คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 42

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 441 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1854/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง, การเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม, การแบ่งมรดก, สิทธิในสินสมรส และผลกระทบการตายของโจทก์ระหว่างคดี
ภรรยาเป็นโจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัวและผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กผู้เป็นบุตรเรียกทรัพย์ของสามีผู้เป็นบิดาของบุตรจากปู่ของบุตร ดังนี้ แม้การฟ้องในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็ก จะไม่ชอบเพราะเป็นอุทลุมแต่ที่ฟ้องในฐานะส่วนตัวยังสมบูรณ์อยู่ ฉะนั้นอัยการในนามของเด็กบุตรโจทก์ย่อมมีสิทธิร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของเด็กให้ได้รับความคุ้มครองได้
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยโดยอ้างว่า เป็นของผู้ตายและโจทก์เป็นทายาท เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า เป็นทรัพย์ของผู้ตายกับจำเลยคนละครึ่งและจำเลยก็เป็นทายาทผู้หนึ่งด้วยเหมือนกัน ดังนี้ ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งทรัพย์รายนั้นออกเป็น 2 ส่วนก่อนแล้วให้แบ่งส่วนของผู้ตายให้แก่โจทก์จำเลยผู้เป็นทายาทตามส่วนที่ตนมีสิทธิได้
อัยการในนามของเด็กฟ้องเรียกมรดกของบิดาเด็กจากปู่ของเด็กเมื่อเด็กบางคนตายในระหว่างคดี อัยการก็ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์สำหรับเด็กคนที่ตายนั้นต่อไป แต่ศาลก็พิพากษาให้เด็กที่ยังอยู่ได้รับส่วนแบ่งตามส่วนของตนที่มีอยู่เดิม ส่วนของเด็กที่ตายซึ่งเหลือจากแบ่งให้เด็กที่ยังอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่จะเรียกร้องกันอีกส่วนหนึ่งต่างหาก
ฟ้องเรียกเงินทั้งหมดได้ความว่า เป็นของโจทก์จำเลยร่วมกัน ศาลพิพากษาให้แบ่งไปเลยแต่โจทก์ไม่สมควรได้ดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีอาญาแพ่งระงับเมื่อจำเลยเสียชีวิตระหว่างพิจารณา
ในคดีอาญาสินไหม ซึ่งโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และให้ใช้ราคาทรัพย์ด้วยนั้น เมื่อจำเลยตายในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ๆ ย่อมสั่งให้คดีส่วนอาญาของโจทก์เป็นอันระงับไปตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 77 ส่วนคดีส่วนแพ่งให้เลื่อนไปตามมาตรา 42 แห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายยังใช้ได้ แม้การโอนช่วงแรกถูกทำลาย เหตุใบมอบอำนาจสิ้นอายุ ทายาทต้องปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ตายได้ทำสัญญาจะขายนาให้โจทก์แต่ได้ตายเสียในระหว่างประกาศขาย ทายาทบางคนได้โอนขายนาพิพาทให้โจทก์ไปโดยถือตามใบมอบอำนาจเดิม ต่อมาโจทก์ถูกทายาทคนอื่นฟ้องทำลายการโอนดังนี้ แม้ศาลจะพิพากษาให้ทำลายการโอนและให้คืนเงินราคานาให้โจทก์โดยอ้างเหตุว่า ใบมอบอำนาจสิ้นอายุ โจทก์ก็ยังฟ้องบังคับทายาทของผู้ตายให้โอนนาพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายเดิมได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกลับสู่สิทธิเดิมตามกฎหมายแพ่งหลังคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าอนุมัติให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ และการฟ้องคดีมรดกความ
ผู้ให้เช่าซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้เข้าอยู่ในสถานที่เช่าและได้ฟ้องคดีขับไล่ผู้เช่าไว้ก่อน ตาย ถือว่าโจทก์ใหม่ผู้รับมฤดกความของผู้ให้เช่ามีความจำเป็นเข้าอยู่ในสถานที่เช่ารายนี้ด้วย
เมื่อคณะกรรมการฯ ยินยอมให้ผู้เช่าเข้าอยู่ในสถานที่เช่าแล้วทำให้การเช่านั้นหลุดพ้นจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ฐานะของผู้เช่าและผู้ให้เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมตาม ป.ม.แพ่งฯ คือผู้ให้เช่าขับไล่ผู้เช่าได้หากมีสิทธิที่จะขับไล่ตาม ปม.แพ่ง
ผู้เช่าทำสัญญาให้ขึ้นค่าเช่า ไม่ขัดต่อพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ม.10

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เข้าอยู่ทำให้หลุดพ้นจาก พรบ.ควบคุมค่าเช่า สิทธิผู้ให้เช่ากลับสู่ประมวลกฎหมายแพ่งฯ
ผู้ให้เช่า ซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้เข้าอยู่ในสถานที่เช่าและได้ฟ้องคดีขับไล่ผู้เช่าไว้ก่อนตาย ถือว่าโจทก์ใหม่ผู้รับมรดกความของผู้ให้เช่ามีความจำเป็นเข้าอยู่ในสถานที่เช่ารายนี้ด้วย
เมื่อคณะกรรมการฯ ยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในสถานที่เช่าแล้วทำให้การเช่านั้นหลุดพ้นจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯฐานะของผู้เช่าและผู้ให้เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือผู้ให้เช่าขับไล่ผู้เช่าได้หากมีสิทธิที่จะขับไล่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่าทำสัญญาให้ขึ้นค่าเช่า ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 10
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2493

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีหย่าสิ้นสุดเมื่อคู่ความถึงแก่กรรม ศาลจำหน่ายคดีตามกฎหมาย
คดีฟ้องหย่า เมื่อคู่ความฝ่ายใดถึงแก่ความตาย กรณีเป็นเรื่องความมรณะของคู่ความยังให้คดีไม่มีประโยชน์ต่อไป ศาลต้องจำหน่ายคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยตายและไม่มีผู้สืบสิทธิ
จำเลยฎีกา แล้วต่อมาปรากฎว่าจำเลยตาย นับแต่จำเลยตายมาเป็นเวลาเกิน 1 ปี ไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทน และไม่มีคำขอของโจทก์ขอให้เรียกผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทน ศาลฎีกาจึงให้สั่งจำหน่ายคดี และคืนค่าตัดสินและค่าคำบังคับ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเรียกคู่ความแทนจำเลยที่เสียชีวิตและการไม่ถือว่าทอดทิ้งคดีแม้จะล่าช้า
จำเลยตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเรียกภรรยาจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนภายในกำหนด 1 ปี แต่ปรากฏว่าภรรยาจำเลยไม่ได้รับมรดก เนื่องจากจำเลยทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตรทั้งสิ้น โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกบุตรจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย แม้จะยื่นคำร้องตอนหลังนี้เกินกำหนด 1 ปีแล้วนับแต่จำเลยตายก็ถือได้ว่าโจทก์มิได้ทอดทิ้งคดีของตนเสียและจะถือว่าโจทก์ไม่มีคำขอภายใน 1 ปี ตามมาตรา 42 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเรียกคู่ความแทนที่จำเลยเสียชีวิตและการไม่ถือว่าทอดทิ้งคดีภายในกำหนดเวลา
จำเลยตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอเรียกภรรยาจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนภายในกำหนด 1 ปี แต่ปรากฏว่าภรรยาจำเลยไม่ได้รับมฤดก เนื่องจากจำเลยทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตรทั้งสิ้น โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกบุตรจำเลยเข้ามาเป็นคู่ความแทนจำเลย แม้จะยื่นคำร้องตอนหลังนี้เกินกำหนด 1 ปี แล้วนับแต่จำเลยตายก็ถือได้ว่าโจทก์มิได้ทอดทิ้งคดีของตนเสีย และจะถือว่าโจทก์ไม่มีคำขอภายใน 1 ปี ตามมาตรา 42 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 729/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการตายของจำเลยระหว่างการพิจารณาคดี: คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังคงมีผล
คู่ความตายระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นต้นเพิ่งแจ้งการตายและการรับมฤดกความไปยังศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาแล้ว ดังนี้ ย่อมไม่มีผลย้อนหลัง หรือทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสียไปแต่ประการใดเลย
of 45