คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 453

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยืมทรัพย์ที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากมีหลักฐานการซื้อขาย ย่อมไม่สามารถบังคับตามฟ้องได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเครื่องรับ - ส่งวิทยุไปแล้วไม่คืน ขอให้บังคับจำเลยคืนทรัพย์ที่ยืมหรือใช้ค่าเสียหาย เป็นการฟ้องอ้างมูลเรื่องยืมเป็นหลักแห่งคำขอบังคับจำเลย เมื่อทางนำสืบฟังได้ว่า โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายเครื่องรับ - ส่งวิทยุพิพาทเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามฟ้อง จึงบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทเรื่องยืมหรือซื้อขายทรัพย์สิน การพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามสัญญาซื้อขายมีน้ำหนักกว่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเครื่องรับ-ส่งวิทยุไปแล้วไม่คืนขอให้บังคับจำเลยคืนทรัพย์ที่ยืมหรือใช้ค่าเสียหาย เป็นการฟ้องอ้างมูลเรื่องยืมเป็นหลักแห่งคำขอบังคับจำเลย เมื่อทางนำสืบฟังได้ว่า โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายเครื่องรับ-ส่งวิทยุพิพาทเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามฟ้อง จึงบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยสัญญาซื้อขายไม้แป้นรองมิเตอร์: การปฏิบัติตามสัญญาเป็นพ้นวิสัยต้องพิจารณาจากข้อตกลงและข้อเท็จจริง
สัญญาซื้อขายที่จำเลยทำไว้กับโจทก์มิได้มีข้อความระบุถึงเรื่องให้จำเลยต้องนำไม้ที่จะขายให้โจทก์จากในป่าซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 1 ประกาศปิดป่า และในประกาศของกองทัพดังกล่าวก็ระบุไว้แต่เพียงห้ามบุคคลเข้าไปหรืออยู่อาศัยในเขตพื้นที่บางจังหวัดเท่านั้น ทั้งยังประกาศใช้บังคับมาก่อนจำเลยได้เสนอและทำสัญญาขายไม้แป้นรองมิเตอร์ ให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์เลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้จัดให้มีการประมูลใหม่ ผู้ที่ประมูลได้ก็จัดหาไม้แป้นรองมิเตอร์ ตามประเภท ชนิด และขนาดเช่นเดียวกับที่จำเลยทำสัญญาขายให้แก่โจทก์ได้ การที่จำเลยไม่สามารถหาไม้แป้นรองมิเตอร์ มาขายให้โจทก์ได้ตามสัญญา จึงมิใช่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ถือว่าจำเลยผิดสัญญา โจทก์ประกอบกิจการในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่บุคคลทั่วไปการที่โจทก์ต้องเสียเวลาล่าช้าในการนำไม้แป้นรองมิเตอร์ ที่จำเลยไม่ได้ส่งมอบให้โจทก์ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาไปใช้ย่อมทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่จะได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า ถือได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การได้มาและการโอนสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยมีหลักฐานการครอบครองที่แข็งแกร่งกว่า
จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ได้ให้ ต. เช่า ต.ให้อ.อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทดังนั้นแม้อ. จะขาย ที่ดินพิพาทให้โจทก์จริง อ. ก็ไม่มีสิทธิครอบครองที่จะโอนให้ โจทก์ โจทก์จึงไม่ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 693/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การโอนสิทธิที่ดินโดยผู้ไม่มีสิทธิทำให้ผู้รับโอนไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท และได้ให้ ต.เช่าต.ให้อ. อาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท ดังนั้น การที่ อ.ขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ โจทก์ก็ไม่ได้ สิทธิครอบครอง เพราะ อ.ไม่มีสิทธิครอบครองที่จะโอนให้แก่โจทก์ได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของกรรมการผู้จัดการจากการลงนามในใบสั่งซื้อแทนบริษัท และการจำกัดขอบเขตค่าเสียหายจากการผิดสัญญา
จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดมี ส. เป็นกรรมการผู้จัดการ การที่ ส. สั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แม้จะลงลายมือชื่อในใบสั่งซื้อเพียงผู้เดียว ก็ถือได้ว่า ส. ทำการแทนจำเลยจำเลยจึงต้องรับผิดชอบตามใบสั่งซื้อดังกล่าว จำเลยสั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แล้วต่อมาเป็นฝ่ายผิดสัญญาเงินกำไรที่โจทก์จะได้รับจึงเป็นค่าเสียหายตามปกติอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลย จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ชดใช้ให้โจทก์ ส่วนค่าจ้างทำแม่พิมพ์กรอบรูปนั้น โจทก์มีข้อตกลงกับ ท. ซึ่งโจทก์ว่าจ้างให้ทำกรอบรูปเพื่อขายให้จำเลยว่า หากมีการส่งมอบกรอบรูปให้จำเลยเรียบร้อยค่าจ้างแม่พิมพ์ ท. จะเป็นผู้ออก แต่หากผิดสัญญาโจทก์ต้องรับผิดชอบเองเช่นนี้ แม้ค่าจ้างทำแม่พิมพ์จะเป็นค่าเสียหายอันเนื่องจากการที่จำเลยผิดสัญญา แต่ก็เป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยไม่สามารถคาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นได้ก่อนล่วงหน้า โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งซื้อสินค้าโดยกรรมการผู้จัดการของบริษัทจำกัด ถือเป็นการกระทำแทนบริษัท และขอบเขตความรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดมี ส. เป็นกรรมการผู้จัดการการที่ ส. สั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แม้จะลงลายมือชื่อในใบสั่งซื้อเพียงผู้เดียว ก็ถือได้ว่า ส. ทำการแทนจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดชอบตามใบสั่งซื้อดังกล่าว จำเลยสั่งซื้อกรอบรูปจากโจทก์แล้วผิดสัญญา เงินกำไรที่โจทก์จะได้รับจากการขายกรอบรูปย่อมเป็นค่าเสียหายตามปกติอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลย จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชดใช้ให้โจทก์ ส่วนค่าจ้างทำแม่พิมพ์กรอบรูปนั้น โจทก์มีข้อตกลงกับ ท.ซึ่งโจทก์ว่าจ้างให้ทำกรอบรูปเพื่อขายให้จำเลยว่า หากมีการส่งมอบกรอบรูปให้จำเลยเรียบร้อยค่าจ้างแม่พิมพ์ ท. จะเป็นผู้ออก แต่หากผิดสัญญาโจทก์ต้องรับผิดชอบเอง เช่นนี้ แม้ค่าจ้างทำแม่พิมพ์จะเป็นค่าเสียหายอันเนื่องจากการที่จำเลยผิดสัญญา แต่ก็เป็นค่าเสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยไม่สามารถคาดเห็นหรือควรจะคาดเห็นได้ก่อนล่วงหน้า โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายจ่ายสร้างภาพยนตร์เป็นการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายซื้อขายสินค้า ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี(5)
โจทก์สร้างภาพยนตร์เพื่อนำออกฉายหารายได้จากผู้เข้าชมซึ่งมาหาความบันเทิง ผู้ชมภาพยนตร์เพียงแต่ได้ชมภาพและฟังเสียงของภาพยนตร์ชั่วระยะเวลาอันสั้นโดยเสียเงินค่าตอบแทน หาได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในภาพยนตร์นั้นแต่ประการใด แม้ฟิล์มภาพยนตร์ที่โจทก์ฉายหารายได้แล้วครั้งแรกหรือที่เรียกว่ากากหนังจะมีค่าหรือราคาลดน้อยลงไป แต่ภาพยนตร์หรือฟิล์มภาพยนตร์นั้นยังคงเป็นทรัพย์สินและเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์ยังสามารถนำออกฉายหาผลประโยชน์หรือขายขาดให้บุคคลอื่นต่อไปได้อีก หาได้เสื่อมค่าหมดไปไม่ กิจการของโจทก์จึงไม่เข้าลักษณะซื้อขายสินค้ารายจ่ายต่าง ๆ ที่โจทก์เสียไปเนื่องจากการสร้างภาพยนตร์จึงมีลักษณะเป็นการลงทุน ต้องห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 488/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายจ่ายสร้างภาพยนตร์เป็นค่าลงทุน ไม่สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้
ภาพยนตร์ที่โจทก์สร้างโจทก์สามารถนำไปฉายหาผลประโยชน์ได้ทั่วประเทศ แม้ฟิล์มภาพยนตร์ที่โจทก์ฉายหารายได้แล้วครั้งแรกหรือที่เรียกว่ากากหนังจะมีค่าหรือราคาลดน้อยลงไป แต่ภาพยนตร์หรือฟิล์มภาพยนตร์นั้นยังคงเป็นทรัพย์สินและเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์อยู่ การสร้างภาพยนตร์ของโจทก์เพื่อนำออกฉายหารายได้จากผู้ชมซึ่งได้ชมภาพและฟังเสียงของภาพยนตร์ชั่วระยะเวลาอันสั้นหาได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในภาพยนตร์นั้นแต่ประการใด กิจการของโจทก์จึงไม่เข้าลักษณะซื้อขายสินค้า รายจ่ายต่าง ๆ ที่โจทก์เสียไปเนื่องจากการสร้างภาพยนตร์ จึงเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนต้องห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ตรี (5).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์มือสอง: สิทธิเรียกร้องโอนกรรมสิทธิ์เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่มีความสัมพันธ์กับรถ
รถคันพิพาทที่โจทก์ซื้อจากจำเลยที่ 1 เป็นของจำเลยที่ 2และจำเลยที่ 2 มิได้เชิดจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทน ดังนั้น จำเลยที่ 2จึงไม่มีนิติสัมพันธ์อันใดเกี่ยวกับรถคันพิพาทกับโจทก์ การโอนทะเบียนรถยนต์อันเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจของจำเลยที่ 2 ที่จะปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายกับโจทก์ได้ต่อไป สภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนรถคันพิพาทเป็นชื่อของโจทก์ได้.
of 71