คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 5

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 810 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ไร้ผลผูกพันและการฟ้องเรียกคืนทรัพย์สิน โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผัน ปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่า ๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ ผู้ขายฟ้องเรียกคืนโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง ศาลยกฟ้อง
แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปีก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผันปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่าๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยคนต่างด้าวผ่านคนไทย และการบังคับตามคำชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คนต่างด้าวร่วมออกเงินซื้อที่ดินเป็นเจ้าของร่วมกันโดยให้คนไทยลงชื่อเป็นผู้ซื้อแทน แล้วให้คนไทยนั้นทำหนังสือมอบอำนาจให้คนต่างด้าวผู้ซื้อคนหนึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจดูแล ภายหลังคนต่างด้าวผู้ซื้อตกลงแบ่งแยกที่ดินกันไม่ได้จึงตั้งคนกลางชี้ขาด คนกลางชี้ขาดแล้วแต่คนต่างด้าวผู้ครอบครองที่ดินไม่ยอมมอบที่ดินให้ ดังนี้ คนต่างด้าวอีกคนหนึ่งจะฟ้องศาลขอให้ศาลบังคับให้แบ่งที่ดินให้แก่ตนตามคำชี้ขาดของคนกลางนั้น ถือว่าเป็นการบังคับในทางให้โจทก์ได้ที่ดินอันเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว โจทก์จะมาฟ้องขอรับผลในทางฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้ ศาลไม่บังคับให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวซื้อที่ดินโดยอ้อมหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ดิน ศาลไม่บังคับตามสัญญาประนีประนอม
คนต่างด้าวร่วมออกเงินซื้อที่ดินเป็นเจ้าของร่วมกันโดยให้คนไทยลงชื่อเป็นผู้ซื้อแทนแล้ว ให้คนไทยนั้นทำหนังสือมอบอำนาจให้คนต่างด้าวผู้ซื้อคนหนึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจดูแล ภายหลังคนต่างด้าวผู้ซื้อตกลง แบ่งแยกที่ดินกันไม่ได้ จึงตั้นคนกลางชี้ขาด คนกลางชี้ขาดแล้ว แต่คนต่างด้าวผู้ครอบครองที่ดินไม่ยอมมอบที่ดินให้ ดังนี้ คนต่างด้าวอีกคนหนึ่งจะฟ้องศาลขอให้ศาลบังคับให้แบ่งที่ดินให้แก่ตนตามคำชี้ขาดของคนกลางนั้นถือ ว่าเป็นการบังคับในทางให้โจทก์ได้ที่ดินอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว โจทก์จะมาฟ้องขอรับผลในทางฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้ศาลไม่บังคับให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและผลกระทบต่อสิทธิในที่ดินส่วนของผู้อื่น
มารดาเอาที่ดินที่ตนและบุตรเป็นเจ้าของร่วมกันไปขอทำสัญญาขายให้แก่ผู้อื่น ทางอำเภอจึงประกาศโฆษณาการขาย บุตรจึงไปร้องคัดค้านจนทางอำเภอสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายไว้ ผู้จะซื้อจึงเลี่ยงมาขออำนาจศาล ฟ้องมารดาให้โอนขายที่นั้นตามสัญญา แล้วทำยอมกัน ศาลพิพากษาให้โอนขายกันตามยอม แล้วแจ้งให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าผู้ซื้อใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ซื้อจะเถียงว่าตนรับซื้อไว้โดยสุจริตควรได้สิทธิทางทะเบียนหาได้ไม่ นิติกรรมซื้อขายนั้นย่อมไม่ผูกพันที่ดินส่วนของบุตรด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1961/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม และการใช้สิทธิไม่สุจริตของผู้ซื้อ
มารดาเอาที่ดินที่ตนและบุตรเป็นเจ้าของร่วมกันไปขอทำสัญญาขายให้แก่ผู้อื่น ทางอำเภอจึงประกาศโฆษณา การขาย บุตรจึงไปร้องคัดค้านจนทางอำเภอสั่งระงับการทำสัญญาซื้อขายไว้ผู้จะซื้อจึงเลี่ยงมาขออำนาจศาล ฟ้องมารดาให้โอนขายที่นั้นตามสัญญา แล้วทำยอมกัน ศาลพิพากษาให้โอนขายกันตามยอม แล้วแจ้งให้อำเภอทำสัญญาซื้อขายให้ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าผู้ซื้อใช้สิทธิไม่สุจริต ผู้ซื้อจะเถียงว่าตนรับซื้อไว้โดยสุจริตควรได้สิทธิทางทะเบียนหาได้ไม่นิติกรรมซื้อขายนั้น ย่อมไม่ผูกพันที่ดินส่วนของบุตรด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าทำประโยชน์ที่ดินพิพาทระหว่างคดี: สิทธิบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์จำเลยต่างแย่งกันเป็นเจ้าของนาพิพาทจนคดีถึงศาล โดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าโจทก์เอาที่พิพาทตีชำระหนี้แก่จำเลยแต่โจทก์ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชะนะ จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทรายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าทำโดยมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลจังหวัดได้อยู่ในเวลานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้โจทก์ชะนะ และคดีถึงที่สุดเพียงนั้น ก็จะถือว่าการที่จำเลยเข้าทำนารายนี้เป็นการผิดกฎหมายอันจะประกอบให้เป็นการกระทำฐานละเมิดตาม ป.พ.พ.มาตรา 420 ไม่ได้ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยโดยอาศัยมูลละเมิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1143/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีและการกระทำละเมิด: แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับ การเข้าทำที่ดินภายใต้คำพิพากษาเดิมไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์จำเลยต่างแย่งกันเป็นเจ้าของนาพิพาทจนคดีถึงศาลโดยฝ่ายจำเลยอ้างว่าโจทก์เอาที่พิพาทตีชำระหนี้แก่จำเลยแต่โจทก์ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชนะ จำเลยจึงเข้าทำนำพิพาทรายนี้ ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าทำโดยมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลจังหวัดได้อยู่ในเวลานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์จะพิพากษากลับให้โจทก์ชนะ และคดีถึงที่สุดเพียงนั้น ก็จะถือว่าการที่จำเลยเข้าทำนารายนี้เป็นการผิดกฎหมายอันจะประกอบให้เป็นการกระทำฐานละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ไม่ได้ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยโดยอาศัยมูลละเมิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากที่ดินของบุตรโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ผู้รับซื้อฝากอ้างอายุความมิได้ คดีไม่ผูกพันบุตร
บิดาเอาที่ดิน (ไม่มีโฉนด) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้ จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้ และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีก เพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปีฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก (ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว) ขอให้ศาลขับไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์มาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดาเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายฝากที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ สัญญาไม่ผูกพันบุตร และการครอบครองปรปักษ์ที่ต้องเจตนาเป็นเจ้าของ
บิดาเอาที่ดิน ( ไม่มีโฉนด ) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน 10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีกเพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปี ฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
of 81