คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 5

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริต โจทก์ซื้อรู้ว่าจำเลยซื้อก่อน ย่อมฟ้องขับไล่ไม่ได้
โจทก์ซื้อและจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวพิพาทจาก ช. โดยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้ซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทไว้ก่อนเป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริต โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวพิพาทไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ซื้อก่อน ย่อมเป็นสิทธิไม่สุจริต ไม่สามารถฟ้องขับไล่ได้
เมื่อโจทก์ซื้อและจดทะเบียนรับโอนที่ดินและตึกแถวพิพาทมาจาก ช.โดยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้ซื้อที่ดินและตึกแถวนั้นจาก ช. ไว้ก่อนแล้ว โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้เพราะเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ส่วนข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าจำเลยมิได้ฟ้องแย้งขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนระหว่างโจทก์กับ ช.นิติกรรมดังกล่าวย่อมสมบูรณ์อยู่ตลอดไปโจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยได้นั้น ก็ฟังไม่ขึ้นเพราะ ช. มิได้เป็นโจทก์ในคดีนี้อันจำเลยจะฟ้องแย้งได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินมรดก: การอ้างพินัยกรรมและการครอบครองเพื่อประโยชน์ตนเอง
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาท ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลย แต่เมื่อจำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าเดิมที่พิพาทเป็นของบิดามารดาโจทก์จำเลย และตกทอดเป็นมรดกที่โจทก์และจำเลยครอบครองร่วมกัน ขอให้แบ่งแก่จำเลยครึ่งหนึ่งโจทก์จึงอ้างในคำให้การแก้ฟ้องแย้งว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยบิดาทำพินัยกรรมยกให้ ก่อนบิดาตายได้ยกสิทธิครอบครองให้โจทก์ โจทก์แจ้งการครอบครองที่พิพาทจนได้รับ ส.ค. 1เป็นหลักฐานนั้นเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่โจทก์มีอำนาจกระทำได้หาใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตแต่ประการใดไม่และการที่ศาลอุทธรณ์รับฟังพินัยกรรมดังกล่าว ก็มิใช่เป็นการรับฟังว่าพินัยกรรมมีผลบังคับในฐานะเป็นพินัยกรรม แต่เป็นการรับฟังประกอบพฤติการณ์ที่โจทก์ได้สิทธิครอบครองในที่พิพาทมาก่อนบิดาผู้ทำพินัยกรรมตาย อันเป็นเหตุให้โจทก์ไปทำ ส.ค.1 ไว้เท่านั้น จึงไม่เป็นการรับฟังพยานหลักฐานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3648/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จนายหน้า: สัญญาสำเร็จผล แม้ไม่มีโอนกรรมสิทธิ์ การเลิกสัญญายังต้องชำระ
โจทก์เป็นนายหน้าติดต่อขายที่ดินให้จำเลยที่ 1 สัญญาจะซื้อขายระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จแก่โจทก์ตามสัญญา การที่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์กันระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ก็เนื่องจากบริษัท น. และจำเลยที่ 1 ตกลงเลิกสัญญากัน ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นความรับผิดใช้ค่าบำเหน็จนายหน้าแก่โจทก์
ข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ระบุไว้ความว่า จำเลยที่ 1 จะจ่ายค่านายหน้าในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันนั้น ไม่ใช่เงื่อนไขเพราะเงื่อนไขต้องเป็นเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นในอนาคตและไม่แน่นอน ถ้าผู้ซื้อและจำเลยที่ 1 ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเป็นอย่างอื่น หรือไม่เลิกสัญญากันก็ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างแน่นอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3648/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญานายหน้ามีผลผูกพันแม้ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ หากการเลิกสัญญาไม่กระทบสิทธิเรียกร้องค่านายหน้า
โจทก์เป็นนายหน้าติดต่อขายที่ดินให้จำเลยที่1สัญญาจะซื้อขายระหว่างบริษัทน.กับจำเลยที่1ได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องจำเลยที่1จึงต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จแก่โจทก์ตามสัญญาการที่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์กันระหว่างบริษัทน.กับจำเลยที่1ก็เนื่องจากบริษัทน.และจำเลยที่1ตกลงเลิกสัญญากันไม่ทำให้จำเลยที่1หลุดพ้นความรับผิดใช้ค่าบำเหน็จนายหน้าแก่โจทก์ ข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ระบุไว้ความว่าจำเลยที่1จะจ่ายค่านายหน้าในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันนั้นไม่ใช่เงื่อนไขเพราะเงื่อนไขต้องเป็นเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นในอนาคตและไม่แน่นอนถ้าผู้ซื้อและจำเลยที่1ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเป็นอย่างอื่นหรือไม่เลิกสัญญากันก็ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างแน่นอน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3648/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญานายหน้ามีผลผูกพันแม้ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ หากการเลิกสัญญาไม่กระทบสิทธิเรียกร้องค่านายหน้า
โจทก์เป็นนายหน้าติดต่อขายที่ดินให้จำเลยที่ 1 สัญญาจะซื้อขายระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ชี้ช่องจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จแก่โจทก์ตามสัญญา การที่ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์กันระหว่างบริษัท น. กับจำเลยที่ 1 ก็เนื่องจากบริษัท น. และจำเลยที่ 1 ตกลงเลิกสัญญากัน ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 หลุดพ้นความรับผิดใช้ค่าบำเหน็จนายหน้าแก่โจทก์
ข้อความในสัญญาจะซื้อขายที่ระบุไว้ความว่า จำเลยที่ 1จะจ่ายค่านายหน้าในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันนั้น ไม่ใช่เงื่อนไขเพราะเงื่อนไขต้องเป็นเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นในอนาคตและไม่แน่นอน ถ้าผู้ซื้อและจำเลยที่ 1 ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาเป็นอย่างอื่น หรือไม่เลิกสัญญากันก็ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่ซื้อขายกันตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างแน่นอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์โดยสำคัญผิด และสิทธิในการอายัดรถยนต์ของผู้สุจริต
ก่อนนำนิติกรรมแลกเปลี่ยนรถยนต์ จำเลยได้ตรวจสอบหลักฐานรถยนต์ที่มีผู้นำมาขอแลกว่า หมายเลขเครื่องในตัวถังรถยนต์ตรงกับในทะเบียนรถยนต์ และรูปถ่ายในบัตรประจำตัวประชาชนที่ผู้ขอแลกนำมาแสดงก็ตรงกับผู้ขอแลกซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของรถไม่ปรากฏว่าทะเบียนรถมีพิรุธว่าเป็นของปลอม หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ขอแลกไม่ใช่เจ้าของรถ แม้จำเลยจะไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียนยังกองทะเบียน กรมตำรวจ ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทำนิติกรรมแลกเปลี่ยนรถยนต์โดยสำคัญผิด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ไม่ต้องห้ามในอันที่จะยกเอาความไม่สมบูรณ์หรือโมฆะกรรมนั้นมาใช้ประโยชน์แก่ตน จำเลยย่อมมีสิทธิอายัดรถยนต์พิพาทหรือทะเบียนรถยนต์พิพาทได้ เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต จำเลยไม่ต้องรับผิดในการขออายัดดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสุจริตในการทำนิติกรรมแลกเปลี่ยนรถยนต์ และสิทธิในการอายัดทรัพย์
ก่อนทำนิติกรรมแลกเปลี่ยนรถยนต์จำเลยได้ตรวจสอบหลักฐานรถยนต์ที่มีผุ้นำมาขอแลกว่าหมายเลขเครื่องในตัวถังรถยนต์ตรงกับในทะเบียนรถยนต์และรูปถ่ายในบัตรประจำตัวประชาชนที่ผู้ขอแลกนำมาแสดงก็ตรงกับผู้ขอแลกซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของรถไม่ปรากฏว่าทะเบียนมีพิรุธว่าเป็นของปลอมหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ขอแลกไม่ใช่เจ้าของรถแม้จำเลยจะไม่ได้ตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียนยังกองทะเบียนกรมตำรวจก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทำนิติกรรมแลกเปลี่ยนรถยนต์โดยสำคัญผิดด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่ต้องห้ามในอันที่จะยกเอาความไม่สมบูรณ์หรือโมฆะกรรมนั้นมาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนจำเลยย่อมมีสิทธิอายัดรถยนต์พิพาทหรือทะเบียนรถยนต์พิพาทได้เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตจำเลยไม่ต้องรับผิดในการขออายัดดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3092/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการคืนเงินค่าก่อสร้าง การยอมรับเงินค่าก่อสร้างหลังฟ้องคดีถือเป็นการตกลงเลิกสัญญา
โจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากจำเลยโดยยอมชำระเงินค่าก่อสร้างให้จำเลยเป็นการตอบแทนที่จำเลยยอมให้เช่าห้องพิพาทต่อมาจำเลยได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังโจทก์และได้ออกเช็ค2ฉบับกับตั๋วแลกเงิน1ฉบับเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินค่าก่อสร้างคืนให้โจทก์แสดงว่าจำเลยประสงค์แต่จะเลิกสัญญากับโจทก์เท่านั้นโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญาจึงได้ยอมคืนเงินค่าก่อสร้างแก่โจทก์ทั้งหมดปรากฏว่าโจทก์ไม่ยอมรับเช็คและตั๋วแลกเงินดังกล่าวจำเลยจึงต้องมีหนังสือยืนยันและคืนเช็คพร้อมตั๋วแลกเงินให้โจทก์อีกแม้ต่อมาโจทก์ยอมรับตั๋วแลกเงินและเช็คไว้ก็ตามแต่โจทก์ก็มิได้นำไปขึ้นเงินจึงเป็นการบอกเลิกสัญญาของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใดภายหลังโจทก์จึงนำตั๋วแลกเงินและเช็ค2ฉบับของจำเลยไปขึ้นเงินแต่ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้เพราะเช็คขาดอายุความแสดงว่าโจทก์ตกลงเลิกสัญญากับจำเลยแล้วและยินดีรับเงินค่าก่อสร้างที่จำเลยคืนให้ซึ่งเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้เช่าห้องพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตสัญญาเช่าห้องพิพาทเป็นอันระงับจำเลยจึงต้องชำระเงินที่ค้างอยู่ให้แก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3092/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาเช่าและการคืนเงินค่าก่อสร้าง สัญญาเช่าระงับเมื่อยินยอมรับเงินคืน
โจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากจำเลย โดยยอมชำระเงินค่าก่อสร้างให้จำเลยเป็นการตอบแทนที่จำเลยยอมให้เช่าห้องพิพาท ต่อมาจำเลยได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังโจทก์และได้ออกเช็ค 2 ฉบับกับตั๋วแลกเงิน 1 ฉบับ เป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินค่าก่อสร้างคืนให้โจทก์ แสดงว่าจำเลยประสงค์แต่จะเลิกสัญญากับโจทก์เท่านั้น โดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จึงได้ยอมคืนเงินค่าก่อสร้างแก่โจทก์ทั้งหมดปรากฏว่าโจทก์ไม่ยอมรับเช็คและตั๋วแลกเงินดังกล่าว จำเลยจึงต้องมีหนังสือยืนยันและคืนเช็คพร้อมตั๋วแลกเงินให้โจทก์อีก แม้ต่อมาโจทก์ยอมรับตั๋วแลกเงินและเช็คไว้ก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้นำไปขึ้นเงิน จึงเป็นการบอกเลิกสัญญาของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด ภายหลังโจทก์จึงนำตั๋วแลกเงินและเช็ค 2 ฉบับของจำเลยไปขึ้นเงิน แต่ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้เพราะเช็คขาดอายุความ แสดงว่าโจทก์ตกลงเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว และยินดีรับเงินค่าก่อสร้างที่จำเลยคืนให้ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้เช่าห้องพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต สัญญาเช่าห้องพิพาทเป็นอันระงับ จำเลยจึงต้องชำระเงินที่ค้างอยู่ให้แก่โจทก์
of 81