คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 453

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2398/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละประเด็นในชั้นชี้สองสถาน การวินิจฉัยตามกฎหมายพิเศษ (พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์) และการนำข้อเท็จจริงที่ยอมรับมาใช้ในการตัดสิน
เดิมศาลชั้นต้นได้ชี้สองสถานกำหนดประเด็นข้อพิพาทในคดีไว้ แล้ว ต่อมาคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงว่า ขอสละประเด็นในชั้นชี้สองสถานทั้งหมด และติดใจขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายตามคำแถลงที่ศาลชั้นต้นจดไว้นั้นดังนี้หมายความว่า ประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดขึ้นในชั้นชี้สองสถาน คู่ความขอสละ หาได้หมายความรวมถึงข้อเท็จจริงข้อกฎหมายที่ปรากฏในคำฟ้อง คำให้การที่ไม่เป็นประเด็นแห่งคดีซึ่งโจทก์กล่าวอ้าง จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธถือว่าจำเลยยอมรับแล้วตามกฎหมายไม่ ศาลจึงย่อมนำมารับฟังและวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกสำนวน เมื่อหุ้นพิพาทที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็น หลักทรัพย์ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2517ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะจึงไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1129 ในการวินิจฉัยคดีศาลต้องนำกฎหมายมาปรับแก่คดีให้ตรงตามรูปคดีที่พิพาทกันไม่จำต้องพิพากษาไปตามคำแถลงของคู่ความหรือตามความประสงค์ของคู่ความ เมื่อฟังว่าเป็นเรื่องพิพาทกันตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอันเป็นกฎหมายพิเศษ ก็จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาวินิจฉัยคดีหาได้ไม่ แม้จะเป็นความประสงค์ของคู่ความหรือคู่ความแถลงขอก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินที่มีการระบุการชำระเงินครบถ้วน ถือเป็นหลักฐานสำคัญกว่าพยานบุคคลที่ขัดแย้ง
หนังสือสัญญาขายที่ดินระบุว่า ผู้ขายยอมขายที่ดินแปลงดังกล่าว ให้แก่ผู้ซื้อพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นราคาเงิน 700,000 บาท ผู้ซื้อได้ชำระ และผู้ขายได้รับเงินค่าที่ดิน รายนี้เสร็จแล้ว แสดงว่าโจทก์(ผู้ขาย) ยอมรับว่าจำเลย (ผู้ซื้อ) ได้ชำระเงินค่าที่ดินทั้งหมดให้โจทก์แล้ว ในวันทำสัญญา การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 การที่โจทก์นำพยานบุคคลมาสืบว่า ในวันทำ หนังสือขายที่ดินดังกล่าว โจทก์ยังไม่ได้รับชำระเงิน ค่าที่ดินเพราะจำเลย ไม่มีเงิน จำเลยได้ตกลงกับ ส. เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อันแท้จริงว่าจะนำมาชำระให้ ส. ที่สำนักงานบริษัทของส. ภายใน 7 วันนั้น เป็น การนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในหนังสือสัญญาขายที่พิพาทเป็นการต้องห้ามมิให้ศาลยอมรับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 ดังนั้นจึงต้อง ฟังตามหนังสือสัญญาขายที่ดินว่า โจทก์ ได้รับชำระราคาที่ดิน ที่ขายพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยเป็นเงิน 700,000 บาท ตามที่ปรากฏในหนังสือสัญญาดังกล่าว
เมื่อโจทก์จำเลยทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่พิพาทและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว การซื้อขายย่อมเสร็จเด็ดขาด กรรมสิทธิ์ใน ทรัพย์สินที่ขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อในทันที เมื่อได้ทำสัญญากันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 การชำระราคาทรัพย์สินที่ขายเป็นเพียงข้อกำหนดของ สัญญาเท่านั้น หาใช่สาระสำคัญที่จะทำให้ สัญญาซื้อขายไม่ สมบูรณ์ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อที่มิได้ปิดอากรแสตมป์เป็นหลักฐานฟ้องคดีมิได้ และลักษณะสัญญาเช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หนังสือสัญญาใช้ชื่อว่า หนังสือสัญญาขายโดยมีเงื่อนไข คู่สัญญา ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า'เจ้าของ' อีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า'ผู้จะซื้อ' มีข้อความว่าตกลงจะซื้อขายโทรทัศน์สีตามราคาที่กำหนด ชำระเงินในวันทำสัญญาจำนวนหนึ่ง ที่เหลือผ่อนชำระเป็นงวด และกำหนดเงื่อนไขไว้ว่า กรรมสิทธิ์ในโทรทัศน์สีจะตกแก่ผู้จะซื้อ เมื่อผู้จะซื้อปฏิบัติตามข้อสัญญาทั้งหมด รวมทั้งได้ชำระเงิน ครบถ้วนแล้ว มีลักษณะเป็น ทำนองเจ้าของเอาโทรทัศน์สี ออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะให้โทรทัศน์สีตกเป็นสิทธิแก่ผู้จะซื้อ โดยเงื่อนไขที่ ผู้จะซื้อได้ชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว และมี ข้อสัญญาที่มีผลเท่ากับให้ผู้จะซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ด้วยการไม่ชำระราคาต่อไปโดยส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของ กับ ให้ริบเงินที่ได้ใช้มาแล้วได้ด้วย อันเป็นวิธีการของสัญญาเช่าซื้อ ข้อสัญญาที่ว่าให้ผู้จะซื้อชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ครบถ้วนแล้ว จึงให้กรรมสิทธิ์ตกเป็น ของผู้จะซื้อมิใช่เป็นเพียงเงื่อนไข การโอนกรรมสิทธิ์เท่านั้น สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาเช่าซื้อ สัญญาเช่าซื้อที่มิได้ปิดอากรแสตมป์จะใช้เป็นหลักฐานฟ้อง คดีมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อไม่ปิดอากรแสตมป์ใช้เป็นหลักฐานฟ้องคดีไม่ได้ แม้มีลักษณะคล้ายสัญญาซื้อขาย
หนังสือสัญญาใช้ชื่อว่า หนังสือสัญญาขายโดยมีเงื่อนไข คู่สัญญา ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า'เจ้าของ' อีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า'ผู้จะซื้อ' มีข้อความว่าตกลงจะซื้อขายโทรทัศน์สีตามราคาที่กำหนด ชำระเงินในวันทำสัญญาจำนวนหนึ่ง ที่เหลือผ่อนชำระเป็นงวด และกำหนดเงื่อนไขไว้ว่า กรรมสิทธิ์ในโทรทัศน์สีจะตกแก่ผู้จะซื้อ เมื่อผู้จะซื้อปฏิบัติตามข้อสัญญาทั้งหมด รวมทั้งได้ชำระเงิน ครบถ้วนแล้ว มีลักษณะเป็น ทำนองเจ้าของเอาโทรทัศน์สี ออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะให้โทรทัศน์สีตกเป็นสิทธิแก่ผู้จะซื้อ โดยเงื่อนไขที่ ผู้จะซื้อได้ชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว และมี ข้อสัญญาที่มีผลเท่ากับให้ผู้จะซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ด้วยการไม่ชำระราคาต่อไปโดยส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของ กับ ให้ริบเงินที่ได้ใช้มาแล้วได้ด้วย อันเป็นวิธีการของสัญญาเช่าซื้อ ข้อสัญญาที่ว่าให้ผู้จะซื้อชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ครบถ้วนแล้ว จึงให้กรรมสิทธิ์ตกเป็น ของผู้จะซื้อมิใช่เป็นเพียงเงื่อนไข การโอนกรรมสิทธิ์เท่านั้น สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาเช่าซื้อ
สัญญาเช่าซื้อที่มิได้ปิดอากรแสตมป์จะใช้เป็นหลักฐานฟ้อง คดีมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: การชำระหนี้ต้องเป็นไปตามหลักสัญญาต่างตอบแทน หากฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายก็ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนที่พิพาทตามสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์โดยไม่บังคับให้โจทก์ชำระค่าที่พิพาทที่ค้างชำระ ให้แก่จำเลย ย่อมไม่ชอบด้วยการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 ปัญหาที่ว่า ศาลชั้นต้น พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยมีสิทธิยกปัญหาดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชำระค่าที่ดินที่ค้างชำระ แก่จำเลยจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4024/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข (ผ่อนส่ง) ไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ แม้มีเงื่อนไขเอารถคืนหากผิดสัญญา
สัญญาท้ายฟ้องระบุราคารถยนต์ที่ซื้อขายเป็นเงิน 130,650 บาท โดยตกลงกันในข้อ 2 ว่า ผู้ซื้อจะชำระราคาแก่ผู้ขายเป็นรายเดือน เดือนละ 4,355 บาท รวม 30 เดือนและระบุไว้ในข้อ 10 ว่า กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายยังเป็นของผู้ขายโดยไม่โอนไปยังผู้ซื้อจนกว่าผูขายจะได้รับชำระค่าซื้อครบถ้วน ตามสัญญาแล้ว สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 459 ไม่ใช่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แม้จะมีข้อ 11 ระบุว่าหากผู้ซื้อผิดสัญญา สัญญาเลิกกันทันทีโดยผู้ขายมิต้องบอกกล่าวและมีสิทธิเอารถคืนโดยไม่ต้องคืนเงินที่ผู้ซื้อชำระแล้ว ก็เป็นเพียงการรักษาผลประโยชน์ของผู้ขายเท่านั้น หาทำให้สัญญาซื้อขาย กลับกลายเป็นสัญญาเช่าซื้อไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยผิดสัญญาซื้อขายไม้ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย แม้พิสูจน์จำนวนความเสียหายไม่ได้ ศาลกำหนดตามสมควรได้
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ แม้โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการผิดสัญญาของจำเลยเป็นจำนวนเท่าใด ศาลก็กำหนดค่าเสียหายให้ตามสมควรแก่พฤติการณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการผิดสัญญา แม้ไม่สามารถพิสูจน์ความเสียหายเป็นจำนวนแน่นอนได้
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ แม้โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการผิดสัญญาของจำเลยเป็นจำนวนเท่าใดศาลก็กำหนดค่าเสียหายให้ตามสมควรแก่พฤติการณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายน้ำมัน: สัญญาผูกพันตามหลักกฎหมาย แม้มีวิกฤตการณ์น้ำมันก็ไม่อาจลบล้างได้
จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของจำเลย โจทก์ได้ทำใบสั่งซื้อน้ำมันชนิดต่าง ๆ จากจำเลย ใบสั่งซื้อจึงเป็นคำเสนอของโจทก์ เมื่อจำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่าสินค้าที่โจทก์สั่งซื้อและยังขนไปไม่หมดนั้น จำเลยยินดีให้ราคาเก่าถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2522 ทั้งต่อมายังได้มีหนังสือถึงโจทก์อีกว่า จำเลยพร้อมจะให้โจทก์รับสินค้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอยู่บ้าง จำเลยก็จะผลิตน้ำมันส่วนที่โจทก์ต้องการให้ถึงที่สุด ดังนี้ สัญญาซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์จำเลยได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อสัญญาซื้อขายน้ำมันเกิดขึ้นแล้ว ผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 461 จำเลยจะอ้างประเพณีการค้าว่าบริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อโดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วแก่ผู้ซื้อหรือเพราะเกิดวิกฤติการณ์น้ำมันขึ้นทั่วโลกมาเป็นข้อบอกปัดไม่ขายน้ำมันให้แก่โจทก์หาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215, 222

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายน้ำมัน: สัญญาเกิดขึ้นเมื่อตกลงซื้อขาย แม้มีวิกฤตการณ์น้ำมันก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา
จำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของจำเลย โจทก์ได้ทำใบสั่งซื้อน้ำมันชนิดต่างๆ จากจำเลย ใบสั่งซื้อจึงเป็นคำเสนอของโจทก์ เมื่อจำเลยมีหนังสือตอบโจทก์ว่าสินค้าที่โจทก์สั่งซื้อและยังขนไปไม่หมดนั้น จำเลยยินดีให้ราคาเก่าถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2522 ทั้งต่อมายังได้มีหนังสือถึงโจทก์อีกว่า จำเลยพร้อมจะให้โจทก์รับสินค้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2522 แม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับภาชนะบรรจุอยู่บ้าง จำเลยก็จะผลิตน้ำมันส่วนที่โจทก์ต้องการให้ถึงที่สุดดังนี้ สัญญาซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์จำเลยได้เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อสัญญาซื้อขายน้ำมันเกิดขึ้นแล้ว ผู้ขายจำต้องส่งมอบทรัพย์ที่ขายให้แก่ผู้ซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 461จำเลยจะอ้างประเพณีการค้าว่าบริษัทผู้ขายน้ำมันไม่จำต้องผูกพันว่าจะต้องขายน้ำมันให้แก่ผู้ซื้อโดยผู้ขายมีสิทธิคืนเงินราคาที่ชำระแล้วแก่ผู้ซื้อหรือเพราะเกิดวิกฤติการณ์น้ำมันขึ้นทั่วโลกมาเป็นข้อบอกปัดไม่ขายน้ำมันให้แก่โจทก์หาได้ไม่
เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบทรัพย์ที่ซื้อขายตามสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การไม่ส่งมอบนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215,222
of 71