พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงถามแล้วไม่ปฏิเสธ ถือเป็นหนี้เด็ดขาด มีสิทธิบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี
หนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีหนังสือทวงหนี้และจำเลยมิได้ปฏิเสธหนี้ภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือได้ว่าจำเลยเป็นหนี้กองทรัพย์สินของเจ้าหนี้เป็นการเด็ดขาดและถือเสมือนว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาแล้วตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเสมือนหนึ่งว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดเวลาให้ปฏิเสธหนี้ อันถือเสมือนว่าเป็นวันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 มิใช่นับแต่วันที่ศาลออกคำบังคับ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในหนี้รายนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาการบังคับคดีแล้ว หนี้รายนี้จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8879/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองตามกฎหมายอาญา: การใช้กำลังเพื่อป้องกันภยันตรายใกล้จะถึงจากการประทุษร้าย
จำเลยพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับผู้ตาย เมื่อผู้ตายถือมีดเข้ามาท้าทาย จำเลยเพียงแต่ใช้มือผลักอกผู้ตายเท่านั้น การที่ผู้ตายยังเข้าไปหาจะใช้มีดฟันจำเลยอีก จำเลยจึงถีบผู้ตายและใช้มีดฟันผู้ตายไปเพียงครั้งเดียว แม้ผู้ตายจะมีอาการมึนเมาสุรา แต่ตามลักษณะอาการของผู้ตายแสดงว่ายังครองสติได้ การมึนเมาสุราดังกล่าวจะยกขึ้นมาเพื่อฟังให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้ พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยฟันผู้ตายเพื่อป้องกันตนเอง ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงและได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8576/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งกรรมสิทธิ์: ศาลชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งหากไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์และฟ้องแย้งขอให้โจทก์รังวัดแบ่งแยกที่ดินใส่ชื่อจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยประเมินราคาทุนทรัพย์ตามที่ฟ้องแย้งและเสียค่าขึ้นศาลภายใน 7 วัน ดังนี้เมื่อจำเลยฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยจำเลยจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องแย้ง จะอ้างว่าฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการขอให้ศาลพิพากษารับรองและคุ้มครองสิทธิของตนที่มีและได้มาแล้วโดยผลของกฎหมายมิได้ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้องแย้งภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยเสียได้