พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2024-2026/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด .45 ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าวจึงใช้ได้แต่เฉพาะอาวุธปืนกระบอกที่ระบุไว้ในใบอนุญาตนั้นเท่านั้น จะนำไปใช้กับอาวุธปืนกระบอกอื่นไม่ได้ จำเลยจึงไม่อาจที่จะมีอาวุธปืนกระบอกอื่นและกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในความครอบครองได้ แม้ผู้อื่นจะลืมอาวุธปืนไว้ในรถของจำเลย จำเลยก็ควรจะครอบครองอาวุธปืนนั้นเพียงเพื่อไม่ให้หายเท่านั้น แต่จำเลยกลับพกอาวุธปืนดังกล่าวไว้กับตัวซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนนั้นเพื่อใช้มิได้มีไว้ในความครอบครองเพื่อไม่ให้หาย จำเลยจึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่จำเลยอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชานั้นไม่เป็นข้อยกเว้นให้จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ซึ่งเป็นบทบัญญัติของกฎหมายได้ แม้การปฏิบัติหน้าที่ราชการตามคำสั่งนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธปืนดังที่จำเลยอ้างก็ตาม
จำเลยซึ่งเป็นตำรวจพกพาอาวุธปืนกระบอกที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีติดตัว เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และถูกจับกุมในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพาอาวุธปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8(ทวิ) วรรคสาม (1)
จำเลยซึ่งเป็นตำรวจพกพาอาวุธปืนกระบอกที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีติดตัว เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และถูกจับกุมในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพาอาวุธปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8(ทวิ) วรรคสาม (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครอง, พาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมือง แม้ไม่มีของกลาง ก็ลงโทษได้
คดีความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ และความผิดลหุโทษเกี่ยวกับอาวุธปืน แม้ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลาง แต่ฟังได้ว่าจำเลยชักอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ก็ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนใบอนุญาตอาวุธปืนหลังถูกตัดสินลงโทษทางอาญา การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ศาลอาญาพิพากษาลงโทษปรับโจทก์ในความผิดฐานพกอาวุธปืนที่โจทก์มีใบอนุญาตให้มีและใช้ติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรโดยไม่มีใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัว ยิงปืนในเมืองและในที่ชุมชน แต่สั่งให้คืนปืนของกลางแก่โจทก์ ก่อนคืนปืนของกลางจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นสารวัตรสถานีตำรวจได้ทำบันทึกถึงพฤติการณ์ของโจทก์ในขณะจับกุมและผลของคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวเสนอไปยังจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ในฐานะเป็นนายทะเบียนอาวุธปืนพิจารณาแล้วสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้มี หรือใช้อาวุธปืนของโจทก์ ดังนี้การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำตาม อำนาจและหน้าที่อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ จำเลยทั้งสองไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษหลายกระทงและความสามารถในการรอการลงโทษเมื่อแต่ละกระทงมีโทษไม่เกิน 2 ปี
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฐานมีลูกระเบิดฐานพกพาอาวุธปืน และฐานยิงปืนในหมู่บ้าน แต่ละกระทงนั้นเป็นความผิดอยู่ในตัว ซึ่งโจทก์สามารถแยกฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นคดีละกระทงได้ เมื่อโทษจำคุกที่ศาลลงแก่จำเลยแต่ละกระทงไม่เกินกระทงละ 2 ปี จึงเท่ากับว่าศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเป็นคดีๆ ไปตามกระทงความผิดที่โจทก์รวมฟ้องมาไม่เกินคดีละ 2 ปี ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1594/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาเรื่องการลงโทษคดีอาวุธปืนและการขัดขวางเจ้าพนักงาน ศาลฎีกายกคำร้องเนื่องจากจำเลยมีสิทธิฎีกาจำกัดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 2,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือนและปรับ 500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 ปี 8 เดือนและปรับ 3,250 บาทและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ภายในกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุก 3 เดือนฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน ปรับ 250 บาทโดยไม่รอการลงโทษ เป็นความผิด 4 กระทง แต่ละกระทง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี แม้มีการแก้โทษไม่รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 2,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือนและปรับ 500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 ปี 8 เดือน และปรับ 3,250 บาทและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 6 เดือนฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุก 3 เดือนฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน ปรับ 250 บาทโดยไม่รอการลงโทษ เป็นความผิด 4 กระทง แต่ละกระทง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกระเบิดเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย ฟ้องฐานมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เคลือบคลุม
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4(2) บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า เครื่องกระสุนปืนหมายความรวมตลอดถึงลูกระเบิดด้วย ฉะนั้น ลูกระเบิดตามสภาพจึงเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกระเบิดชนิดที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืนหรือไม่ก็ตาม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิดซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิดซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกระเบิดเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากบรรยายการกระทำความผิดครบถ้วน
พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2) บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า เครื่องกระสุนปืนหมายความรวมตลอดถึงลูกระเบิดด้วย ฉะนั้น ลูกระเบิดตามสภาพจึงเป็นเครื่องกระสุนปืน ตามกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกระเบิดชนิดที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืน หรือไม่ก็ตาม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนที่ขอจดทะเบียนแล้วไม่ต้องรับโทษ แต่การมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตยังคงเป็นความผิด
จำเลยมีอาวุธปืนของกลางที่จำเลยนำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตของจำเลยไว้แล้ว แต่นายทะเบียนยังไม่ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ และมีกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนของกลางด้วย ดังนี้ เฉพาะอาวุธปืนนั้น จำเลยได้นำไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ การที่นายทะเบียนผู้รับขึ้นทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยจึงหามีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีกไม่ ส่วนกระสุนปืนนั้น จำเลยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีและไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน กรณีจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2032/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต: การยกเว้นโทษเมื่อขอจดทะเบียนอาวุธปืนแล้ว
จำเลยมีอาวุธปืนของกลางที่จำเลยนำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตของจำเลยไว้แล้ว แต่นายทะเบียนยังไม่ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ และมีกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนของกลางด้วย ดังนี้ เฉพาะอาวุธปืนนั้น จำเลยได้นำไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ การที่นายทะเบียนผู้รับขึ้นทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้น ต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยจึงหามีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีกไม่ ส่วนกระสุนปืนนั้น จำเลยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีและไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน กรณีจึงไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต