คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 665

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ธนาคารในการคืนเงินฝากให้ทายาทหลังผู้ฝากเสียชีวิต และขอบเขตผลของคำสั่งศาลที่ผูกพันบุคคลภายนอก
ผู้ฝากเงินไว้กับธนาคารมีนิติสัมพันธ์กันตามลักษณะฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 673 ผู้ฝากเงินจะถอนเงินคืนก่อนถึงเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ไม่ได้และธนาคารผู้รับฝากจะส่งคืนเงินก่อนถึงเวลานั้นก็ไม่ได้ดุจกันแต่เมื่อผู้ฝากเงินตายธนาคาร มีหน้าที่ต้องคืนเงินนั้นให้แก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 665 วรรค 2
ธนาคารมีหน้าที่จำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการอาชีวะของธนาคารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659
ผู้จัดการมรดกของผู้ฝากเงินตามคำพิพากษาของศาลขอถอนเงินของผู้ฝากคืนจากธนาคารธนาคารขอผัดคืนเงินนั้นใน 1 เดือนเพื่อให้คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกขาดอายุอุทธรณ์ โดยธนาคารมีเงินพร้อมที่จะคืนให้ถือได้ว่าธนาคารได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659 เป็นการใช้ความระมัดระวังตามหน้าที่สมควรแก่กรณีโดยสุจริตไม่ได้โต้แย้งสิทธิของผู้จัดการมรดกจึงไม่เป็นการผิดสัญญาหรือเป็นการกระทำละเมิดแก่ผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกตามคำพิพากษาของศาลมีอำนาจจัดการมรดกได้ตามกฎหมายคำพิพากษาตั้งผู้จัดการมรดกมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้นไม่ใช่คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานะหรือความสามารถของบุคคลไม่เข้าอยู่ในข้อยกเว้นของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(1)(2)และไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1), 245, 274 จึงไม่ผูกพันธนาคารผู้รับฝากเงินของเจ้ามรดกซึ่งเป็นบุคคลภายนอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารมีหน้าที่คืนเงินฝากแก่ทายาทหลังผู้ฝากเสียชีวิต โดยต้องใช้ความระมัดระวังและไม่โต้แย้งสิทธิทายาท
ผู้ฝากเงินไว้กับธนาคารมีนิติสัมพันธ์กันตามลักษณะฝากทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 673 ผู้ฝากเงินจะถอนเงินคืนก่อนถึงเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ไม่ได้ และธนาคารผู้รับฝากจะส่งคืนเงินก่อนถึงเวลานั้นก็ไม่ได้ดุจกัน แต่เมื่อผู้ฝากเงินตาย ธนาคารมีหน้าที่ต้องคืนเงินนั้นให้แก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 665 วรรค 2
ธนาคารมีหน้าที่จำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการอาชีวะของธนาคารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659
ผู้จัดการมรดกของผู้ฝากเงินตามคำพิพากษาของศาลขอถอนเงินของผู้ฝากคืนจากธนาคาร ธนาคารขอผัดคืนเงินนั้นใน 1 เดือนเพื่อให้คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกขาดอายุอุทธรณ์ โดยธนาคารมีเงินพร้อมที่จะคืนให้ ถือได้ว่าธนาคารได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659 เป็นการใช้ความระมัดระวังตามหน้าที่สมควรแก่กรณีโดยสุจริตไม่ได้โต้แย้งสิทธิของผู้จัดการมรดก จึงไม่เป็นการผิดสัญญาหรือเป็นการกระทำละเมิดแก่ผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกตามคำพิพากษาของศาลมีอำนาจจัดการมรดกได้ตามกฎหมาย คำพิพากษาตั้งผู้จัดการมรดกมีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น ไม่ใช่คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานะหรือความสามารถของบุคคล ไม่เข้าอยู่ในข้อยกเว้นของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(1)(2) และไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1), 245, 274 จึงไม่ผูกพันธนาคารผู้รับฝากเงินของเจ้ามรดกซึ่งเป็นบุคคลภายนอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์และการยินยอมให้มอบทรัพย์ก่อนตาย ทำให้สิ้นสิทธิเรียกร้องคืน
เอกสารที่ผู้ทำ ทำยกทรัพย์ให้บุตร ได้ทำตามแบบพินัยกรรมความตอนต้นก็บ่งว่าผู้ทำ ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งเด็ดขาดและจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว ตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรมตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรมถึง 6 คน ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตร แล้วภายหลังสั่งให้ผู้รับฝากทรัพย์ตามพินัยกรรมให้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรไปในระหว่างที่ตนมีชีวิตอยู่ ก็หาเป็นเหตุลบล้างลักษณะของเอกสารนั้นให้กลับไม่เป็นพินัยกรรมได้ไม่
ผู้รับฝากทรัพย์ของเขาไว้เพื่อมอบให้แก่บุตรของผู้ฝากภายหลังได้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรของผู้ฝาก ผู้ฝากรู้แล้วมิได้คัดค้านย่อมถือได้ว่าผู้ฝากยินยอมให้ผู้รับฝากมอบทรัพย์ให้แก่บุตร ผู้รับฝากย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์ส่วนนี้ และผู้ฝากก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากผู้รับฝาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์และการยินยอมให้มอบทรัพย์หลังพินัยกรรมมีผลใช้บังคับ
เอกสารที่ผู้ทำ ทำยกทรัพย์ให้บุตร ได้ทำตามแบบพินัยกรรม์ความตอนต้นก็บ่งว่าผู้ทำ ทำพินัยกรรม์เป็นคำสั่งเด็ดขาดและจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว ตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรม์ตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรม์ถึง 6 คน ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม์
ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์ให้แก่บุตร แล้วภายหลังสั่งให้ผู้รับฝากทรัพย์ตามพินัยกรรม์ให้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรไปในระวห่างที่ตนมีชีวิตอยู่ ก็หาเป็นเหตุลบล้างลักษณะของเอกสารนั้นให้กลับไม่เป็นพินัยกรรม์ได้ไม่
ผู้รับฝากทรัพย์ของเขาไว้เพื่อมอบให้แก่บุตรของผู้ฝากภายหลังได้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรของผู้ฝาก ๆ รู้แล้วมิได้คัดค้านย่อมถือได้ว่าผู้ฝากยินยอมให้ผู้รับฝากมอบทรัพย์ให้แก่บุตรผู้รับฝากย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบใน ทรัพย์ส่วนนี้ และผู้ฝากก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากผู้รับฝาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมใช้ทรัพย์ที่ยักยอก สัญญาไม่เป็นโมฆะ และการฟ้องใหม่ที่ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ถอนฟ้องคดีแพ่งแล้วกลับมาฟ้องใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176 และไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
รับฝากของที่ขโมยเขามามารดาและพี่ของผู้รับฝากทำสัญญายอมใช้ราคาของที่ฝากให้แก่เจ้าของและคนขโมย เจ้าของย่อมฟ้องเรียกเงินตามสัญญานั้นได้ และสัญญาชนิดนี้ไม่ใช่สัญญาค้ำประกัน
การทำยอมใช้ทรัพย์ที่ยักยอกอันเป็นความผิดส่วนตัวนั้นไม่นับว่าสัญญาเป็นโมฆะ
คนที่สามทำสัญญายอมรับใช้ทรัพย์แทนผู้รับฝากนั้นไม่ต้องปิดอากรแสตมป์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาชดใช้ค่าเสียหายจากการยักยอกทรัพย์ การฟ้องซ้ำ และการไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
ถอนฟ้องคดีแพ่งแล้วกลับมาฟ้องใหม่ได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 176 และไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต รับฝากของที่ขะโมยเขามา มารดาและพี่ของผู้รับฝากทำสัญญายอมใช้ราคาของที่ฝากให้แก่เจ้าของและคนขะโมย เจ้าของย่อมฟ้องเรียกเงินตามสัญญานั้นได้และสัญญาชะนิดนี้ไม่ใช่สัญญาประกันการทำยอมใช้ทรัพย์ยักยอกอันเป็นความผิด ส่วนตัวนั้นไม่นับว่าสัญญาเป็นโมฆะคนที่สามทำสัญญายอมรับใช้ทรัพย์แทนผู้รับฝากนั้นไม่ต้องปิดแสตมป์
of 3