พบผลลัพธ์ทั้งหมด 637 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตัวแทน: สัญญาที่เปิดโอกาสให้ตกลงราคาได้ย่อมผูกพันตัวการ แม้มีข้อตกลงภายในจำกัดอำนาจ
ข้อความในหนังสือสัญญามอบอำนาจให้ตัวแทนตกลงลดราคาที่จะขายทรัพย์สินได้ก่อนลงนามในสัญญา ตัวการขอเพิ่มข้อความว่าจะลดราคาเกินร้อยละ 10 ต้องให้ตัวการยินยอมก่อนตัวแทนว่าข้อความในสัญญานั้นจะแก้ไม่ได้ และได้พูดว่าถ้าจะลดราคาลงเกินกว่าร้อยละ 10 ตัวแทนจะบอกให้ตัวการทราบก่อน ตัวการก็ลงนามในสัญญาโดยไม่มีการแก้ไขข้อความอย่างใด กับมีพฤติการณ์แสดงว่าถ้าลดราคาเพียงร้อยละ 10 ไม่มีทางจะขายทรัพย์สินได้สำเร็จดังนี้ไม่พอถือว่าได้มีข้อจำกัดอำนาจของตัวแทนในการที่จะลดราคาขายลงเกินกว่าร้อยละ 10
กรรมการบริษัทจำกัดลงชื่อในหนังสือ โดยไม่มีตราของบริษัทประทับ ผิดข้อบังคับของบริษัท แต่บริษัทได้เชิดกรรมการผู้นั้นออกเป็นตัวแทนตลอดมาตั้งแต่แรกและต่อจากนั้นไปอีก การกระทำของกรรมการผู้นั้นย่อมผูกพันบริษัทได้
กรรมการบริษัทจำกัดลงชื่อในหนังสือ โดยไม่มีตราของบริษัทประทับ ผิดข้อบังคับของบริษัท แต่บริษัทได้เชิดกรรมการผู้นั้นออกเป็นตัวแทนตลอดมาตั้งแต่แรกและต่อจากนั้นไปอีก การกระทำของกรรมการผู้นั้นย่อมผูกพันบริษัทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจกรมการอำเภอในการสั่งให้ผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ออกจากพื้นที่และการขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
กรมการอำเภอมีอำนาจสั่งให้ผู้บุกรุกเข้าทำนา ออกจากที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งจัดไว้ให้ราษฎรเลี้ยงสัตว์ร่วมกันถ้าขัดขืนอาจมีความผิดฐานขัดคำสั่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 654/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การเปลี่ยนแปลงสัญญาด้วยวาจาทำไม่ได้ ผู้เช่าใช้สิทธิเรียกร้องไม่ได้หากเจ้าของไม่มีอำนาจ
สัญญาเช่าโกดัง ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จำเลยจะสืบพยานบุคคลว่ามีข้อสัญญาด้วยวาจาเพิ่มเติมอีกไม่ได้
ผู้เช่าไม่มีอำนาจต่อสู้คดีว่าผู้ให้เช่าไม่มีอำนาจให้เช่าทรัพย์สินที่เป็นวัตถุแห่งสัญญาเช่า
ผู้เช่าไม่มีอำนาจต่อสู้คดีว่าผู้ให้เช่าไม่มีอำนาจให้เช่าทรัพย์สินที่เป็นวัตถุแห่งสัญญาเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวสารเกิน 500 บาท และความรับผิดของตัวแทนต่อบุคคลภายนอก
การซื้อขายข้าวสารและรำราคาเกิน 500 บาท ซึ่งผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องให้ชำระราคาได้
ตัวแทนไม่ต้องรับผิดต่อคนภายนอกเป็นส่วนตัว ในสัญญาที่ได้ทำแทนตัวการ
ตัวแทนไม่ต้องรับผิดต่อคนภายนอกเป็นส่วนตัว ในสัญญาที่ได้ทำแทนตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78-85/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีซื้อขายฝิ่น: โจทก์ไม่ใช่พ่อค้า ต้องใช้บังคับอายุความ 10 ปี
คำว่า"พ่อค้า" ย่อมเป็นที่เข้าใจกันทั่ว ๆ ไปว่า ผู้ที่ประกอบกิจการค้าเป็นปกติ มิใช่ว่า ถ้าผู้ใดกระทำการค้าเพียงชั่วครั้งคราวก็ถือว่าเป็นพ่อค้า
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้ เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ ต้องขายแก่คณะกรรมการ ดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้ แม้จะปรากฎว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือกระทรวงการคลัง จึงต้องถืออายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่น แต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกาเพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระขัดสิน.
กระทรวงการคลังต้องการฝิ่นเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชน จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งให้มีอำนาจจัดซื้อฝิ่นจากเอกชนทั่วไปในภาคเหนือ ในการจัดหาซื้อฝิ่นนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกใบคุ้มครองกำหนดเขตที่จะไปหาฝิ่นให้ เมื่อได้ฝิ่นมาแล้ว จะนำไปขายแก่ผู้อื่นหรือใช้เองไม่ได้ ต้องขายแก่คณะกรรมการ ดังนี้จะเห็นได้ว่าพวกที่เข้าทำสัญญารับจะหาซื้อฝิ่นให้แก่คณะกรรมการนั้น เป็นการกระทำชั่วครั้งคราว มิได้เป็นการยั่งยืนดังลักษณะของพ่อค้าแต่อย่างใด ยิ่งเป็นเรื่องซื้อขายฝิ่นซึ่งตามปกติจะกระทำมิได้ เพราะกฎหมายห้าม ก็ย่อมเห็นได้ชัดว่าจะถือว่าพวกเหล่านี้เป็นพ่อค้าไม่ได้ แม้จะปรากฎว่าบางคนได้จดทะเบียนพาณิชย์ตั้งร้านขายยาหรือทำป่าไม้ ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพ่อค้าขายฝิ่นรายนั้น ฉนั้นการที่พวกขายฝิ่นแก่คณะกรรมการจะฟ้องเรียกราคาฝิ่นจากคณะกรรมการหรือกระทรวงการคลัง จึงต้องถืออายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาฝิ่น แต่ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีให้จำเลยใช้ตั้งแต่วันฟังคำพิพากษาฎีกาเพราะมีกรณีมัวหมองระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย มิใช่จำเลยตระขัดสิน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ที่ถือเป็นทางภาระจำยอม
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่า เป็นทางภาระจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการนำข้อเท็จจริงจากคดีก่อนมาผูกพันคดีใหม่ แม้คู่ความบางส่วนจะซ้ำกัน ศาลต้องพิจารณาประเด็นและสภาพคดีที่เปลี่ยนแปลง
ผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกับผู้อื่นฟ้องขอแบ่งที่ดินเฉพาะส่วนของคนจากผู้ที่ยึดถือครอบครองที่ดินผู้ครอบครองที่ดินต่อสู้ ว่าผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นเอาที่ดินนี้ตีใช้หนี้ตน ทางพิจารณาศาลฟังว่าไม่มีการตีใช้หนี้ แต่เห็นว่าการที่จะฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของโจทก์นั้นย่อมแบ่งให้ไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง ภายหลังผู้ครอบครองที่ดินเป็นโจกท์ฟ้องทายาทผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งขอให้ศาลแสดงว่า ที่พิพาทนี้เป็นกรรมสิทธิของผู้ครอบครองที่ดินทายาทผู้เป็นจำเลยต่อสู้ว่าผู้ครอบครองที่ดินไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้อง อีกเพราะเคยฟ้องกันมาแล้วและในคดีหลังนี้ผู้มีชื่อในโฉนดที่เคยเป็นโจทก์ฟ้องผู้ครอบครองก็ได้ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมจนศาลอนุญาตแล้วก็ตาม ศาลฎีกาก็เห็นว่าจะเอาข้อเท็จจริงในในคดีก่อนมารับฟังเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยในคดีนี้เป็นคู่กรณีคนใหม่และในคดีก่อนศาลยกฟ้อง เพราะเห็นว่าการฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของตนย่อมแบ่งให้ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ การที่ผู้ครอบครองที่ดินมาฟ้องอ้างสิทธิในที่ดินนี้ทั้งแปลงประเด็นก็ไม่เหมือนกับคดีก่อนซึ่งพิพาทกันเฉพาะที่ดิน ส่วนของผู้มีชื่อในโฉนดผู้เป็นโจทก์ฟ้องเท่านั้น จึงจะยกเอาสำนวนก่อนมาผูกพันบังคับคู่ความคดีนี้ใหม่หาได้ไม่ ชอบที่ศาลจะสืบพยานฟังข้อเท็จจริงในสำนวนหลังนี้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้โอนกรรมสิทธิทำลายสิทธิครอบครองเดิม โจทก์ต้องพิสูจน์การซื้อขายและเหตุผลที่ยินยอม
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ดินและใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิแทนโดยอ้างว่าซื้อที่ พิพาทมาจากมารดาจำเลย แล้วครอบครองมา 10 ปีเศษเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าตอนที่จำเลยประกาศขอรับมฤดกมารดานั้น โจทก์ยอมให้จำเลยโอนโฉนดรับมฤดกดังนี้จึงเท่ากับโจทก์รับรองกรรมสิทธิของจำเลยและทำลายสิทธิครอบครอง ของโจทก์ก่อนวันโอนแก้โฉนดอยู่ในตัว โจทก์จึงจะต้องนำสืบให้ได้ความมั่นคงถึงเรื่องซื้อขายและเหตุที่ยอมให้จำเลยโอนรับมฤดกไป มิฉะนั้นโจทก์ก็ชนะคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของหมั้นต้องมีการมอบทรัพย์สิน หากชายตายก่อนสมรส หญิงไม่ต้องคืนของหมั้นที่มอบไว้แล้ว โฉนดที่วางเป็นประกันหนี้ที่ไม่มีอยู่จริง ย่อมต้องคืน
ของหมั้นต้องเป็นทรัพย์สินซึ่งฝ่ายชายได้ให้แก่ฝ่ายหญิงไว้แล้ว ถ้าให้ทรัพย์สินไว้ส่วนหนึ่ง และสัญญาว่า จะนำมามอบให้ในวันหลังอีก ก็คงเป็นของหมั้นเฉพาะส่วนที่ให้ไว้แล้ว ส่วนที่ยังไม่ได้มอบให้ไม่เป็นของหมั้น ฉะนั้นในกรณีที่ชายตาย ของหมั้นที่มอบไว้ย่อมตกแก่หญิง แต่หญิงจะฟ้องเรียกทรัพย์ที่ฝ่ายชายสัญญาจะมอบให้อีกนั้นไม่ได้
ถ้าฝ่ายชายได้มอบของหมั้นให้บ้างแล้ว และสัญญาว่าจะนำของหมั้นที่ยังขาดมามอบให้อีก ถ้าฝ่ายชายไม่นำมามอบให้ตามที่ตกลงกัน ฝ่ายหญิงจะปฏิเสธไม่ยอมสมรส โดยถือว่าฝ่ายชายผิดสัญญาหมั้นก็ได้
เอาโฉนดไปวางเป็นประกันหนี้ แต่ตามกฎหมายไม่มีหนี้ที่จะเรียกร้องจากกันได้ เจ้าของโฉนดก็ย่อมฟ้องเรียกโฉนดคืนได้
ถ้าฝ่ายชายได้มอบของหมั้นให้บ้างแล้ว และสัญญาว่าจะนำของหมั้นที่ยังขาดมามอบให้อีก ถ้าฝ่ายชายไม่นำมามอบให้ตามที่ตกลงกัน ฝ่ายหญิงจะปฏิเสธไม่ยอมสมรส โดยถือว่าฝ่ายชายผิดสัญญาหมั้นก็ได้
เอาโฉนดไปวางเป็นประกันหนี้ แต่ตามกฎหมายไม่มีหนี้ที่จะเรียกร้องจากกันได้ เจ้าของโฉนดก็ย่อมฟ้องเรียกโฉนดคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมไม่ใช่การอาศัยสิทธิ ผู้ขายต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำทาง
ทางภาระจำยอมที่ก่อให้เกิดมีขึ้นระหว่างผู้ซื้อที่ดินและผู้ขายที่ดินนั้นไม่ใช่ลักษณะของการให้อาศัยสิทธิอันเป็นการให้เปล่าฝ่ายเดียวโดยไม่มีสินจ้างหรือข้อผูกพัน แม้โจทก์จะแถลงรับโดยใช้คำว่า'อาศัยใช้'ก็มิใช่ลักษณะแห่งการอาศัยตามนัยแห่งกฎหมาย
เมื่อผู้ขายที่ดินปลูกเรือนบนทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้ผู้ซื้อที่ดินใช้ทางภาระจำยอมนั้นไม่สะดวกเหมือนเช่นเดิม ผู้ขายที่ดินต้องรื้อเรือนนั้นออกไปให้พ้นทางและเกลี่ยที่ดินให้เสมอทางตามเดิม
เมื่อผู้ขายที่ดินปลูกเรือนบนทางภาระจำยอมเป็นเหตุให้ผู้ซื้อที่ดินใช้ทางภาระจำยอมนั้นไม่สะดวกเหมือนเช่นเดิม ผู้ขายที่ดินต้องรื้อเรือนนั้นออกไปให้พ้นทางและเกลี่ยที่ดินให้เสมอทางตามเดิม