พบผลลัพธ์ทั้งหมด 637 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าช่วยค่าก่อสร้าง ต่ออายุได้ แม้ไม่ทำสัญญาต่ออายุ แต่สัญญายังไม่สิ้นสุด ผู้เช่ามีสิทธิฟ้องขอจดทะเบียน
สัญญาเช่าตึกแถว ซึ่งผู้เช่าเสียเงินแก่ผู้ให้เช่าเป็นการช่วยค่าก่อสร้างและทั้งสองฝ่ายทำสัญญาเช่ากันไว้ 3 ปี โดยผู้ให้เช่ายอมจะต่ออายุสัญญาเช่าให้อีกคราวละ 3 ปีรวม 14 ปี และจะไปจดทะเบียนการเช่าต่อเจ้าพนักงานนั้น เป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้ผู้เช่าจะได้เช่ามาแล้ว6 ปีโดยไม่มีการต่ออายุสัญญา สัญญานั้นก็ไม่หมดอายุผู้เช่ามีอำนาจฟ้องขอให้จดทะเบียนตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความภารจำยอมและที่ดินสูงต่ำ: การนำอายุความมาตรา 1401 มาใช้ และความหมายของที่ดินสูงต่ำตามธรรมชาติ
อายุความได้สิทธิที่จะนำมาใช้แก่ภารจำยอมโดยอนุโลมดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 นั้น ได้แก่อายุความตาม มาตรา 1382 มาตรานี้กำหนดอายุความไว้ 10 ปี โดยไม่แยกว่าจะเป็นที่ดินมือเปล่าหรือที่ดินมีโฉนด ส่วนอายุความตาม มาตรา 1375 นั้น หาใช่อายุความได้สิทธิไม่
คำว่า ที่ดินสูง ที่ดินต่ำตาม มาตรา 1339,1340 นั้นหมายถึงที่ดินสูงต่ำตามธรรมชาติ เจ้าของที่ดินต่ำหาจำต้องรับน้ำจากที่ดินที่ถมขึ้นให้สูงไม่
คำว่า ที่ดินสูง ที่ดินต่ำตาม มาตรา 1339,1340 นั้นหมายถึงที่ดินสูงต่ำตามธรรมชาติ เจ้าของที่ดินต่ำหาจำต้องรับน้ำจากที่ดินที่ถมขึ้นให้สูงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสัญญากู้ไม่ติดอากรแสตมป์ แต่จำเลยรับสารภาพ ย่อมใช้เป็นหลักฐานได้
แม้เอกสารสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยมิได้ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์ อันจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ก็ตาม หากจำเลยให้การรับว่าได้ทำเอกสารนั้นให้โจทก์ไว้จริง ก็ย่อมฟังได้ว่า จำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยไม่ต้องอาศัยฟังจากเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเพณีทางการค้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจองระวางเรือ
จำเลยรับจองระวางเรือ เพื่อขนส่งสินค้าปอของโจทก์จากท่าเรือกรุงเทพฯ ไปเมืองเกาซุง (ไต้หวัน) โดยคิดค่าระวาง1,000 กิโลกรัมต่อ 40 เหรียญฮ่องกง แต่ในหนังสือรับจองระวาง มิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องมัดอัดสินค้าปอของโจทก์ให้แน่นดังนี้ เมื่อมีประเพณีว่าการส่งปอทางเรือไปต่างประเทศ ผู้ส่งจะต้องมัดอัดปอด้วยเครื่องให้แน่น และโจทก์ก็ได้ทราบประเพณีนี้ดีอยู่แล้ว ประเพณีเช่นว่านี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยด้วย หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามประเพณีดังกล่าว จำเลยก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญารับจองระวางเรือนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1374/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเพื่อชำระหนี้เดิม: การส่งมอบเงินบริบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยคิดบัญชีหนี้เดิมกัน แล้วจำเลยทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้แทนการจ่ายเงินที่เป็นหนี้กันเช่นนี้ ถือได้ว่า มีการส่งมอบเงินที่กู้ยืมกันเป็นการบริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ายังไม่ระงับ แม้ปลูกสร้างใหม่บนที่ดินเดิม
ทำสัญญาเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย แม้ผู้เช่าจะรื้อเรือนเดิมแล้วปลูกขึ้นใหม่ก็ตาม สัญญาเช่าก็ไม่ระงับ เพราะที่ดินอันเป็นวัตถุแห่งการเช่ายังคงมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมมีเงื่อนไขขัดต่อความสงบเรียบร้อยเป็นโมฆะ
สัญญาประนีประนอมที่มีเงื่อนไขว่า จะจ่ายเงินที่เหลือต่อเมื่อศาลพิพากษาว่า ผู้ขับรถชนสามีโจทก์ ไม่มีผิดทางอาญานั้น ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนเป็นโมฆะใช้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ทนายความหลังตัวความเสียชีวิต: ฎีกายังชอบด้วยกฎหมาย
แม้ตัวความจะถึงแก่กรรมไปแล้ว ทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องจัดการดำเนินคดี เพื่อจะปกปักรักษาประโยชน์ของตัวความต่อไปตามที่จำเป็นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 828 ฉะนั้น การที่ทนายความฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ยื่นฎีกาภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษา แม้จะปรากฏว่าในระหว่างนั้นตัวความถึงแก่กรรมเสียแล้ว ฎีกาที่ทนายยื่นไว้ต่อศาล ก็ย่อมชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงิน: สัญญาบริบูรณ์ แม้มีข้อต่อสู้เรื่องข้อตกลงอื่น แต่จำเลยต้องนำสืบ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป 1,100 บาท ตามสัญญากู้แล้วไม่ใช้ จึงขอให้ใช้ จำเลยต่อสู้ว่า บุตรจำเลยลักพาบุตรสาวโจทก์ไปเจ้าพนักงานเปรียบเทียบให้บุตรจำเลยเสียค่าสินสอด 2,000 บาท โจทก์จำเลยตกลง จำเลยมอบเงินสด 400 บาท สร้อยคอทองคำ ราคา 500 บาท ให้โจทก์ไป ที่เหลือ 1,100 บาท จำเลยทำเป็นสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ คือฉบับที่โจทก์ฟ้อง แต่โจทก์กลับไม่ยอมให้บุตรจำเลยอยู่กินกับบุตรโจทก์ แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน ดังนี้ ฟังได้ว่า การกู้เงินดังกล่าวมีมูลหนี้ ถือได้ว่าการกู้ยืมเงินตามสัญญาที่โจทก์ฟ้องบริบูรณ์แล้ว ที่จำเลยอ้างข้อเท็จจริงต่อไปว่าโจทก์ไม่ยอมให้บุตรจำเลยอยู่กินกับบุตรโจทก์ตามข้อตกลงนั้น เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยอ้างขึ้นเพื่อให้พ้นความรับผิด จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อจำเลยไม่นำสืบ จำเลยก็ไม่พ้นความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันจำนอง: กรณีจำนองบังคับแล้วยังขาดเงิน
สัญญาจำนอง ซึ่งมีผู้ค้ำประกันอีกต่างหากว่า ถ้าผู้จำนองผิดสัญญาไม่ชำระต้นเงินตามสัญญา ผู้ค้ำประกันยอมให้ผู้รับจำนองฟ้องเรียกเงินตามสัญญาจำนอง โดยผู้ค้ำประกันยอมใช้เงินตามสัญญาจำนองและค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นดังนี้ ย่อมหมายความว่า ถ้าบังคับจำนองแล้วยังขาดเงินอยู่เท่าใด ผู้ค้ำประกันก็ต้องใช้จนครบ