พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิขอรับรางวัลสลากแม้สลากสูญหาย เจ้าของสลากยังมีสิทธิรับเงินรางวัล แม้มีข้อความจำกัด
สลากกินแบ่งฉบับที่ถูกรางวัลนั้น แม้สลากจะสูญหายไปเสียเจ้าของที่แท้จริงก็ยังมีสิทธิขอรับรางวัลจากสำนักงานสลากกินแบ่งได้แม้ในสลากจะมีข้อความว่า'เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ' ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวม vs. สัญญาซื้อขาย: การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์และเงื่อนไขสัญญา
เจ้าของรวมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 นั้นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอันรวมกันอยู่ไม่ทราบว่าส่วนของใครเท่าไร ตรงไหนในทรัพย์นั้นๆ กฎหมายจึงให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมมีส่วนเท่ากัน
โฉนดที่ดินมีชื่อบุคคล 2 คนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ได้จดทะเบียนบรรยายส่วนของใครไว้ในโฉนดแล้วว่าของใครอยู่ตอนไหน เป็นจำนวนเนื้อที่เท่าไรชัดแจ้งแล้วเช่นนี้หาใช่เป็นเจ้าของรวมไม่
เงื่อนไขแห่งนิติกรรมนั้นหมายถึงเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตและ ไม่แน่นอน
สัญญาจะซื้อขายมีข้อตกลงกันว่าผู้ซื้อผู้ขายจะมาทำการโอนซื้อขายกันในวันมาทำการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินนั้น หาใช่เป็นเงื่อนไขไม่
แม้สัญญาจะซื้อขายที่ดินได้ กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาก็ดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 380 บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าหนี้เลือกเรียกเอาเบี้ยปรับหรือเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างหนึ่งอย่างใดได้ ฉะนั้นถ้าผู้ขายทำผิดสัญญาโดยไม่ยอมขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องผู้ขายขอให้ศาลบังคับให้โอนขายตามสัญญาได้(อ้างฎีกาที่ 131/2489)
โฉนดที่ดินมีชื่อบุคคล 2 คนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ได้จดทะเบียนบรรยายส่วนของใครไว้ในโฉนดแล้วว่าของใครอยู่ตอนไหน เป็นจำนวนเนื้อที่เท่าไรชัดแจ้งแล้วเช่นนี้หาใช่เป็นเจ้าของรวมไม่
เงื่อนไขแห่งนิติกรรมนั้นหมายถึงเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตและ ไม่แน่นอน
สัญญาจะซื้อขายมีข้อตกลงกันว่าผู้ซื้อผู้ขายจะมาทำการโอนซื้อขายกันในวันมาทำการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินนั้น หาใช่เป็นเงื่อนไขไม่
แม้สัญญาจะซื้อขายที่ดินได้ กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในเมื่อผู้ขายผิดสัญญาก็ดี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 380 บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าหนี้เลือกเรียกเอาเบี้ยปรับหรือเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้แต่อย่างหนึ่งอย่างใดได้ ฉะนั้นถ้าผู้ขายทำผิดสัญญาโดยไม่ยอมขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องผู้ขายขอให้ศาลบังคับให้โอนขายตามสัญญาได้(อ้างฎีกาที่ 131/2489)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขพินัยกรรม: การไม่ทราบเงื่อนไขของผู้รับ ไม่ทำให้การวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงตามความประสงค์ผู้ทำพินัยกรรม
เจ้าของพินัยกรรมผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรมว่า ให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ตามสัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรมฉบับนั้น แม้มารดาของผู้รับ และผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฏว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรมแล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรมกำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1781/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขพินัยกรรม: การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทำให้เสียสิทธิรับมรดก แม้ผู้รับไม่ทราบเงื่อนไข
เจ้าของพินัยกรรม์ผู้ให้ระบุเงื่อนไขไว้ในพินัยกรรม์ว่าให้มารดาของผู้รับเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม สัญญากลัดต่อท้ายพินัยกรรม์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทำพินัยกรรม์ฉะบับนั้น แม้มารดาของผู้รับและผู้รับจะไม่ทราบเงื่อนไขนี้ก็ตาม เมื่อปรากฎว่ามารดาของผู้รับมิได้เซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามที่กล่าวไว้ในพินัยกรรม์แล้ว ผู้รับก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับทรัพย์ตามที่พินัยกรรม์กำหนดไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาให้/หมั้นที่ยังไม่สมบูรณ์: ข้อกำหนดเรื่องการสมรสตามกฎหมายและการไม่เป็นไปตามเจตนาเดิม
พ่อแม่ฝ่ายชายทำสัญญายกที่นา 10 ไร่โดยแบ่งออกจากนาแปลงใหญ่ + ให้เป็นของหมั้นแก่หญิงต่อมาหญิงชายได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันที่บ้านชายไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน นาที่ยกให้ก็ยังไม่ได้มอบหมายให้กันอย่างแท้จริง ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่านา 10 ไร่นี้เป็นของหมั้นตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1436 หญิงจะฟ้องเรียกนา 10 ไร่นี้ในฐานเป็นของหมั้นไม่ได้ หากจะถือว่าเป็นสัญญาให้ที่มีการตอบแทน จุดประสงค์ของผู้ให้เพื่อให้คู่สมรสได้ใช้สรอยทำกินด้วยกันเป็นสำคัญ เมื่อหญิงกับชายไม่ได้สมรสกันโดยถูกต้องตาม ก.ม.แล้วและบัดนี้ยังแยกไม่ได้อยู่กินด้วยกันอีก ก็นับว่าไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ให้ จึงไม่มีเหตุที่หญิงจะเรียกร้องเอานานี้ได้ส
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของหมั้นยังไม่สมบูรณ์-สัญญาต่างตอบแทนไม่เป็นผลเมื่อไม่สมรส: สิทธิเรียกร้องที่นา
พ่อแม่ฝ่ายชายทำสัญญายกที่นา 10 ไร่ โดยแบ่งออกจากนาแปลงใหญ่มีโฉนดแล้วแต่ยังไม่ได้มอบหมายแบ่งแยกออกเป็นส่วนสัดให้เป็นของหมั้นแก่หญิง ต่อมาหญิงชายได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันที่บ้านชายไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน นาที่ยกให้ก็ยังไม่ได้มอบหมายให้กันอย่างแท้จริง ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่านา 10 ไร่นี้เป็นของหมั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1436 หญิงจะฟ้องเรียกนา 10 ไร่นี้ในฐานเป็นของหมั้นไม่ได้ หากจะถือว่าเป็นสัญญาให้ที่มีการตอบแทน จุดประสงค์ของผู้ให้ก็เพื่อให้คู่สมรสได้ใช้สร้อยทำกินด้วยกันเป็นสำคัญ เมื่อหญิงกับชายไม่ได้สมรสกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว และบัดนี้ยังแยกไม่ได้อยู่กินด้วยกันอีก ก็นับว่าไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ให้ จึงไม่มีเหตุที่หญิงจะเรียกร้องเอานานี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอน และผลกระทบต่อสิทธิเจ้าของเมื่อมีการโอนโดยไม่สุจริต
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียกร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอนสิทธิ - การโอนโดยไม่สุจริตไม่กระทบสิทธิเจ้าของร่วม
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้ หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่ และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายบุรณาการ - ฟ้องบังคับก่อนเงื่อนไขครบถ้วนเป็นอุปสรรค
มารดากับบุตรทำสัญญาจะขายทรัพย์มฤดกรายเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อ ถือว่า เป็นสัญญาไม่อาจแบ่งแยก ผู้ซื้อจะมาฟ้องบังคับผู้ขายคนใดคนหนึ่งมิได้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งมีเงื่อนไขว่า ฝ่ายผู้ขายจะไปขอโอนใส่ชื่อผู้ขาย เป็นเจ้าของแล้วจะโอนขายให้ผู้ซื้อใน 3 เดือนนั้น เมื่อผู้ขายยังไปโอนใส่ชื่อผู้ขายไม่ได้โดยมีอุปสรรคอยู่ หากผู้ซื้อมาฟ้องบังคับตามสัญญาจะซื้อขาย ดังนี้ ถือว่าผู้ซื้อมาฟ้องก่อนการเป็นไปตามเงื่อนไข
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งมีเงื่อนไขว่า ฝ่ายผู้ขายจะไปขอโอนใส่ชื่อผู้ขาย เป็นเจ้าของแล้วจะโอนขายให้ผู้ซื้อใน 3 เดือนนั้น เมื่อผู้ขายยังไปโอนใส่ชื่อผู้ขายไม่ได้โดยมีอุปสรรคอยู่ หากผู้ซื้อมาฟ้องบังคับตามสัญญาจะซื้อขาย ดังนี้ ถือว่าผู้ซื้อมาฟ้องก่อนการเป็นไปตามเงื่อนไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่อาจแบ่งแยก ฟ้องบังคับก่อนเงื่อนไขเป็นไปไม่ได้
มารดากับบุตรทำสัญญาจะขายทรัพย์มรดกรายเดียวกันให้แก่ผู้ซื้อ ถือว่า เป็นสัญญาไม่อาจแบ่งแยก ผู้ซื้อจะมาฟ้องบังคับผู้ขายคนใดคนหนึ่งมิได้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งมีเงื่อนไขว่า ฝ่ายผู้ขายจะไปขอโอนใส่ชื่อผู้ขายเป็นเจ้าของแล้วจะโอนขายให้ผู้ซื้อใน 3 เดือนนั้น เมื่อผู้ขายยังไปโอนใส่ชื่อผู้ขายไม่ได้โดยมีอุปสรรคอยู่ หากผู้ซื้อมาฟ้องบังคับตามสัญญาจะซื้อขาย ดังนี้ ถือว่าผู้ซื้อมาฟ้องก่อนการเป็นไปตามเงื่อนไข
สัญญาจะซื้อขายที่ดินซึ่งมีเงื่อนไขว่า ฝ่ายผู้ขายจะไปขอโอนใส่ชื่อผู้ขายเป็นเจ้าของแล้วจะโอนขายให้ผู้ซื้อใน 3 เดือนนั้น เมื่อผู้ขายยังไปโอนใส่ชื่อผู้ขายไม่ได้โดยมีอุปสรรคอยู่ หากผู้ซื้อมาฟ้องบังคับตามสัญญาจะซื้อขาย ดังนี้ ถือว่าผู้ซื้อมาฟ้องก่อนการเป็นไปตามเงื่อนไข