คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 5

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินด้วยเจตนาทุจริตและผลกระทบต่อผู้รับโอนโดยสุจริต
พฤติการณ์ที่แสดงถึงความไม่สุจริต
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนขายที่ดินของโจทก์ ซึ่งมีผู้ปลอมลายมือชื่อของโจทก์ไปทำการโอนขาย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ไม่สุจริต โจทก์จะอ้างเอาความไม่สุจริตของโจทก์มาขอให้เพิกถอนการโอนจากจำเลยผู้ที่รับโอนที่พิพาทนั้นไว้โดยสุจริตและโดยเสียค่าตอบแทนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สุจริตของผู้ฟ้องร้องและการโอนทรัพย์สินโดยสุจริต ผู้รับโอนย่อมได้รับความคุ้มครอง
พฤติการณ์ที่แสดงถึงความไม่สุจริต
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนขายที่ดินของโจทก์ ซึ่งมีผู้ปลอมลายมือชื่อของโจทก์ไปทำการโอนขาย เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ไม่สุจริต โจทก์จะอ้างเอาความไม่สุจริตของโจทก์มาขอให้เพิกถอนการโอนจากจำเลยผู้ที่รับโอนที่พิพาทนั้นไว้โดยสุจริต และโดยเสียค่าตอบแทนหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากละเมิดและการหมดอายุความค่าเสียหายจากการยินยอมให้ผู้อื่นบุกรุก
โจทก์บรรยายข้อเรียกร้องมาในฟ้อง ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากจำเลยที่ 2 ละเมิดอยู่ในบ้านพิพาทของโจทก์ โดยความยินยอมของจำเลยที่ 1 โดยไม่มีสิทธิจะอ้างได้ตามกฎหมายในคำฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา โดยบรรยายข้อเท็จจริงเข้ามาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นโดยละเอียดพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดี ฟ้องของโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
จำเลยที่ 1 เลิกสัญญาเช่ากับโจทก์แล้ว การที่จำเลยที่ 2 ครอบครองบ้านพิพาทต่อไปภายหลังเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมด้วย จำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ การที่โจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 หาเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตไม่
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 ฐานจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยที่ 2 ละเมิดอยู่บ้านพิพาทโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้เพียง 1 ปี ส่วนค่าเสียหายที่เกินกว่า 1 ปี ขาดอายุความ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเก็บจากจำเลยที่ 1(อ้างฎีกาที่ 1273/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการยินยอมให้ผู้อื่นบุกรุก และอายุความค่าเสียหาย
โจทก์บรรยายข้อเรียกร้องมาในฟ้อง ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากจำเลยที่ 2 ละเมิดอยู่ในบ้านพิพาทของโจทก์โดยความยินยอมของจำเลยที่ 1 โดยไม่มีสิทธิจะอ้างได้ตามกฎหมาย ในคำฟ้องของโจทก์ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาโดยบรรยายข้อเท็จจริงเข้ามาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น โดยละเอียดพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดี ฟ้องของโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
จำเลยที่ 1 เลิกสัญญาเช่ากับโจทก์แล้ว การที่จำเลยที่ 2 ครอบครองบ้านพิพาทต่อไปภายหลังเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์โดยจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมด้วย จำเลยที่ 1 ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ การที่โจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 หาเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตไม่
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 ฐานจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมให้จำเลยที่ 2 ละเมิดอยู่บ้านพิพาท โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้เพียง 1 ปี ส่วนค่าเสียหายที่เกินกว่า 1 ปีขาดอายุความ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเก็บจากจำเลยที่ 1 (อ้างฎีกาที่ 1273/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินก่อนสัญญาประนีประนอม: สิทธิผู้ซื้อเดิมดีกว่าผู้รับโอนจากสัญญายอมความ
การที่จำเลยที่ 1-2 ซึ่งเป็นสามีภริยากัน ยินยอมทำสัญญาขายที่พิพาทให้โจทก์ โดยโจทก์ได้วางมัดจำไว้แล้ว แต่ต่อมาจำเลยที่ 1-2 กลับทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลยกที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ถึง 5 บุตรของตนเสีย ย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 1-2 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ และเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต โจทก์ซึ่งได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกับจำเลยที่ 1-2 ไว้ก่อนที่จะได้มีการทำสัญญายอมความนั้น จึงอยู่ในฐานะที่จะได้รับโอนที่พิพาทดีกว่าจำเลยที่ 3 ถึง 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายก่อนสัญญาประนีประนอม: โจทก์มีสิทธิเหนือผู้รับโอนจากสัญญาประนีประนอม
การที่จำเลยที่ 1,2 ซึ่งเป็นสามีภริยากันยินยอมทำสัญญาขายที่พิพาทให้โจทก์โดยโจทก์ได้วางมัดจำไว้แล้วแต่ต่อมาจำเลยที่ 1,2 กลับทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลยกที่พิพาทให้จำเลยที่ 3 ถึง 5 บุตรของตนเสียย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 1,2 ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ และเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต โจทก์ซึ่งได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทกับจำเลยที่ 1,2 ไว้ก่อนที่จะได้มีการทำสัญญายอมความนั้น จึงอยู่ในฐานที่จะได้รับโอนที่พิพาทดีกว่าจำเลยที่ 3 ถึง 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231-232/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกัน - การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับประกัน - การถอนสัญญาค้ำประกัน
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบเพราะมิได้ให้การว่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายด้วยเหตุอย่างไร
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้ว แต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้น แล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหาย เช่นนี้ถือว่า บริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหาย ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231-232/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกัน: สิทธิของผู้ค้ำประกันเมื่อเจ้าหนี้ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และประเด็นหนังสือมอบอำนาจ
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบ เพราะมิได้ให้การว่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายด้วยเหตุอย่างไร
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้วแต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้นแล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหายเช่นนี้ถือว่าบริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหายผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์และผลของการโอนสิทธิโดยไม่สุจริต
จำเลยครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยมากว่า 10 ปีจำเลยจึงเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
โจทก์รับโอนที่พิพาทมาโดยมิได้เสียค่าตอบแทนและการโอนรับมรดกของโจทก์มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าโจทก์ได้กระทำไปโดยไม่สุจริตถึงแม้โจทก์จะได้รับ โอนมาทางทะเบียนโจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท
ข้อที่จำเลยขอให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์นั้นเป็นเรื่องพิมพ์ผิดพลาดเมื่ออ่านคำให้การของจำเลยโดยตลอดแล้วถือได้ว่าจำเลยขอให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาต่างตอบแทนที่ไม่ได้จดทะเบียน ไม่ผูกพันบุคคลภายนอก ผู้ซื้อที่ดินมีสิทธิขับไล่
สัญญาที่มีข้อตกลงว่าฝ่ายเจ้าของที่ดินเป็นผู้ออกทุนทรัพย์ซื้อพืชต้นผลไม้ต่างๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายออกแรงทำการปลูกสร้างลงในที่ดินและบำรุงรักษา เมื่อเป็นผลซื้อขายได้มาก็ให้แบ่งกันคนละครึ่งเท่าๆ กันจนตลอดชีวิตทั้งสองฝ่ายเช่นนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนอย่างหนึ่ง แต่เมื่อไม่ได้จดทะเบียนก็ก่อให้เกิดเพียงบุคคลสิทธิมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีผู้เป็นฝ่ายเท่านั้นจะใช้ยันบุคคลภายนอกผู้ซื้อที่ดินนั้นไม่ได้แม้ว่าผู้ซื้อจะได้ทราบว่ามีข้อตกลงเช่นนั้นอยู่ก็ตาม ในเมื่อผู้ซื้อมิได้ยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นด้วย
ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิตามกฎหมายฟ้องขับไล่ฝ่ายที่ออกแรงดังกล่าวนั้นได้ จะถือว่าผู้ซื้อใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้
กรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายออกแรงมีสิทธิครอบครองเพราะจำเลยมิได้ยึดถือเพื่อตนจึงไม่ใช่สิทธิครอบครองที่จะนำมาใช้ยันโจทก์ผู้ซื้อได้
of 81