พบผลลัพธ์ทั้งหมด 637 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค่าเลี้ยงชีพหลังแยกทาง: สัญญาผูกพันโดยไม่ต้องจดทะเบียนเมื่อมีเจตนาชัดเจน
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์ไว้ มีความว่า จำเลยได้เสียเป็นสามีภริยากับโจทก์มาประมาณ 10ปี แต่มิได้จดทะเบียนสมรสบัดนี้จำเลยประสงค์จะแต่งงานใหม่กับหญิงอื่น แต่โดยคุณงามความดีที่มีไมตรีต่อกันมานาน จำเลยจึงตกลงจ่ายเงินค่าเลี้ยงชีพให้แก่โจทก์เดือนละ 300 บาท ตลอดเวลาที่โจทก์ยังไม่มีสามีใหม่ ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ขอให้โจทก์ฟ้องร้องต่อศาลหรือทางราชการกรมเจ้าสังกัดของจำเลยได้การแสดงเจตนาของจำเลย ดังนี้ มีลักษณะในทำนองที่จำเลยประสงค์จะมิให้เกิดข้อยุ่งยากขึ้นในระหว่างจำเลยกับโจทก์ในเมื่อจำเลยแต่งงานใหม่กับหญิงอื่น หาใช่การให้คำมั่นว่า จะให้ทรัพย์สินแก่โจทก์โดยเสน่หาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 526 ประกอบด้วยมาตรา 521 ไม่ จึงมิใช่กรณีที่จะต้องมีการจดทะเบียนสัญญาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้สัญญานี้มีผลบังคับ จำเลยมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงชีพให้โจทก์ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้ฟ้องคดีที่ส่งเสริมการขายทรัพย์สินตามพินัยกรรมแล้วกลับฟ้องคัดค้านการแบ่งเงิน
พระบรมราชโองการของพระมหากษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชมีผลเด็ดขาดเป็นกฎหมาย เมื่อมิได้มีพระบรมราชโองการของพระองค์ท่านเองหรืออำนาจเด็ดขาดอื่นใดยกเลิกเพิกถอนพระบรมราชโองการดังกล่าวก็ยังมีผลอยู่ กฎหมายทั่วไปในปัจจุบันหาลบล้างพระบรมราชโองการนั้นไม่
พินัยกรรมซึ่งพระมหากษัตริย์ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชได้มีพระบรมราชโองการสลักหลังให้ใช้ได้เหมือนพินัยกรรมที่ได้ทำถูกต้องตามพระราชกำหนดกฎหมาย ย่อมมีผลใช้บังคับให้เป็นไปตามข้อกำหนดในพินัยกรรมนั้นได้ตลอดมา ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่าพินัยกรรมนั้นจะมีข้อกำหนดที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ เพราะศาลจะพิพากษาให้ผิดไปจากพินัยกรรมนั้นไม่ได้
การที่โจทก์ได้ร่วมรู้เห็นยินยอมให้ผู้จัดการมรดกขายที่ดินตามพินัยกรรมเพื่อนำเงินมาแบ่งแก่ทายาท โดยโจทก์ยอมรับเอาเงินส่วนแบ่งเช่นเดียวกับทายาทอื่น และโจทก์เองเป็นผู้วิ่งเต้นขอปลดเปลื้องข้อกำหนดแห่งพินัยกรรมที่ห้ามขายที่ดินนั้นเพื่อรับประโยชน์ตอบแทนเป็นพิเศษนอกเหนือจากส่วนแบ่งและยังอาศัยเป็นเครื่องมือเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ซื้อที่ดินจนได้รับผลสมประสงค์ แล้วโจทก์กลับมาฟ้องขอให้ห้ามผู้จัดการมรดกแบ่งเงินแก่ทายาท แต่ให้นำเงินไปซื้อที่ดินอื่นแทนตามข้อกำหนดในพินัยกรรม เป็นการอาศัยศาลกลั่นแกล้งผู้จัดการมรดกและทายาทอื่นให้เดือดร้อนเสียหายถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
พินัยกรรมซึ่งพระมหากษัตริย์ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชได้มีพระบรมราชโองการสลักหลังให้ใช้ได้เหมือนพินัยกรรมที่ได้ทำถูกต้องตามพระราชกำหนดกฎหมาย ย่อมมีผลใช้บังคับให้เป็นไปตามข้อกำหนดในพินัยกรรมนั้นได้ตลอดมา ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาที่ว่าพินัยกรรมนั้นจะมีข้อกำหนดที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ เพราะศาลจะพิพากษาให้ผิดไปจากพินัยกรรมนั้นไม่ได้
การที่โจทก์ได้ร่วมรู้เห็นยินยอมให้ผู้จัดการมรดกขายที่ดินตามพินัยกรรมเพื่อนำเงินมาแบ่งแก่ทายาท โดยโจทก์ยอมรับเอาเงินส่วนแบ่งเช่นเดียวกับทายาทอื่น และโจทก์เองเป็นผู้วิ่งเต้นขอปลดเปลื้องข้อกำหนดแห่งพินัยกรรมที่ห้ามขายที่ดินนั้นเพื่อรับประโยชน์ตอบแทนเป็นพิเศษนอกเหนือจากส่วนแบ่งและยังอาศัยเป็นเครื่องมือเรียกร้องผลประโยชน์จากผู้ซื้อที่ดินจนได้รับผลสมประสงค์ แล้วโจทก์กลับมาฟ้องขอให้ห้ามผู้จัดการมรดกแบ่งเงินแก่ทายาท แต่ให้นำเงินไปซื้อที่ดินอื่นแทนตามข้อกำหนดในพินัยกรรม เป็นการอาศัยศาลกลั่นแกล้งผู้จัดการมรดกและทายาทอื่นให้เดือดร้อนเสียหายถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะของพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ทำโดยปลัดอำเภอ แต่ใช้ได้ในฐานะพินัยกรรมธรรมดา
การทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 บัญญัติให้กรมการอำเภอเป็นผู้ทำ ต่อมามีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 มาตรา 40 วรรคสามบัญญัติให้โอนอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกรมการอำเภอไปเป็นอำนาจและหน้าที่ของนายอำเภอ การทำพินัยกรรม เอกสารฝ่ายเมืองในปัจจุบันจึงตกเป็นอำนาจและหน้าที่ ของนายอำเภอ เป็นผู้ทำซึ่งถ้านายอำเภอไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามปกติก็ตกเป็นอำนาจและหน้าที่ของผู้รักษาราชการแทนตามมาตรา 42 การที่นายอำเภอมาปฏิบัติราชการอยู่ แต่ติดราชการจะไปท้องที่ จึงสั่งให้ปลัดอำเภอ ช่วยไปทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองแทนเพื่อให้งานเสร็จไปโดยเร็วนั้น ปลัดอำเภอผู้นั้นเป็นแต่เพียงผู้ทำงานแทนนายอำเภอ หาใช่เป็น ผู้รักษาราชการแทนนายอำเภอไม่ การทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง นั้นจึงเป็นการที่ทำไปโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1658 ตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา 1705 ไม่เป็นพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองแต่ เมื่อ พินัยกรรมนั้นเจ้ามรดกได้ทำต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน อนุโลมเข้าแบบพินัยกรรมธรรมดาตามมาตรา 1656 จึงสมบูรณ์ใช้ได้ เป็นพินัยกรรมแบบธรรมดาตามมาตรา 136
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้ระบุรับเงินแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิสืบพยานว่ายังไม่ได้ชำระเงินได้ หากมีการทำสัญญากำหนดชำระเงินภายหลัง
ตัวแทนของโจทก์ทำสัญญาขายที่ดินให้จำเลย ในสัญญาระบุไว้ด้วยว่าผู้ซื้อได้ชำระและผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินแล้วต่อมาตัวแทนโจทก์กับจำเลยได้ทำสัญญากันอีกฉบับหนึ่งมีใจความว่า ได้ตกลงขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลย แต่ยังไม่ได้ชำระราคาที่ดินต่อกันโดยผู้ขายยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อไปก่อนและผู้ซื้อจะชำระค่าที่ดินให้ภายในกำหนดวันที่ระบุไว้ ดังนี้ แม้ในสัญญาฉบับแรกจะได้ระบุไว้ว่าผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดินแล้ว โจทก์ก็ยังมีสิทธินำสืบได้ว่าได้มีการตกลงทำสัญญาอีกฉบับหนึ่งแก้ไขหนังสือสัญญาขายที่ดินเดิมในเรื่องเงินค่าที่ดินว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระให้และจะชำระกันอย่างไร ไม่เป็นการนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดิน: การแก้ไขสัญญาและการนำสืบข้อตกลงเพิ่มเติม โดยตัวแทนของผู้ขาย
ตัวแทนของผู้ขายได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินไว้กับผู้ซื้อฉบับหนึ่ง ระบุว่าผู้ขายได้รับค่าที่ดินแล้ว ต่อมาผู้ซื้อทำหนังสือสัญญาให้ตัวแทนผู้ขายอีกฉบับหนึ่งความว่า ผู้ซื้อยังไม่ได้ชำระค่าที่ดิน จะชำระให้ตามวันซึ่งกำหนดไว้ในหนังสือสัญญาฉบับหลังนี้ ประกอบกับผู้ขายได้ตั้งประเด็นไว้ในคำฟ้องว่า ผู้ซื้อยังไม่ได้ชำระราคาที่ดิน ดังนี้ ผู้ขายมีสิทธิที่จะนำสืบถึงข้อตกลงในหนังสือสัญญาฉบับหลังได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและพาณิชย์มาตรา 94
สัญญาฉบับหลังดังกล่าวนี้ถือได้ว่าตัวแทนทำในฐานะตัวแทนของผู้ขาย ถึงแม้ต่อมาตัวแทนถึงแก่กรรม ก็ไม่เป็นเหตุให้สัญญาสิ้นสุดลง หนังสือสัญญาฉบับหลังนี้ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ หรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สัญญาฉบับหลังดังกล่าวนี้ถือได้ว่าตัวแทนทำในฐานะตัวแทนของผู้ขาย ถึงแม้ต่อมาตัวแทนถึงแก่กรรม ก็ไม่เป็นเหตุให้สัญญาสิ้นสุดลง หนังสือสัญญาฉบับหลังนี้ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือ หรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การรู้ตัวผู้กระทำละเมิดและผู้รับผิดชอบเป็นสำคัญ
ปลัดจังหวัดสั่งอนุมัติให้ผู้ช่วยเสมียนตราจังหวัดยืมเงินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดไปใช้ในงานก่อสร้างของแผนกโยธาจังหวัดโดยผิดระเบียบวิธีการงบประมาณและการคลังส่วนจังหวัด เป็นเหตุให้ผู้ช่วยเสมียนตราจังหวัดยักยอกเอาเงินไปใช้ส่วนตัวถือได้ว่าปลัดจังหวัดและผู้ช่วยเสมียนตราจังหวัดร่วมกันกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายในอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
ผู้เสียหายรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแน่นอนแล้วการที่ผู้เสียหายมีหนังสือสอบถามไปว่าจะยอมชดใช้เงินหรือไม่ถ้ายอมใช้ก็ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และอาจมีผู้อื่นต้องร่วมรับผิดอีกก็ได้นั้นไม่เป็นข้อที่จะยกขึ้นมาขยายอายุความสิทธิเรียกร้องได้ ความที่ยังไม่รู้ตัวผู้ร่วมกระทำผิดด้วยหาอาจนำมาอ้างว่าไม่รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ไม่
ผู้เสียหายรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแน่นอนแล้วการที่ผู้เสียหายมีหนังสือสอบถามไปว่าจะยอมชดใช้เงินหรือไม่ถ้ายอมใช้ก็ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และอาจมีผู้อื่นต้องร่วมรับผิดอีกก็ได้นั้นไม่เป็นข้อที่จะยกขึ้นมาขยายอายุความสิทธิเรียกร้องได้ ความที่ยังไม่รู้ตัวผู้ร่วมกระทำผิดด้วยหาอาจนำมาอ้างว่าไม่รู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2323/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจรับเงินกู้: ตัวแทนกระทำภายในขอบอำนาจ ตัวการต้องรับผิด แม้ตัวการไม่ได้รับเงิน
ผู้กู้ทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับเงินที่กู้จากผู้ให้กู้ถือว่าผู้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทนของผู้กู้ ผู้กู้ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของตัวแทนของตนซึ่งกระทำไปภายในขอบอำนาจการที่ตัวแทนของผู้กู้ได้รับเงินจากผู้ให้กู้แล้ว แต่มิได้นำไปให้ผู้กู้หาทำให้สัญญากู้ไม่สมบูรณ์ไม่ ผู้ให้กู้ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเงินกู้จากผู้กู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีซื้อขายไม้, ค่าขนส่ง, หักหนี้, และสัญญาซื้อขายต่างหาก
ผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทจำกัดเป็นโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าไม้ที่จำเลยซื้อไปในระหว่างที่โจทก์ร่วมกันออกทุนเข้าหุ้นค้าไม้ไปพลางระหว่างขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากับโจทก์จริง แต่อ้างว่าโจทก์ผิดสัญญาส่งไม้ไม่ครบ มิได้ต่อสู้ว่าบริษัทเป็นคู่สัญญา ไม่มีประเด็นว่าหนี้สินตามฟ้องเป็นของบริษัทหรือไม่โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีได้ แม้จะปรากฏว่าบริษัทนั้นได้จดทะเบียนแล้วก็ตาม
สัญญาซื้อขายไม้ระบุให้ผู้ขายส่งไม้ถึงร้านค้าของผู้ซื้อที่จังหวัดพระนคร ผู้ขายต้องมีหน้าที่เสียค่าขนส่งเอง กรณีไม่เข้าลักษณะขนส่งทรัพย์สินซึ่งได้ซื้อขายกันไปยังที่แห่งอื่นนอกจากสถานที่อันพึงชำระหนี้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องออกค่าขนส่ง
โจทก์กับจำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้กัน 2 ฉบับ ต่างวาระกันโจทก์ฟ้องเรียกราคาค่าไม้ซึ่งจำเลยค้างชำระตามสัญญาฉบับแรกจำเลยจะฟ้องแย้งว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ส่งไม้ตามสัญญาฉบับหลังเป็นเหตุให้จำเลยเสียหาย ขอหักหนี้กับโจทก์หาได้ไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ทั้งหนี้ดังกล่าวโจทก์ก็ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยจึงจะขอหักหนี้ในคดีที่โจทก์ฟ้องนี้มิได้
สัญญาซื้อขายไม้ระบุให้ผู้ขายส่งไม้ถึงร้านค้าของผู้ซื้อที่จังหวัดพระนคร ผู้ขายต้องมีหน้าที่เสียค่าขนส่งเอง กรณีไม่เข้าลักษณะขนส่งทรัพย์สินซึ่งได้ซื้อขายกันไปยังที่แห่งอื่นนอกจากสถานที่อันพึงชำระหนี้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องออกค่าขนส่ง
โจทก์กับจำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้กัน 2 ฉบับ ต่างวาระกันโจทก์ฟ้องเรียกราคาค่าไม้ซึ่งจำเลยค้างชำระตามสัญญาฉบับแรกจำเลยจะฟ้องแย้งว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ส่งไม้ตามสัญญาฉบับหลังเป็นเหตุให้จำเลยเสียหาย ขอหักหนี้กับโจทก์หาได้ไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ทั้งหนี้ดังกล่าวโจทก์ก็ยังมีข้อต่อสู้อยู่ จำเลยจึงจะขอหักหนี้ในคดีที่โจทก์ฟ้องนี้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ออกใบแทนโฉนดปลอมประมาทเลินเล่อ กรมที่ดินต้องรับผิดร่วม
มีผู้ปลอมตัวเป็นเจ้าของที่ดินนำซากโฉนดที่ดินซึ่งถูกไฟไหม้บางส่วนไปยื่นคำขอใบแทนโฉนดต่อสำนักงานที่ดิน ซึ่งถ้าหากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินมิได้ละเลยในการตรวจสอบหรือได้ทำการตรวจสอบโดยไม่ได้ประมาทเลินเล่อก็จะพบได้โดยง่ายและโดยไม่ต้องใช้ความรู้หรือความชำนาญพิเศษอย่างใดว่า ซากโฉนดนั้นเป็นซากโฉนดปลอม เพราะมีข้อความผิดกันกับข้อความที่มีอยู่ในโฉนดฉบับสำนักงานที่ดินหลายแห่ง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินก็ได้ออกใบแทนโฉนดให้ไปโดยไม่ได้ตรวจสอบซากโฉนดหรือตรวจสอบโดยไม่ได้ใช้ความพินิจพิเคราะห์เท่าที่ควร อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินที่มีส่วนในการออกใบแทนโฉนดจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์เนื่องจากได้รับจำนองและรับโอนที่ดินตามใบแทนโฉนดที่สำนักงานที่ดินออกให้นั้น
เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินซึ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกรมที่ดินปฏิบัติราชการในหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมที่ดิน ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์กรมที่ดินต้องร่วมรับผิดด้วย
เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินซึ่งเป็นข้าราชการในสังกัดกรมที่ดินปฏิบัติราชการในหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมที่ดิน ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์กรมที่ดินต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คที่ไม่สามารถใช้ได้ การหลอกลวงให้เข้าใจผิดถึงผู้สั่งจ่ายเช็ค
จำเลยใช้เช็คของ ส. และลงชื่อ ส. เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คนั้น แล้วมอบให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ ทำให้ผู้เสียหายหลงผิดว่าจำเลยเป็น ส. ผู้มีอำนาจสั่งจ่าย แล้วผู้เสียหายไปรับเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เช่นนี้ ถือเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น