์ไปตามคำขอท้ายคำให้การของจำเลยทั้งสองเท่านั้นไม่มีผลบังคับไปถึงเงินปันผลอันเป็นผลประโยชน์ของหุ้นพิพาทตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอคุ้มครองได้คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6920/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดีต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นที่พิพาทจริง คดีนี้พิพาทเรื่องหุ้น ไม่ใช่เงินปันผล
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองซื้อหุ้นของโจทก์โดยไม่ชอบขอให้จำเลยทั้งสองคืนหุ้นและใบหุ้นที่ซื้อไว้โดยไม่ชอบให้ตัดสิทธิจองซื้อหุ้นใหม่โดยอาศัยหุ้นดังกล่าวและรับเงินค่าหุ้นนั้นคืนไปจากโจทก์จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าซื้อหุ้นไว้โดยชอบโดยมิได้ฟ้องแย้งเรียกเงินปันผลของหุ้นดังนี้คำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยทั้งสองโดยขอให้โจทก์นำเงินปันผลของหุ้นดังกล่าวมาชำระให้แก่จำเลยทั้งสองพร้อมดอกเบี้ยจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา264
of 23